Tuesday, December 6, 2022
More

    สร้างสมดุลเพื่อสุขภาพทางการเงินที่ดีสไตล์มนุษย์เงินเดือน

    ความต้องการพื้นฐานของมนุษย์นั้นไม่มีอะไรมากไปกว่าการที่อยากมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง และการมีสุขภาพใจที่ดี ซึ่งเป็น 2 สิ่งสำคัญที่ช่วยให้ชีวิตขับเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างมั่นคง ซึ่งสำหรับผมแล้ว มองว่ายังมีอีกสิ่งหนึ่งที่เราไม่ควรละเลยและต้องคอยตรวจสอบอยู่เสมอ นั่นก็คือ “สุขภาพทางการเงิน” และสิ่งที่ผมจะกล่าวในวันนี้ คืออยากจะให้ทุกคนลองมาเช็กสุขภาพทางการเงินด้วยวิธีง่ายๆ จาก การเช็กค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน โดย “การรักษาสุขภาพทางการเงิน” นี้ วิธีที่เราจะ “จัดการ” กับ “การใช้จ่าย” เป็นสิ่งสำคัญมาก ซึ่งขั้นตอนแรก แบ่ง “ค่าใช้จ่าย” ออกเป็นสองประเภทดังต่อไปนี้

     


    ค่าใช้จ่ายที่จำเป็น
    ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น ค่าผ่อนบ้าน ค่าเลี้ยงดูบุตร (ค่าเล่าเรียน) เป็นต้น เป็นค่าใช้จ่ายประจำเดือน ซึ่งจะค่อนข้างจะคงที่ (และลดลงได้ยาก) แต่ทุกคนสามารถวางแผนที่จะกันเงินส่วนหนึ่งสำหรับค่าใช้จ่ายตรงนี้ก่อนเป็นอันดับแรกได้ และค่าใช้จ่ายที่จำเป็นอีกประการหนึ่ง คือ ค่าใช้จ่ายที่ใช้ในการดำเนินชีวิต เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอาหาร ที่เราสามารถวางแผนก่อนใช้ได้ ซึ่งในส่วนนี้หากใครที่มีการวางแผนควบคุมค่าใช้จ่ายตรงนี้ได้ดีๆ แล้ว ก็จะทำให้เราสามารถเหลือเงินไปใช้ในค่าใช้จ่ายส่วนตัวได้

    ค่าใช้จ่ายส่วนตัวตามความพึงพอใจชองแต่ละบุคคล
    แต่ละคนมีความชอบและความสนใจไม่เหมือนกัน เช่น ค่าเสื้อผ้าแฟชั่นต่างๆ ค่าเดินทางท่องเที่ยว ค่าอาหารเมื่อไปรับประทานอาหารนอกบ้าน เป็นต้น ซึ่งเหล่านี้เป็นค่าใช้จ่ายตามความชอบ ที่สามารถควบคุมได้ตามวิธีการและวิจารณญาณของแต่ละบุคคล ซึ่งเราสามารถที่จะเลือกประหยัดค่าใช้จ่ายในข้อนี้ได้ เพื่อสุขภาพทางการเงินที่ดีขึ้นของเรา ยกตัวอย่างง่ายๆ หากเราลองคำนวณค่าใช้จ่ายสิ่งฟุ่มเฟือยประเภทต่างๆ ในระยะยาว 20 – 30 ปี จะพบกับยอดรวมที่น่าตกใจ เช่น ถ้ามนุษย์เงินเดือนที่ทำงานประจำซื้อกาแฟดื่มทุกวัน ราคารวมจะอยู่ที่ 5 – 7 แสนบาท หรือมนุษย์วัยทำงานที่มักจะเข้าร้านอาหารหรูๆ เป็นประจำทุกสัปดาห์ พอคำนวนรวมแล้วเราจะเสียค่าใช้จ่ายตรงนี้ถึง 1 – 1.5 ล้านบาทเลยทีเดียว  ซึ่งไม่ได้ห้ามการบริโภคสินค้า แต่อยากให้ทุกคนที่สามารถเลี่ยงหรือลดได้ ก็จะเหลือเงินสะสมได้ไม่น้อยเลยทีเดียว

    แต่อย่างไรก็ตาม สมดุลที่ดีของการจัดการค่าใช้จ่ายต่างๆ ถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้จ่ายในสิ่งที่เราอยากจะทำที่จะทำให้เรามีความสุข ตัวอย่างเช่น หากเรามุ่งเน้นที่จะสร้างสุขภาพทางการเงินมากเกินไป และประหยัดค่าใช้จ่ายรายวันมากเกินไป มันก็ทำให้การใช้ชีวิตประจำวันของเราไม่มีความสุข ในทางกลับกันหากใช้เงินมากเกินไป จะทำให้คุณอยู่ในสภาวะไม่สงบทั้งทางร่างกายและจิตใจ จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่เราควรสร้างสุขภาพทางการเงินที่ดีโดยการออมจากค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ซึ่งเป็นวิธีที่สามารถปฏิบัติได้จริงและไม่ลำบากมากจนเกินไป และส่งผลดีต่อทั้งสุขภาพจิตและสุขภาพกายของเรา

    สุดท้ายนี้อยากฝากไว้ว่า บางครั้งเราอาจจะพบเจอกับค่าใช้จ่ายฉุกเฉินที่เราไม่คาดคิดในชีวิตเราก็ได้ ซึ่งการมีบัตรกดเงินสดดีๆ สักหนึ่งใบก็จะช่วยให้สามารถรับมือเหตุการณ์ฉุกเฉินและจัดการทางการเงินได้ดีขึ้น ทำให้เราอุ่นใจว่ามีทางออกเสมอ แต่ขอแนะนำว่า เราสามารถใช้บัตรเงินสดในยามที่เราต้องการ แต่สิ่งสำคัญก็คือทุกๆ ครั้งที่เราจะสร้างหนี้ขึ้นมา อยากให้คุณตระหนักว่าหนี้ที่เรากำลังจะสร้างนั้นเรามีความสามารถชำระคืนได้หรือไม่ และขอให้ทุกท่านมีสุขภาพที่แข็งแรง