ความคืบหน้าล่าสุดของโครงการคมนาคมที่จะกลายมาเป็นศูนย์กลางการเดินทางด้วยระบบรางที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทยอย่าง สถานีรถไฟกลางบางซื่อ (Grand Station) นั้น นายวรวุฒิ มาลา รักษาการผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้ออกมาให้คำยืนยันว่ากำหนดการต่างๆ ของการก่อสร้างยังคงเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยนแปลง โดยส่วนของงานก่อสร้างงานโยธาจะแล้วเสร็จในเดือนเม.ย. ส่วนงานเดินระบบและจัดขบวนรถจะเสร็จในเดือน มิ.ย. นี้ คากการณ์ว่าจะทดลองเดินรถปลายปี 2563 และเปิดใช้งานเดือน ม.ค. 64 ตามเป้าหมายที่วางไว้แต่แรกเหมือนเดิม แต่ยังเปิดเฉพาะบริการเดินรถเท่านั้น
โดยนายวรวุฒิ มาลา ยังได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับ สถานีกลางบางซื่อ ที่มีความคืบหน้าในการก่อสร้างแล้ว 98% ว่าพื้นที่ทั้งหมดจะมีความยาว 596.6 เมตร ความกว้าง 244 เมตร ความสูง 43 เมตร พื้นที่ใช้สอยรวม 274,192 ตารางเมตร ซึ่งจะมาทดแทนการทำหน้าที่ขนส่งของสถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) ที่จะถูกลดบทบาทการใช้งานลงไป โดยระยะแรกจะย้ายเฉพาะขบวนรถทางไกลมาที่สถานีกลางบางซื่อก่อน คงเหลือขบวนระยะสั้นใกล้ทิศทางตะวันออกไว้
และทาง รฟท.จะยังทำการจัดหารถไฟใหม่ ซึ่งเป็นระบบไฟฟ้า 184 คัน เพื่อนำมาทดแทน และสามารถขึ้นไปให้บริการที่ชั้น 2 ได้โดยเร็วที่สุด ส่วนสายสีแดงได้รับรถมาแล้ว 5 ขบวน ประกอบด้วย 1 ขบวน 6 ตู้ 2 ชุด และ 2 ขบวน 4 ตู้ 3 ชุด ส่วนที่เหลืออีก 20 ขบวน 106 ตู้ จะทยอยเดินทางมาถึงประเทศไทยภายในเดือนมิถุนายมนี้ เป็นรถไฟสายสีแดง และรถไฟสายสีแดงรุ่นใหม่จากจีนที่สามารถขึ้นชานชาลาชั้น 2 ได้ ประมาณ 30-40 ขบวน จากทั้งหมด 130 ขบวน
ทั้งนี้จากการคาดการณ์โครงการระบบรถไฟชายเมืองสายสีแดงช่วง บางซื่อ–รังสิต เชื่อว่าจะมีผู้โดยสารที่เข้ามาใช้บริการสถานีรถไฟกลางบางซื่อในปี 2564 อยู่ที่จำนวน 208,000 คน–เที่ยว / วัน และเพิ่มเป็น 396,600 คน–เที่ยว / วัน ในปี 2575 ซึ่งจะส่งผลให้สถานีกลางบางซื่อกลายเป็นศูนย์กลางการเดินทางด้วยระบบรางแห่งใหม่ของประเทศ รวมทั้งเป็นจุดเชื่อมต่อการเดินทางที่ใหญ่และทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคอาเซียน
