Sunday, October 1, 2023
More

    กทม. เผยเพิ่มโทษปรับจักรยานยนต์จอด-ขับขี่บนทางเท้า ส่งผู้กระทำผิดลดลง

    นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า ตามที่กรุงเทพมหานครมีนโยบายเพิ่มโทษจับปรับผู้กระทำผิดกรณีการจอดรถหรือขับขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้า จาก 1,000 บาท เป็น 2,000 บาท เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. 2562 ที่ผ่านมา สำนักเทศกิจได้สรุปผลการดำเนินงานตามโครงการฯ ระหว่างวันที่ 1- 4 ส.ค. 2562 พบว่ามีจำนวนผู้กระทำความผิดลดลง โดยมียอดผู้กระทำผิด รวมทั้งสิ้น 191 ราย ดังนี้
    -วันที่ 1 ส.ค. 2562 จับกุม 83 ราย
    -วันที่ 2 ส.ค. 2562 จับกุม 77 ราย
    -วันที่ 3 ส.ค. 2562 จับกุม 23 ราย
    -วันที่ 4 ส.ค. 2562 จับกุม 8 ราย

    ซึ่งกรุงเทพมหานครจะดำเนินโครงการดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง เพื่อความปลอดภัยแก่ประชาชนผู้ใช้ทางเท้าในการเดินทางสัญจร และเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง โดยจัดเจ้าหน้าที่เทศกิจทุกสำนักงานเขตหมุนเวียนปรับเปลี่ยนการตั้งจุดจับปรับ เพื่อให้ครอบคลุมทั่วพื้นที่เขต รวมทั้งขอความร่วมมือประชาชนช่วยกันแจ้งเบาะแสผู้กระทำผิด โดยจัดส่งข้อมูลและภาพถ่ายมายังกรุงเทพมหานคร เพื่อจะดำเนินการเชิญเจ้าของหรือผู้ครอบครองรถ มาให้ถ้อยคำหรือเปรียบเทียบปรับ ซึ่งผู้แจ้งเบาะแสจะได้รับรางวัลนำจับ 50% ของค่าปรับ


    ทางด้าน นายจิรวัฒน์ แพงมา ผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ กทม. เปิดเผยว่า กทม. ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่เทศกิจทั้ง 50 สำนักงานเขต กวดขันผู้ฝ่าฝืนขับขี่หรือจอดรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์บนทางเท้าอย่างจริงจังและต่อเนื่อง โดยตั้งจุดจับปรับผู้ที่ฝ่าฝืนจากเดิม 115  จุด เพิ่มเป็นจำนวน 233 จุด ทั้งเช้าและเย็น ให้ครอบคลุมทั้งพื้นที่ในทุกถนนของเขต

    รวมทั้งมีนโยบายที่จะติดตั้งกล้อง CCTV ในถนนที่มีการกระทำความผิดจอดหรือขับขี่รถยนต์หรือรถจักรยานยนต์บนทางเท้าในถนนนำร่อง 2 ถนน คือ ถนนสุขุมวิทและถนนพหลโยธิน และบางจุดที่มีกล้อง CCTV อยู่แล้ว จะปรับมุมกล้องให้จับภาพบนทางเท้าเป็นบางส่วน โดยพิจารณาให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่และปัญหา


    นอกจากนี้ กทม. ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับกรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม ในการขอใช้ข้อมูลทางทะเบียนรถยนต์/รถจักรยานยนต์ เพื่อให้ทราบถึงเจ้าของ/ผู้ครอบครอง ที่กระทำความผิด จอดหรือขับขี่รถยนต์หรือรถจักรยานยนต์บนทางเท้า เพื่อมาดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยเชื่อมโยงกับกล้อง CCTV และประสาน การทำงานระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบังคับการตำรวจจราจร เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจนครบาลท้องที่ กรมการขนส่งทางบก กับเจ้าหน้าที่เทศกิจสำนักงานเขตในการบูรณาการกวดขันจับกุมผู้กระทำความผิดที่ฝ่าฝืนขับขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้า ทั้งนี้ ได้มีการบูรณาการการทำงานร่วมกันไปแล้ว เช่น บริเวณถนนรัชดาภิเษก ถนนพระราม 4 อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ หน้าห้างเซ็นทรัลปิ่นเกล้า สี่แยกอโศกหน้าห้างสรรพสินค้าเทอมินอล และถนนลาดพร้าว

    ขณะเดียวกัน ในส่วนของช่องทางการแจ้งเบาะแสการกระทำความผิด มีทั้งทางโทรศัพท์ แอปพลิเคชันไลน์ และเฟซบุ๊ค ซึ่งจะได้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบและเพิ่มช่องทางการแจ้งให้มากขึ้น ส่วนการยึดใบขับขี่พนักงานเจ้าหน้าที่ตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาดฯ ไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากกฎหมายไม่ได้ให้อำนาจไว้ แต่จะประสานกับกรมการขนส่งทางบกและเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สถานีตำรวจนครบาลท้องที่ เพื่อดำเนินการร่วมกัน ส่วนกรณีรถที่ใช้ในการกระทำความผิดพนักงานเจ้าหน้าที่สามารถนำมาไว้ที่สำนักงานเขตได้ เพื่อรอการเปรียบเทียบปรับตามกฎหมาย

    สำหรับการเพิ่มอัตราค่าปรับตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาดฯ จาก 1,000 บาท เป็น 2,000 บาท สามารถดำเนินการได้ เพราะกฎหมายกำหนดให้ปรับได้ไม่เกิน 5,000 บาทกับผู้ที่กระทำความผิดจอดหรือขับขี่รถยนต์หรือรถจักรยานยนต์บนทางเท้าสาธารณะ สาเหตุการเพิ่มค่าปรับสืบเนื่องจากยังมีผู้ฝ่าฝืนกระทำผิดอยู่แม้ว่าพนักงานเจ้าหน้าที่จะเข้มงวดกวดขันและเพิ่มจุดจับปรับให้มากขึ้น หรือมีช่องทางการแจ้งเบาะแสจากประชาชนก็ตาม ทั้งนี้ กทม. จะควบคุมอย่างใกล้ชิดไม่ให้มีการทุจริตในเรื่องค่าปรับโดยเด็ดขาด

    ทั้งนี้ สำหรับช่องทางในการแจ้งเบาะแส สามารถแจ้งได้ตามช่องทางดังต่อไปนี้ www.bangkok.go.th/rewardหรือ LINE ID @ebn6703w หรือ Facebook สำนักเทศกิจ กรุงเทพมหานคร หรือ citylaw_bma@hotmail.com หรือแจ้งทางไปรษณีย์ ที่อยู่ สำนักเทศกิจ เลขที่ 1 ถ.เทศบาลสาย 1 แขวงวัดกัลยาณ์ เขตธนบุรี กรุงเทพฯ 10600 หรือ โทร. 0-2465-6644