เผยท่องเที่ยวแนวสุขภาพ-หลายเจนเทรนด์มาแรง คาดปีนี้คนไทยเที่ยวต่างประเทศเพิ่มขึ้น 7.4% จากปัจจัยเงินบาทแข็งค่า โปรโมชันราคาถูก และมีการขยายเส้นทางการบินไปยังจุดหมายปลายทางใหม่ๆ ให้เลือกท่องเที่ยวตลอดปี
คนไทยเที่ยวนอก ปี 2562 ทำเงินสะพัด 3.9 แสนล้านบาท
ฤดูกาลท่องเที่ยวของคนไทยในการไปต่างประเทศมีอยู่ 2 ช่วง คือ ช่วงเดือนมีนาคม-เดือนพฤษภาคม และช่วงเดือนตุลาคม-เดือนธันวาคม ของทุกปี เนื่องจากมีช่วงวันหยุดยาวติดต่อกัน และเป็นช่วงปิดเทอม โดยจากการสำรวจของสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) พบว่ามีคนไทยที่วางแผนเดินทางท่องเที่ยวในต่างประเทศ ช่วงไตรมาส 2/2562 จำนวน 13% โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดเทศกาล ประกอบกับสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กที่เกิดขึ้นนั้น ก็มีผลต่อการตัดสินใจไปท่องเที่ยวในต่างแดนแทน
ขณะที่ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่าการเดินทางของนักท่องเที่ยวไทยไปต่างประเทศในปีนี้ จะยังขยายตัวดีต่อเนื่อง คาดว่าจะมีคนไทยไปท่องเที่ยวต่างประเทศ ประมาณ 10.55 – 10.75 ล้านคน ซึ่งสูงที่สุดในรอบ 6 ปี เติบโตขึ้น 5.4% – 7.4% จากปี 2561 โดยเฉพาะในช่วงเดือนเมษายนของทุกปีจะมีความคึกคักมากเป็นพิเศษ และคาดว่าในเดือนเมษายน 2562 นี้มีคนไทยเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศประมาณ 970,000 คน เพิ่มขึ้นประมาณ 8.2% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีที่แล้ว ส่วนการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวไทยในต่างประเทศ คาดว่าจะมีมูลค่าประมาณ 385,000 – 390,690 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.5%-6.1% จากปีที่ผ่านมา
ซึ่งปัจจัยที่มีผลให้เกิดความต้องการในการเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศเพิ่มขึ้นนั้น มาจากอานิสงส์ที่เงินบาทแข็งค่า เมื่อเทียบกับค่าเงินของประเทศจุดหมายปลายทาง จึงทำให้ค่าใช้จ่ายถูกลง ขณะเดียวกันจากการเข้ามาทำตลาดการท่องเที่ยวขององค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศต่างๆ ทำให้มีจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวใหม่ๆ ที่น่าสนใจเกิดขึ้น รวมทั้งธุรกิจสายการบิน ทั้งสายการบินต้นทุนต่ำ และสายการบินที่ให้บริการเต็มรูปแบบ มีการขยายเส้นทางการบินไปยังจุดหมายปลายทางใหม่ๆ ด้วย
นอกจากนี้ การแข่งขันในกลุ่มธุรกิจนำเที่ยวที่รุนแรง ก็ทำให้ผู้ประกอบการจำเป็นต้องใช้กลยุทธ์ด้านราคามาเป็นตัวกระตุ้น ราคาในการเดินทางไปท่องเที่ยวในบางประเทศจึงถูกมองว่าคุ้มค่าเมื่อเทียบกับการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ และการเข้ามาของเทคโนโลยีดิจิทัล ทั้งสื่อสังคมออนไลน์ เว็บไซต์ รวมถึงแอปพลิเคชันบนมือถือสมาร์ทโฟน ยังกลายเป็นช่องทางสำคัญในการกระตุ้นให้คนไทยเดินทางท่องเที่ยวในต่างแดนมากขึ้น
อย่างไรก็ดี แม้ว่าคนไทยไปเที่ยวต่างประเทศถูกมองว่าเป็นการนำเงินออกไปใช้จ่ายนอกประเทศ แต่พบว่ามีผู้ประกอบการธุรกิจไทยที่เกี่ยวเนื่อง ทั้งทางตรงและทางอ้อม อย่างผู้ประกอบการบริษัทนำเที่ยว สายการบินของไทย นอกจากนี้ยังก่อให้เกิดธุรกิจและบริการรูปแบบใหม่ๆ อย่าง สถาบันการเงิน ก็มีการให้บริการทางการเงินเพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้จ่ายในต่างประเทศ เช่น การใช้จ่ายผ่านระบบ QR Code ในร้านค้าที่ประเทศญี่ปุ่น เป็นต้น รวมถึงธุรกิจขนาดเล็กอื่นๆ อย่างธุรกิจการเช่าเสื้อกันหนาวและรองเท้า ก็ได้รับประโยชน์ด้วยเช่นเดียวกัน
ญี่ปุ่น ครองจุดหมายยอดฮิต
ขณะที่จุดหมายปลายทางท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวไทย ในปี 2562 ส่วนใหญ่ยังคงเป็นการเดินทางท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชียตะวันออก โดยเฉพาะประเทศญี่ปุ่น จากรายงานขององค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศญี่ปุ่น (JNTO) พบว่า ในปีที่ผ่านมานักท่องเที่ยวไทยเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่น สูงถึง 1.13 ล้านคน และในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2562 คนไทยยังเดินทางเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ด้วยจำนวนกว่า 2 แสนคน เติบโตถึง 21.7% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกับปีที่ผ่านมา ที่น่าสนใจคืออัตราการเดินทางกลับไปท่องเที่ยวซ้ำสูงกว่าครึ่ง ซึ่งทำให้คาดว่าในปีนี้ จะมีคนไทยไปเที่ยวญี่ปุ่นกว่า 1.24 ล้านคน
นอกจากนี้ ประเทศเวียดนาม เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวไทยที่น่าจับตา โดยในช่วง 2 เดือนแรกจำนวนคนไทยไปเที่ยวเติบโตถึง 36.9% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มจำนวนสูงขึ้น ซึ่งมาจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น แผนการขยายเส้นทางการบินและจำนวนเที่ยวบินระหว่างประเทศไทยไปยังเวียดนาม ทำให้คาดว่าผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวและสายการบิน น่าจะมีการทำตลาดกระตุ้นการท่องเที่ยวเวียดนามเพิ่มขึ้น เป็นต้น
โดยในส่วนของสายการบินไทยเวียตเจ็ท ยืนยันแผนในการเพิ่มความถี่ของบริการเที่ยวบินไปยังเมืองดาลัดและดานัง เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมของเวียดนาม เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้โดยสาร ให้มีความสะดวกสบายในการเดินทางมากยิ่งขึ้น โดยเส้นทาง กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) – ดาลัด เพิ่มเที่ยวบินจาก 5 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ เป็น 7 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ (ทุกวัน) ตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน 2562 ส่วนเส้นทาง กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) – ดานัง เพิ่มเที่ยวบินจากวันละ 2 เที่ยวบิน เป็น 3 เที่ยวบินต่อวัน ตั้งแต่วันที่ 12 เมษายน 2562
เผยเทรนด์เที่ยวใหม่ในปี 2562
กระแสการท่องเที่ยวที่กำลังได้รับความนิยมและน่าจะกลายเป็นเทรนด์ใหม่ในหมู่นักท่องเที่ยวไทย ในปี 2562 พบว่ามีอยู่ 2 รูปแบบที่เกิดขึ้น โดย คุณกชภาภรณ์ รัชชานนท์กุล รองกรรมการผู้จัดการบริษัท AAR Travel เผยถึงว่า เทรนด์ท่องเที่ยวที่ควรลองในปีนี้คือ เที่ยวแบบหลาย Gen (Multigenerational Travel) ซึ่งมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเป็นการเดินทางท่องเที่ยวกับครอบครัวใหญ่ สมาชิกมีหลายเจเนอเรชัน ส่วนใหญ่จะเป็นคนรุ่นใหม่ที่พาคุณพ่อ คุณแม่ คุณปู่ คุณย่า คุณตา คุณยาย ไปท่องเที่ยวพักผ่อนแบบพร้อมหน้า พร้อมๆ กับทำกิจกรรมอื่นๆ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ สะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมแบบครอบครัวใหญ่ของชาวไทย จึงเกิดการท่องเที่ยวในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวเชิงเกษตร, การท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม รวมถึงการท่องเที่ยวเชิงอาหาร
ส่วนการท่องเที่ยวอีกหนึ่งรูปแบบที่ฮิตมากอย่างต่อเนื่องจนถึงปีนี้ คือการผสมผสานกันระหว่าง การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และท่องเที่ยวธรรมชาติ ซึ่งกลายมาเป็นทริปปั่นจักรยานชมธรรมชาติ ที่เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้น โดยเฉพาะทริปปั่นจักรยานรอบเกาะไต้หวัน และญี่ปุ่น ซึ่งเหมาะสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวเพื่อผ่อนคลายจากการทำงาน ด้วยการออกกำลังกายให้เหงื่อออกไปพร้อมๆ กับการซึมซับความสดชื่นจากธรรมชาติ
คนไทยหายในต่างแดต้องทำอย่างไร
จากข่าวที่มีเหตุการณ์ที่คนไทยหายตัวระหว่างไปท่องเที่ยวต่างประเทศ ซึ่ง มูลนิธิกระจกเงา ได้แนะนำ 10 ขั้นตอนปฏิบัติเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินในต่างบ้านต่างเมือง คือ 1. ผู้ร่วมเดินทางไปด้วยควรตรวจสอบทรัพย์สิน ของมีค่า สิ่งของจำเป็น เช่น เงิน หนังสือเดินทาง โทรศัพท์ อุปกรณ์ถ่ายภาพ เป็นต้น หากหายไปด้วย คนหายอาจออกจากที่พักด้วยความตั้งใจ แต่หากไม่ ประเมินเบื้องต้นว่าอาจไม่ได้ตั้งใจออกไปจากที่พัก เพราะไม่มีการเตรียมตัว 2. ประเมินพฤติกรรม อายุ และความสามารถในการเอาตัวรอด เช่น เด็กเล็ก ผู้สูงอายุที่มีอาการหลงลืม มีอาการป่วยหรือไม่ เป็นต้น ซึ่งมีความเสี่ยงในการพลัดหลงหรือเกิดอุบัติเหตุ 3. ประเมินเหตุจูงใจในการหายไป เช่น ทะเลาะกับคนในครอบครัว เพื่อนร่วมกรุ๊ปทัวร์ มีภาวะป่วยทางสุขภาพจิต มีความสนใจเป็นพิเศษต่อเรื่องใดในประเทศนั้นๆ หรือมีเหตุอื่นที่อาจทำให้หายตัวไป เป็นต้น 4. ตรวจสอบบริเวณที่พักหรือบริเวณที่หายไป ดูจุดที่อาจเกิดอุบัติเหตุ แหล่งน้ำ ตลอดจนจุดที่มีกล้องวงจรปิด 5. หากค้นหาไม่พบ ควรแจ้งที่สถานีตำรวจในพื้นที่ โดยขอคำแนะนำจากโรงแรมที่พัก ทั้งนี้ กฏหมายและระเบียบในการแจ้งความคนหายของแต่ละประเทศมีความแตกต่างกันเรื่องเงื่อนไขเวลาในการรับแจ้งเหตุ
6. ประสานสถานทูตไทย ดูข้อมูลที่ www.govivigo.com/travel-blog/26-สถานทูตไทยใน ต่างประเทศ 7. กรณีญาติคนหายในไทย ขอความช่วยเหลือได้ที่ กองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 02 575 1047-51 8. ควรมีผู้ประสานงานหลักในประเทศที่คนหายตัวไป อาจเป็นญาติ เพื่อน หรือหัวหน้ากรุ๊ปทัวร์ ควรมีหมายเลขโทรศัพท์และอีเมล์ เพื่อประสานงาน 9. การประกาศตามหาคนหาย ไม่ว่าช่องทางใด ควรหารือกับตำรวจท้องที่ และได้รับความยินยอมจากญาติคนหาย และ 10. หากญาติหรือผู้ประสานงาน กลับไทยตามกำหนดการก่อนพบตัวคนหาย ต้องทราบชื่อ ช่องทางการติดต่อเจ้าหน้าที่รับผิดชอบคดี และติดตามเรื่องผ่านสถานทูต และกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ
____________________
คุณกชภาภรณ์ รัชชานนท์กุล – รองกรรมการผู้จัดการบริษัท AAR Travel
“นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่พร้อมที่จะจ่ายเงินเพิ่มขึ้นเพื่อแลกกับบริการที่ครบถ้วนและความสะดวกสบาย ซึ่งสามารถสังเกตได้จากนักท่องเที่ยวนิยมบินด้วยสายการบินพรีเมียมแบบ Full Service มากขึ้น รวมไปถึงเข้ามาปรึกษาผู้เชี่ยวชาญจากบริษัทนำเที่ยวเพื่อพิจารณาซื้อทัวร์ โดยคาดหวังข้อมูลไม่ว่าจะเป็นการแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวแปลกใหม่ หรือให้คำปรึกษาด้านวางแผนเที่ยวให้ครบถ้วน และครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ของทุกคน ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวสำหรับครอบครัวหรือบริษัท”
[English]
Thailand’s Outbound Tourist Number to Hit 6-Year High in 2019
Thais tend to go on an overseas vacation during March and April and October and December, when long holidays are scheduled and schools are on a break.
Tourism Council of Thailand (TCT) found that 13% of Thai holiday-makers already planned to travel abroad in the second quarter of this year. Kasikorn Research Center (KResearch) forecasted that the number of outbound tourists would continue growing in 2019 and would total between 10.55 million and 10.75 million — a 5.4%-7.4% annual growth rate to a six-year high.
KResearch noted that the number of Thais traveling abroad in April has risen significantly by 8.2% to 970,000, while the total overseas spending should have grown 4.5%-6.1% from a year ago to 385-390 billion baht.
The reasons behind such increases are the stronger baht, active promotional activities by various tourism organizations from many countries and an increase in routes offered by both low-cost and full-service airlines.
In 2019, most preferred destinations by Thai travelers remain in East Asia, specifically Japan.
Japan National Tourism Organization (JNTO) said that 1.13 million Thais traveled to Japan last year and more than 200,000 did so during the first two months of this year. It is predicted that over 1.24 million Thais would visit Japan in 2019.
Another preferred destination has been Vietnam, where the number of Thai travelers surged to 36.9% in January-February 2019.
It is also noted that two travel trends are likely going to stand out this year, including the Multi-generational travel (Gen) that is referred to family members of different generations taking trips together, and the health-related and environmental tourism.
