สภาพการจราจรติดขัดและมลภาวะทางอากาศเป็นปัญหาที่ชาวกรุงต้องเผชิญในทุกวัน โดยข้อมูลจากกรมควบคุมมลพิษพบว่า ยานพาหนะมีสัดส่วนในการก่อมลภาวะถึง 40% ขณะที่รถจักรยานยนต์ที่ใช้น้ำมันถือเป็นตัวแปรสำคัญ เพราะแต่ละปีถูกจำหน่ายออก ปีละไม่ต่ำกว่า 2 ล้านคัน ซึ่งหากชาวกรุงมีตัวเลือกอย่างรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า EV คาดว่าจะช่วยลดปัญหามลภาวะดังกล่าวได้
ตลาดรถจักรยานยนต์ไทยโตต่อเนื่อง
ข้อมูลจากกลุ่มสถิติการขนส่ง กองแผนงาน กรมการขนส่งทางบก ระบุว่า จำนวนรถจดทะเบียนสะสม ณ วันที่ 31 มกราคม 2562 ส่วนกลาง กรุงเทพฯ มีทั้งหมด 10,293,064 คัน แบ่งเป็นรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล (Motorcycle) 3,683,149 คัน ซึ่งมีปริมาณเกือบเทียบเท่ากับจำนวนรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง (Sedan) 4,529,691 คัน (ดูอินโฟกราฟิกประกอบ 1)
ด้านวิจัยกรุงศรี เผยแนวโน้มอุตสาหกรรมรถจักรยานยนต์ ปี 2561-63 พบว่า ความต้องการรถจักรยานยนต์ในประเทศมีแนวโน้มขยายตัวตามภาวะเศรษฐกิจที่เติบโตต่อเนื่อง ประกอบกับคาดว่าจะมีเม็ดเงินสะพัดในช่วงหาเสียงเลือกตั้งในปี 2562
ข้อมูลจาก Statista พบว่า ตลาดรถจักรยานยนต์ของโลกกระจุกตัวอยู่ในประเทศภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก มีสัดส่วนการจำหน่ายในภูมิภาคนี้ถึง 80% ของปริมาณการจำหน่ายทั่วโลกในแต่ละปี โดยฐานผลิตรถจักรยานยนต์ของโลกส่วนใหญ่อยู่ในภูมิภาคเอเชีย ไทยมีสถานะเป็นประเทศผู้ผลิตรถจักรยานยนต์สำคัญอันดับ 5 ของโลก รองจากอินเดีย จีน อินโดนีเซีย และเวียดนาม ตามลำดับ (ดูอินโฟกราฟิกประกอบ 2)
ขณะที่ตลาดรถจักรยานยนต์ในกรุงเทพฯและปริมณฑลยังคงเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาด Big Bike เนื่องจากลูกค้าเป้าหมาย เป็น กลุ่มผู้มีรายได้ค่อนข้างสูงที่ต้องการ Big Bike ไว้ขับขี่เพื่อเป็นงานอดิเรก
สำหรับประเทศ ไทย แม้กระแสของยานยนต์ไฟฟ้าจะไปในทิศทางที่ดีขึ้นบ้าง ด้วยปัจจัยจากการสนับสนุนของภาครัฐ ในการกำหนดอัตราภาษีสรรพสามิตที่เอื้อให้ผู้บริโภคเข้าถึงได้ง่ายขึ้น จนทำให้ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า รถยนต์อีโคคาร์ มียอดขายถึง 171,000 คัน ขยายตัว 37% เมื่อเทียบกับปี 2560 แต่ถ้าดูในแง่ของความพยายามที่จะไปสู่รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า เรียกว่าไทยยังล้าหลัง ด้วยความนิยมยังไม่มากนัก อีกทั้งจุดให้บริการชาร์จแบตเตอรี่ก็ยังมีไม่ทั่วถึง ทำให้ไทยก้าวเข้าสู่รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า EV ได้ช้ากว่าประเทศอื่นๆ
กระตุ้นใช้รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า EV
ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ตลาดยานยนต์ของโลกเป็นไปในลักษณะก้าวกระโดด โดยเฉพาะการพัฒนาของเทคโนโลยีการขับเคลื่อนของยานยนต์ไฟฟ้า อย่างในประเทศกลุ่มยุโรป เริ่มมีนโยบายไม่ให้รถจักยานยนต์ที่ใช้น้ำมันวิ่งบนท้องถนนภายในปี ค.ศ. 2030 เช่น สวีเดน เดนมาร์ก นอร์เวย์ และไอร์แลนด์ ส่วนในประเทศฝรั่งเศส สเปน และสหราชอาณาจักร ตั้งเป้าไว้ภายในปี 2040 ซึ่งโซลูชั่นที่จะเข้ามาแก้ปัญหานี้ได้คือ รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า EV (ดูอินโฟกราฟิกประกอบ 3)
คุณอเล็กซานดรา ไรช์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และรักษาการรองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการตลาด บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค เปิดเผยว่า ปัญหามลพิษในกรุงเทพฯ ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน หนึ่งในแนวทางแก้ปัญหาคือ การเปลี่ยนพฤติกรรมมาใช้รถยนต์และรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า EV เพื่อช่วยบรรเทาปัญหา มลพิษทางการอากาศอย่างยั่งยืน เช่น หลายเมืองในสาธารณรัฐประชาชนจีนรณรงค์ให้ประชาชนใช้การเดินทางด้วยรถไฟฟ้า อันเป็นกลยุทธ์สำคัญของแผนการพัฒนาเมืองที่กำลังเติบโต ซึ่งเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา จีนมีรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า EV เพียง 60,000 คัน แต่ปัจจุบันมีใช้ถึง 21 ล้านคัน
ดีแทค ในฐานะผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม EV Connectivity จะเป็นผู้ที่เชื่อมโยงผู้ผลิตรถไฟฟ้า EV บริษัทประกัน บริษัทเช่าซื้อและสถาบันการเงินและสินเชื่อ บริการเปลี่ยนถ่ายแบตเตอรี่หลายจุดทั่วกรุงเทพฯ บริการการรับชำระเงินผ่านระบบบิลลิ่งของดีแทคและพันธมิตร รวมถึงบริการซ่อมบำรุงหลังการขาย โดยเข้าถึงบริการต่างๆ ได้ผ่านการเชื่อมต่อของซิมดีแทค ไตรเน็ต ซึ่งเป็นหัวใจในการเชื่อมต่อผ่านแอปพลิเคชัน ทั้งหมดได้ถูกออกแบบให้เชื่อมโยงกันผ่านแอปพลิเคชันเดียว ซึ่งนอกเหนือจากการใช้งานบนฟีเจอร์การขับขี่ปกติ เช่น เช็คสถานะแบตเตอรี่ ชำระค่าเปลี่ยนถ่ายแบตเตอรี่ การแจ้งระยะทางและระบบอำนวยความสะดวกในการค้นหาเส้นทางการ เดินทาง ระบบกันขโมย การกำหนดความเร็วสูงสุด แล้วยังสามารถชำระค่าเช่าซื้อ การรับประกันได้อีกด้วย นอกจากนี้ ดีแทคและกลุ่มพันธมิตรยังจัดเตรียมความพร้อมด้านบริการหลังการขายและการซ่อมบำรุงอย่างครบวงจร
โดยเฟสแรก ดีแทคและฟอร์ทสมาร์ท ร่วมกันเปิดจุดบริการชาร์จไฟฟ้าและเปลี่ยนแบตเตอรี่ผ่านตู้อัจฉริยะในพื้นที่ทดลองให้บริการในกรุงเทพฯ และจะขยายจุดบริการเพิ่มขึ้นต่อไปในอนาคต ส่วน เอ็ม วิชั่น เป็นตัวกลางประสานงานกับผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า
แม้ความนิยมใช้รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า EV ในประเทศไทยยังไม่แพร่หลาย แต่ด้วยคุณสมบัติที่เหมาะกับสภาพจราจรในเมืองแออัดอย่างกรุงเทพมหานคร และหากได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐ เชื่อว่าในอนาคตคนจะหันมาใช้รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า EV กันมากขึ้น ซึ่งนอกจากจะช่วยลดมลภาวะแล้ว ยังสามารถพลิกโฉมอุตสาหกรรมยานยนต์และกระตุ้นให้เกิดการลงทุนในอุตสาหกรรมการผลิตที่ใช้เทคโนโลยีชั้นสูงเพื่อสิ่งแวดล้อมของไทยได้ สอดคล้องตามแผนยุทธศาสตร์ของรัฐบาลที่ส่งเสริมการใช้รถยนต์ EV ในประเทศไทย
__________
คุณอเล็กซานดรา ไรช์ – ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และรักษาการรองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการตลาด ดีแทค
“ปัญหามลพิษ ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน และทุกคนสามารถเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการการแก้ปัญหานี้อย่างยั่งยืน ซึ่งหนึ่งในแนวทางคือ การเปลี่ยนพฤติกรรมมาใช้รถยนต์และรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า EV ที่นอกเหนือจากจะช่วยบรรเทาปัญหามลพิษทางการอากาศอย่างยั่งยืนแล้ว ยังสามารถช่วยพลิกโฉมอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยด้วย”
[English]
Electric Motorcycles, Another Future Choice for Lives in the City
As data from the Department of Pollution Control suggested that 40% of air pollution was caused by automobiles, it is worth noting that motorcycles, which register average annual sales of over 2,000,000 units, may be a solution to this.
A survey by Krungsri Research forecasts domestic demand for motorcycle is likely on a rise along the growing economy, just as Thailand is noted to be the world’s fifth-largest motorcycle producer.
As the automotive industry continues its development, the adoption of electric power is becoming more accepted, like in some European markets, where the use of vehicles running on fuel is set to be ended by 2030.
Total Access Communication (DTAC), as an EV (electric vehicle) Connectivity platform, aims to help connect EV producers with insurance companies, auto-leasing companies, financial institutions, and related maintenance and service providers to help promote the use of EVs and electronic motorcycles.
