Tuesday, May 30, 2023
More

    ฟรีแลนซ์ VS มนุษย์เงินเดือน ใครกันแน่ที่ครองโลก

    Economic Intelligence Center (EIC) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากผลสำรวจของ EIC มนุษย์เงินเดือนชาวไทยราว 79% อยากเปลี่ยนมาทำงานอิสระ ไม่ว่าจะเป็นงานฟรีแลนซ์ หรือออกมาเปิดธุรกิจเป็นของตัวเอง ที่น่าแปลกใจคือแม้แต่มนุษย์ออฟฟิศที่ได้เงินเดือนสูงๆ อย่างกลุ่มที่มีรายรับมากกว่า 100,000 บาทต่อเดือน ราว 1 ใน 3 ก็ระบุว่าอยากออกไปทำงานอิสระอย่างเต็มตัวเช่นกัน

    ขณะเดียวกันก็ดูเหมือนว่าผู้คนจะตบเท้าเดินเข้าสู่วงการฟรีแลนซ์กันมาก โดยเฉพาะในช่วงปีหลังๆ มานี้ สังเกตได้จากการเพิ่มขึ้นของแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ที่ช่วยพาคนหางานกับคนจ้างงานมาเจอกัน รวมถึงอินสตาแกรม และเฟซบุ๊กได้ช่วยสร้างช่องทางหารายได้ใหม่ๆ โดยไม่ยึดติดกับรูปแบบงานประจำเดิมๆ บวกกับคำโฆษณาเรื่องการมีอิสระ การเป็นเจ้านายตัวเองได้ จนกลายเป็นเหมือนว่าเทรนด์การทำงานฟรีแลนซ์ จะเข้ามาแทนที่งานนั่งโต๊ะที่เรากำลังทำอยู่ในไม่ช้า 


    มนุษย์เงินเดือนยังคงครองตลาดแรงงาน ในขณะที่วงการฟรีแลนซ์กำลังมาแรง
    การวิเคราะห์ผลสำรวจความคิดเห็นจากผู้ตอบแบบสอบถาม 5,873 คน โดย EIC ณ เดือนธันวาคม 2018 พบว่า กลุ่มคนทำงานประจำมีจำนวนคิดเป็นสัดส่วน 74% ของผู้ตอบแบบสำรวจทั้งหมด ในขณะที่กลุ่มคนทำงานอิสระมีสัดส่วนเพียง 21% (แบ่งเป็นคนทำงานฟรีแลนซ์ 12% และคนทำธุรกิจส่วนตัว 9%)

    ซึ่งตัวเลขนี้ บ่งบอกว่าไม่ใช่ทุกคนที่อยากเปลี่ยนมาทำงานอิสระจะสามารถทำได้อย่างใจคิดเสมอไป ยังมีอีกหลากหลายเหตุผลที่ทำให้คนลังเลที่จะก้าวออกมาทำงานอิสระอย่างเต็มตัว



    งานฟรีแลนซ์อาจไม่ได้ให้ผลลัพธ์อย่างที่หลายคนวาดฝันไว้

    นอกจากความไม่แน่นอนเรื่องรายได้ ความไม่มั่นคงด้านการงาน หรือเรื่องการขาดสวัสดิการ เช่น ประกันสุขภาพต่างๆ และวันลาแล้ว งานฟรีแลนซ์อาจจะไม่ได้ให้ค่าตอบแทนสูงอย่างที่หลายคนวาดฝันไว้

    โดยมีรายงานข้อมูลจากเว็บไซต์หางานยอดนิยมแห่งหนึ่งในประเทศไทยเผยว่า เหล่าคนสมัครงานฟรีแลนซ์เรียกเงินเดือนในระดับที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของงานประจำทั่วไป และยังเรียกเพิ่มมากขึ้นทุกปี โดยในปี 2016 ผู้สมัครงานฟรีแลนซ์เรียกเงินต่อเดือนที่ราว 18,600 บาท และพอถึงปี 2018 ก็เรียกเพิ่มขึ้นเป็น 20,900 บาท เทียบกับค่าจ้างงานประจำทั่วไปซึ่งเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยจาก 18,503 บาทในปี 2016 เป็น 18,637 บาทในปี 2018


    ซึ่งจากข้อมูลค่าจ้างงานประจำในที่นี้รวมค่าล่วงเวลา แต่ไม่ได้ครอบคลุมถึงแรงงานในภาคเกษตร ก่อสร้าง แรงงานที่ทำงานเสมียน ผู้ประกอบอาชีพงานพื้นฐาน (เช่น คนงานและผู้ช่วยทำความสะอาด) ผู้ปฏิบัติการเครื่องจักรโรงงานและเครื่องจักร และผู้ปฏิบัติงานด้านการประกอบ รวมถึงผู้ปฏิบัติงานที่มีฝีมือในด้านการเกษตร ป่าไม้ และประมง

    นอกจากนี้ เมื่อถามความคิดเห็นของพนักงานประจำทั่วไปว่าถ้าจะเปลี่ยนมาทำงานอิสระกันจริงๆ จะคาดหวังรายได้ที่มากขึ้นหรือน้อยลง เหล่ามนุษย์เงินเดือนถึง 96% เห็นตรงกันว่าต้องการรายได้ที่เพิ่มขึ้นประมาณ 50%-70% ของเงินเดือนที่มีอยู่เดิม และมีจำนวนไม่น้อยที่ตอบว่าต้องการรายได้มากขึ้นจากเดิมเป็นเท่าตัว

    ความจริงแล้วคนทำงานฟรีแลนซ์ส่วนใหญ่ มีรายรับต่อเดือนต่ำกว่ากลุ่มอื่นๆ
    โดยจากการสำรวจพบว่า คนทำงานฟรีแลนซ์ที่มีรายรับสูงๆ นั้น มีจำนวนน้อยมาก เมื่อลองเปรียบเทียบว่าคนที่ทำงานแต่ละแบบมีรายได้เท่าไหร่กันบ้าง จะเห็นว่าคนที่ทำงานฟรีแลนซ์ส่วนใหญ่มีรายรับต่อเดือนต่ำกว่ากลุ่มอื่นๆ โดย 18% ของคนทำงานฟรีแลนซ์ตอบว่ามีรายได้ต่อเดือนต่ำกว่า 9,000 บาท เทียบกับคนทำงานประจำ และคนทำธุรกิจส่วนตัวที่มีสัดส่วนตรงนี้เพียง 4% และ 1% เท่านั้น

    ในขณะเดียวกัน คนทำงานฟรีแลนซ์ที่มีรายได้ต่อเดือนสูงกว่า 100,000 บาทกลับมีสัดส่วนเพียง 5% ซึ่งน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับคนทำงานประจำ และคนทำธุรกิจส่วนตัวที่มีสัดส่วนคนรายได้สูงๆ เท่ากับ 8% และ 12% ตามลำดับ


    นี่จึงอาจเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้คนทำงานฟรีแลนซ์ไม่ได้มีจำนวนเยอะอย่างที่ EIC คาด เพราะถึงแม้มนุษย์เงินเดือนหลายคนอยากจะก้าวออกจากงานประจำกันแค่ไหน แต่เมื่อเจอระดับรายได้ที่ไม่ได้สูงอย่างที่หวังไว้ ก็ต้องชักเท้ากลับมาคิดทบทวนกันใหม่ 

    ความมั่นคงและรายได้ ยังคงเป็นเหตุผลหลัก ที่คนส่วนใหญ่ยังเลือกงานประจำ
    จากการสำรวจ พบว่าเหตุผลส่วนใหญ่ที่คนเลือกทำงานประจำ คือ ความมั่นคงด้านการงาน และการเงิน

    (คือมีรายได้สม่ำเสมอ มีหน้าที่การงานรองรับตลอดเวลา) รองลงมาคือสวัสดิการ วันเวลาทำงานที่แน่นอน
    โอกาสเติบโต รวมถึงการมีสังคมในการทำงาน เมื่อเทียบกับงานฟรีแลนซ์ที่ยังมีความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนทั้งเรื่องการงานและการเงิน ก็ไม่แปลกที่คนส่วนใหญ่จะเลือกอยู่กับงานประจำซึ่งให้ความอุ่นใจมากกว่า


    อย่างไรก็ตาม ข้อดีหลายๆ อย่างของงานฟรีแลนซ์ ไม่ว่าจะเป็นความหลากหลายของงาน อิสระในการบริหารจัดการเวลาเป็นของตัวเอง หรือการไม่ต้องพบเจอกับปัญหาในที่ทำงานนั้น ก็ทำให้คนจำนวนไม่น้อยยอมแลกความมั่นคงของงานประจำ แล้วก้าวออกไปหางานฟรีแลนซ์ ซึ่งหลายคนเมื่อก้าวเข้าสู่วงการนี้แล้วต่างก็พอใจกับสิ่งที่ทำอยู่ และยังอยากอยู่กับงานฟรีแลนซ์ต่อไปเรื่อยๆ ตรงข้ามกับเหล่ามนุษย์เงินเดือนที่ตอบว่าอยากเปลี่ยนงานกันเป็นส่วนมาก