รวมลิสต์ ร้านอาหาร-คาเฟ่ น่าไปเดทในวันวาเลนไทน์ ที่พร้อมจะให้ไปฟินกับบรรยากาศโรแมนติก ควบคู่ไปกับการกินอาหาร ขนม และเครื่องดื่มรสชาติอร่อย จนใครๆ ก็ต้องตกหลุมรัก
ไม่ว่าจะเป็นสายรักการกินดื่มแบบจัดหนัก หรือชื่นชอบการชิมขนม จิบชา-กาแฟ แบบชิลล์ๆ ขอบอกว่าทั้ง 10 แห่งนี้จะไม่ทำให้ผิดหวังอย่างแน่นอน เพราะนอกจากจะเสิร์ฟอาหารรสชาติอร่อยแล้ว ทุกร้านยังมาพร้อมกับบรรยากาศดี โรแมนติกอีกด้วย และยิ่งถ้าเป็นสมาชิก Royal Orchid Plus อยู่ด้วยแล้ว มีสิทธิพิเศษรออยู่เพียบ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.ropactivity.com
1. URBANI TRUFFLE BAR & RESTAURANT
คนรักทรัฟเฟิล พลาดที่นี่ไม่ได้เด็ดขาด กับ URBANI TRUFFLE BAR & RESTAURANT ร้านอาหารอิตาเลียนสุดโรแมนติก ที่ได้รับการออกแบบให้เป็นเคาน์เตอร์รูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า พร้อมกับจัดวางโต๊ะ เก้าอี้ไว้ตรงตำแหน่งริมกระจกใส เพื่อให้ชมวิวกรุงเทพฯ มุมสูงได้แบบพาโนรามา ยิ่งถ้าไปในช่วงท้องฟ้ากำลังเปลี่ยนสี รับรองว่าจะเป็นค่ำคืนที่น่าจดจำไปไม่รู้ลืม
พิกัด : ชั้น 39 อาคารสาทรสแควร์
เปิดทุกวันจันทร์ – เสาร์ เวลา 11.00 น. – 23.00 น.
โทรศัพท์ : 02-233-1990-1, 081-133-1337, 081-815-5570
____________________
2. KOI RESTAURANT
ร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์โมเดิร์น ที่มีจุดเริ่มต้นมาจากลอสแองเจลิส และขยายได้ขยายความโดดเด่นต่อไปยังมหานครนิวยอร์ก ลาสเวกัส อะบูดาบี รวมถึงกรุงเทพฯ ที่มีถึง 2 สาขา แต่สำหรับสาขาใหม่ ที่ตั้งอยู่บนชั้น 39 ของอาคาร Sathorn Square แห่งนี้ มาพร้อมกับลุค และบรรยากาศที่หรูหรา ล้อมรอบด้วยวิวสวยของตึกสูงระฟ้าในย่านนี้
พิกัด : ชั้น 39 อาคารสาทรสแควร์
เปิดทุกวันอังคาร – อาทิตย์ เวลา 16.00 น. – 01.00 น.
โทรศัพท์ : 02-108-2005
____________________
3. R.HAAN
ร้านอาหารไทยในย่านทองหล่อ ระดับมิชลินสตาร์ ที่มาพร้อมกับหัวใจสำคัญของอาหารไทยนั่นคือวัตถุดิบตามต้นตำรับเดิมของอาหารไทยในพระราชวัง ที่เชฟชุมพล แจ้งไพร เป็นผู้ไปแสวงหามาจากทั่วทุกภูมิภาคในประเทศไทย ออกมาเป็นสำรับอาหารไทยชั้นเลิศ ที่จะมอบความสุขตลอดมื้ออาหารอันแสนอิ่มเอม ท่ามกลางบรรยากาศของร้านที่ให้กลิ่นอายของความเป็นไทยผสมผสานกับความร่วมสมัยสุดแสนลงตัว
พิกัด : ซอยสุขุมวิท 53
เปิดทุกวัน เวลา 18.00 น. – 23.00 น.
โทรศัพท์ : 02 059 0433-34, 095 141 5524
____________________
4. OSHA THAI RESTAURANT & BAR
อีกหนึ่งร้านอาหารไทยแบบไฟน์ไดน์นิ่งระดับมิชลินสตาร์ แต่ที่นี่มาพร้อมกับอาหารไทยสไตล์โมเดิร์น ซึ่งเซ็ตเมนูของทางร้าน จะเปลี่ยนไปตามฤดูกาลต่างๆ โดยเชฟหนุ่ม ธนินทร จันทรวรรณ จะคัดสรรเอาวัตถุดิบท้องถิ่นคุณภาพดีจากหลายจังหวัดทั่วประเทศ มารังสรรค์ให้เป็นจานเด็ด ที่เต็มไปด้วยความหรูหรา และมีเสน่ห์ แฝงความเป็นไทยเอาไว้ในทุกๆ รายละเอียด
พิกัด : ถนนวิทยุ
เปิดทุกวัน เวลา 11:00 – 14.30 น. และ 18.00 – 23.00 น.
โทรศัพท์ : 02 256 6555
____________________
5. Candy Crepe
เพลิดเพลินไปกับร้านขนมหวานแสนน่ารักไอเดียเก๋ ที่นำโรตีสายไหมมาเพิ่มความฟรุ้งฟริ้งซึ่งไม่ได้มีดีแค่หน้าตาเท่านั้น แต่รสชาติยังเป็นที่ถูกอกถูกใจของคนรักของหวานอีกด้วย เนื่องจากตัวแป้งที่หอมนุ่ม หนากำลังดี มาพร้อมกับสายไหมเส้นบางเฉียบละลายในปาก ความหวานพอดิบพอดี มีหลายสีสันหลากรสชาติให้เลือก จะสั่งโรตีสายไหมแบบเดี่ยวๆ หรือจะสั่งมาพร้อมกับไอศกรีมโฮมเมดรสต่างๆ ก็ดีงามไม่แพ้กัน
พิกัด : แคนดี้ เครป คาเฟ่สาขา สยามพารากอน ชั้น 4 โซนดรีมฟอเรส
เปิดทุกวัน เวลา 10.00 – 22.00 น.
โทรศัพท์ : 088 289 1397
____________________
6. Bombyx By Jim Thompson
จากแนวคิด “ผีเสื้อไหม” ที่เจริญเติบโตกลายเป็นตัวโตเต็มวัยตามวงจนชีวิต สู่ร้านอาหารที่ผสมผสานบรรยากาศอย่างลงตัวในสไตล์ของ จิม ทอมป์สัน กับมุมมองของศิลปิน และรายล้อมไปด้วยผลงานศิลปะที่หมุนเวียนมาจัดแสดงให้ในชมในวาระต่างๆ ควบคู่ไปกับการนำเสนออาหารไทยร่วมสมัยหลากเมนู จากเซฟฝีมือดีการันตีด้วยรางวัลระดับนานาชาติ
พิกัด : ชั้น M สยามพารากอน
เปิดทุกวัน เวลา 10.00 – 22.00 น.
โทรศัพท์ : 02 129 4840
____________________
7. Spirit Jim Thompson
อีกหนึ่งร้านอาหารในเครือ Jim Thompson ที่มาพร้อมกับการนำเสนออาหารไทยโบราณที่ยังคงรสชาติแบบดั้งเดิมเอาไว้ แต่เสิร์ฟมาในรูปแบบร่วมสมัย ภายใต้คอนเซ็ปต์ Contemporary Thai Cuisine with Authentic Taste โดยเชฟจะคัดเลือกวัตถุดิบที่ดีที่สุดจากแต่ละท้องถิ่นมารังสรรค์ เพื่อให้คนทานให้ได้สัมผัสกับรสชาติความเป็นไทยอย่างแท้จริง ในบรรยากาศของบ้านแบบไทยสมัยเก่า แต่ถูกตกแต่งให้ดูโมเดิร์นขึ้น และเพิ่มความเงียบสงบ ร่มรื่น สบายตา ด้วยพื้นที่สวนสีเขียว ซึ่งหาได้ยากในร้านอาหารใจกลางเมืองเช่นนี้
พิกัด : ซอยสมคิด
เปิดทุกวัน เวลา 12.00 – 15.00 น. และ 18.00 – 23.00 น.
โทรศัพท์ : 02 017 7268-9
____________________
8. Toby’s
คาเฟ่ที่ครบเครื่องเรื่องอาหารเช้าสไตล์ออสซี่ ในบรรยากาศสบายๆ อบอุ่น และเป็นกันเอง โดยเจ้าของร้านตั้งใจจะให้การแวะเวียนมาดื่มกาแฟ และรับประทานบรั้นช์ที่นี่ เปรียบเสมือนการมาพักผ่อนที่บ้านเพื่อน สำหรับเมนูอาหารเช้าของที่นี่ เน้นความสดใหม่ และการปรุงรสแบบไม่หนัก เพื่อให้ได้ชิมรสชาติที่แท้จริงของวัตถุดิบต่างๆ ในจานที่อยู่ตรงหน้า ยิ่งไปกว่านั้นในส่วนของมื้อเย็น ยังมีอาหารที่หลากหลายยิ่งขึ้น พร้อมเสิร์ฟให้นักชิมพาคนรักไปดินเนอร์
พิกัด : ซอยสุขุมวิท 38
เปิดทุกวันอังคาร – อาทิตย์ เวลา 09.00 – 21.00 น.
โทรศัพท์ : 02 712 1774
____________________
9. Saneh Jaan
ต้องบอกว่าร้าน “เสน่ห์จันทน์” ได้ร้อยเรื่องราวต้นตำรับแห่งสำรับไทยเอาไว้มากมาย ที่พร้อมจะให้ไปอิ่มอร่อยแบบไทยแท้ในบรรยากาศร่วมสมัยใจกลางเมือง ซึ่งอาหารทุกจานของที่นี่ผ่านการคัดสรรวัตถุดิบชั้นเลิศจากทุกภูมิภาคทั่วไทย และปรุงอย่างพิถีพิถันในทุกกระบวนการ รวมทั้งคิดค้นและพัฒนาตำรับพิเศษเพื่อเพิ่มรสสัมผัส โดยไม่ทิ้งความเป็นไทยแบบดั้งเดิม จึงทำให้ทุกจานของเสน่ห์จันทน์ เต็มไปด้วยเรื่องราวให้น่าค้นหา และเมนูที่น่าลิ้มลองหลากหลาย
พิกัด : อาคารสินธร ถนนวิทยุ
เปิดทุกวัน เวลา 11.30 – 22.00 น
โทรศัพท์ : 02 650 9880
____________________
10. Twinings Tea Boutique
ร้านชาสุดพรีเมี่ยมของ Twinings ที่อิมพอร์ตตรงจากมาลอนดอน ซึ่งเพิ่งจะปรับโฉมใหม่ไปเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา ในคอนเซ็ปต์ Modern London พร้อมมอบประสบการณ์พิเศษผ่านวัฒนธรรมการดื่มชาตามแบบฉบับของชาวอังกฤษอย่างแท้จริง ควบคู่ไปกับการลิ้มลองรสชาติเบเกอรี่แสนอร่อย และอาหารหลากเมนู ที่ล้วนคัดสรรมาเป็นอย่างดี ในบรรยากาศของ Afternoon Tea แบบต้นตำรับอังกฤษแท้ ที่แรกที่เดียวในเมืองไทย
พิกัด : ชั้น 1 โซน Atrium ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์
เปิดทุกวัน เวลา 10.00-22.00 น.