Tuesday, December 6, 2022
More

    ศิลปินคู่พี่น้องแห่ง “Plastic Plastic” บนเส้นทางดนตรีสู่ EP อัลบั้มล่าสุด “Mojito”

    ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนเลยว่าเราเป็นแฟนคลับวง Plastic Plastic มาตั้งแต่เพลง อยากรู้, Elastic และหยิบแฮมแผ่นที่หก วงป็อบที่มีเอกลักษณ์และความสดใสไม่เหมือนใคร จากคู่พี่น้องอย่าง ป้อง-ปกป้อง จิตดี และเพลง-ต้องตา จิตดี ที่แจ้งเกิดจากการประกวดดนตรี สู่การเป็นศิลปินในสังกัด และออกมาเป็นศิลปินอิสระ จนได้ก้าวเข้ามาอยู่ในบ้าน what the duck BLT Bangkok มีโอกาสจึงขอชวนคุยถึงในเส้นทางดนตรีที่ผ่านมาจนถึงผลงาน EP อัลบั้มล่าสุดที่ใช้ชื่อว่า “Mojito”

    ทำไมต้องใช้ชื่อ Plastic Plastic

    เพลง : ย้อนกลับไปไกลนิดนึง ย้อนกลับไป 10 ปี (หัวเราะ)


    ป้อง : ตอนแรกตั้งวงเพื่อจะไปประกวด เลยลองคิดชื่อวงง่ายๆ คำว่า Plastic ผมว่ามันดีง่ายดี

    เพลง : พอดีตอนนั้น เราทำซิงเกิลแรกชื่อ “Elastic” เลยอยากตั้งชื่อวงที่ให้มันคล้องกับชื่อซิงเกิล เลยใช้คำว่า Plastic ตอนแรกไม่ได้คิดว่าจะทำวงมายาวอะไรขนาดนี้ เหมือนตั้งเล่นๆ เลยใช้คำนี้ และคิดว่าหากใช้คำเดียวอาจจะจำไม่ค่อยได้เลยใช้ Plastic Plastic

    ได้สังกัดค่ายเลยหรือเปล่า หรือเป็นศิลปินอิสระมาตลอด

    เพลง : ตอนที่เริ่มทำยังไม่มีค่ายแต่พอตอนประกวด พี่มอย – สามขวัญ ตันสมพงษ์ (หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งค่ายเพลง Believe Records และ What The Duck) ชวนพวกเรามาอยู่ในค่าย ซึ่งตอนนั้นชื่อค่ายว่า Believe Records แต่เป็นพี่คนเดียวกันกับที่ What The Duck นี้แหละค่ะ ตอนอยู่ในค่าย Believe เราได้ออกเพลงเป็นซิงเกิล ยังไม่มีอัลบั้มเต็ม

    เห็นว่าออกจาก Believe มาเป็นศิลปินอิสระ

    เพลง : ใช่ค่ะ เราหมดสัญญาด้วย และเหมือนว่าทางค่าย Believe กำลังเปลี่ยนมาเป็น What The Duck ในปัจจุบัน เราเลยคิดว่าอยากลองออกมาทำเองแบบไม่มีค่ายสักพักก่อน ทำโปรดักชั่นเอง ทำมาร์เก็ตติ้งเอง ว่าทุกอย่างมันจะเป็นอย่างไร อัลบั้ม Stay at Home คือทำกันเองแบบไม่มีค่าย

    หลังจากนั้นทิ้งช่วงนานไหมกว่าจะมาถึง What The Duck

    เพลง : ประมาณ 2 ปีคะ

    ป้อง : ประมาณ 1 – 2 ปี

    หายไปไหนกันมาช่วงเวลานั้น

    เพลง : ช่วงนั้นเราก็ทำอัลบั้มกันอยู่ แต่พี่ป้องเขามีงานโปรดิวเซอร์ ทำเพลงให้ศิลปินท่านอื่นๆ

    ป้อง : ตอนนั้นผมทำอีกวงด้วยครับชื่อว่า Gym and Swim และก็เริ่มมีรุ่นพี่ให้มาช่วยงาน เลยได้ทำงานเกี่ยวกับโปรดิวเซอร์มากขึ้น ทำให้ศิลปินท่านอื่น อยู่บ่อยๆ

    “Mojito” มีที่มาที่ไปยังไงบ้าง

    เพลง : เราเก็บสะสมเพลงไว้สักพักหนึ่ง ซึ่งเพลงของเราจะเป็นเพลงที่เกิดขึ้นตามสิ่งที่เราสนใจในช่วงนั้น อย่างเช่น เราสนใจเพลงประเภทไหน ฟังเพลงประเภทไหน รวมถึงพวกเนื้อหาเพลงด้วย พอเราทำเพลงออกมา ก็มานั่งฟังดูอีกทีว่า มู้ดเพลงมันเป็นประมาณไหน สรุปรู้สึกว่าอัลบั้มนี้มันมีความ “ขม” มีความ “ซ่า” ที่เพิ่มเข้ามา จากที่ก่อนหน้าที่เราทำเพลงสไตล์ อุ่นๆ สบายๆ มาตลอด เหมือนเป็นน้ำหวานที่มันซ่าผสมแอลกอฮอล์ อะไรทำนองนั้น (ยิ้ม) เลยใช้ชื่ออัลบั้มว่า “Mojito”

    ป้อง : ในแง่ดนตรีและเนื้อหาด้วย (เพลง: ใช่) แต่ก็อาจจะฟังง่าย แต่ด้วยไส้ในของเพลงก็มีความยากซับซ้อนอยู่พอสมควร

    ระยะเวลาที่ทำอัลบั้มนี้นานไหม

    เพลง : จริงๆถ้านับเป็นวันก็ไม่เยอะนะ

    ป้อง : ก็ไม่เยอะเท่าไหร่เราใช้เวลาว่างมาทำ (เพลง: ใช่) ช่วงโควิดเนี่ยเป็นช่วงที่มีเวลาว่างมากที่สุด (หัวเราะ)

    ความยากง่ายของอัลบั้มนี้แตกต่างจากอัลบั้มที่ผ่านมาไหม

    ป้อง : จริงๆความยากง่ายของอัลบั้มนี้ ก็พอๆกับอัลบั้มก่อนๆ

    เพลง : พอๆ กัน (หัวเราะ) เพราะว่าวิธีการทำงานของพวกเราไม่ได้ยุ่งยากอะไรอยู่แล้วค่ะ เพราะเราทำในสตูดิโอที่บ้าน ทำกัน 2 คน แต่ก็มีคนที่มาช่วยเล่นดนตรีให้อยู่บ้าง หลักๆก็มีกัน 2 คน มันเลยนัดกันง่ายคุยกันง่ายและไม่ยุ่งยาก

    ปกป้อง : แต่ก็มีที่แตกต่างกันอย่างเช่นเรื่อง อาร์ตเวิร์ค ซึ่งแต่ละอัลบั้มก็จะทำไม่เหมือนกัน ซึ่งอันนี้มีความยากง่ายต่างกันออกไป แต่ละศิลปินที่มาทำกับเราก็ไม่เหมือนกัน

    เพลง : ถ้าให้เล่าเรื่องอาร์ตเวิร์ค โดยปกติแล้วพวกเราจะชอบชวนศิลปินมาร่วมงาน อย่างในอัลบั้มแรกเราชวน “ป่าน juli baker and summer” มาวาดปกให้ พออัลบั้มที่สอง เราชวนศิลปินเกาหลี ที่เราไปเจองานของเขาอยู่ที่เชี่ยงใหม่ และเราชอบงานเขาเลยชวนมาทำด้วยกัน พอมาถึงอัลบั้มนี้ จริงๆเราก็อยากใช้ภาพวาดนั้นแหละ เราไปดูงาน exhibition ที่ the jam factory เจอของศิลปิน ที่เขามีงานปั้นเราสนใจของเขา เลยให้ทางศิลปินปั้นงานเขาขึ้นมาและก็ถ่ายรูปงานปั้นอีกทีจึงเป็นรูปปก Mojito อย่างที่เห็นแหละค่ะ

    เห็นว่าเคยได้ร่วมงานกับศิลปินญี่ปุ่นอย่าง She Is Summer ด้วย เล่าให้ฟังหน่อยการทำงานเป็นอย่างไรบ้าง

    เพลง : ก็ง่ายดีค่ะ (หัวเราะ)

    ปกป้อง : จริงๆ เราก็ทำงานส่งกันทางอินเตอร์เน็ตแหละครับ แต่ว่าที่ได้มาร่วมงานกัน เป็นช่วงปลายปีที่แล้ว เหมือนทางนั้นเขาอยากมาร่วมงานกับวงด้วย ซึ่งเขากำลังทำเพลงใหม่ และอยากให้เราช่วยโปรดิวส์ให้ เลยได้รู้จักกัน โอกาสดีเราเลยชวนเขามาร่วมร้องในเพลง “ร้อน”

    เพลง hate you love you มีคอนเซ็ปท์ในการทำเพลงนี้อย่างไรบ้าง

    เพลง : เพลงนี้เริ่มจากพี่ปกป้องคิดเมโลดี้ขึ้นมาก่อน คือเป็นปกติของวงเราอยู่แล้ว ที่จะขึ้นเมโลดี้สักอย่าง สั้นๆ และมีเมโลดี้บางท่อน ที่ทำให้เรานึกถึงคำหนึ่งขึ้นมาคือคำว่า “hate you love you” รู้สึกว่ามันเหมาะกับเมโลดี้นั้นดี เลยเกิดไอเดียเนื้อเพลงในธีม hate you ทำให้เพลงมันมีความมันๆ ซ่าๆ นิดหนึ่ง (หัวเราะ)

    ปกป้อง : ก็ไม่เชิงว่าซ่าซะทีเดียว แต่มันจะมีความหนืดบวกกับซาวด์เพลงที่นัวๆนิดนึงครับ (หัวเราะ) และก็ใส่โซโล่ทรัมเป็ตให้ซาวด์มันดูยุ่งเหยิง

    จากในช่วงที่เป็นศิลปินอิสระ สู่อัลบั้มภายใต้สังกัด What The Duck แตกต่างอย่างไรบ้าง

    ปกป้อง : เหมือนเรามีหลังบ้านครับ ซึ่งตอนเราไม่มีค่ายเราก็ต้องทำทุกอย่างเอง เช่น โปรโมทเพลงเอง ปั้มซีดีเอง ทำเองหมดทุกอย่างทุกขั้นตอน

    เพลง : ซึ่งมันก็ดีคนละแบบนะ ตอนที่ยังไม่มีค่ายเหมือนเราได้เรียนรู้หลายอย่าง ได้ฝึกทำเอง จึงรู้ว่าขบวนการทุกอย่างมันเป็นอย่างไร รวมถึงต้องรู้จักวางแผนการทำงานให้เป็น แต่พอมาอยู่ค่ายก็ง่ายไปอีกแบบ (หัวเราะ)

    ปกป้อง : จริงๆ ที่ What The Duck เขาไม่ได้ปิดกั้นการทำเพลงของเรา (เพลง : เขาไม่ปิดกั้นเลยแหละ เขาปล่อยตามสบาย) ใช่ ปล่อยไปเลยครับ อยากทำอะไรก็ทำ (หัวเราะ)

    สำหรับเพลง Childhood Paradise มีที่มาที่ไปอย่างไรบ้าง

    เพลง : คือช่วงนี้เราจะชอบฟังเพลงของ Benny Sings , Rex Orange County อะไรพวกนี้ ที่เป็นแนวเครื่องดนตรีน้อยชิ้น รู้สึกว่าเพลงมันเรียลดี มีความวินเทจนิดๆ เลยได้แรงบันดาลใจในการเล่นเปียโน จากศิลปินที่ฟัง ส่วนเรื่องเนื้อหา childhood paradise มันคือสวรรค์ของความเป็นเด็ก ได้แรงบันดาลใจมาจากซีรีย์เกาหลีเรื่อง Reply 1988 เด็กที่อยู่ด้วยกันในถนนเส้นหนึ่ง และมีความทรงจำที่ดีในนั้น เพลงนี้เลยเขียนเนื้อเกี่ยวกับซีรีย์เรื่องนี้เลย

    อะไรคือสิ่งที่ขับเคลื่อน Plastic Plastic จนมาถึงทุกวันนี้

    ปกป้อง : ความอยากนี่แหละครับ (เพลง : ใช่ๆ)

    เพลง : เรายังมีไฟอยู่ ในการเล่นดนตรี บางทีเราไปดูคอนเสิร์ตหรือว่าเราฟังเพลง ได้รับ input ไปเรื่อยๆ ทำให้เรามีแรงบันดาลใจที่จะทำเพลง และการที่เราเป็นพี่น้องกันด้วย ถ้าเกิดไม่ได้เป็นพี่น้องกัน อาจจะวงแตกไปแล้วก็ได้ (หัวเราะ)

    ปกป้อง : เหมือนเป็นวงอยากปล่อยของอะไรสักอย่าง (เพลง : ใช่ๆ) คือไม่ได้คาดหวังว่าเพลงจะต้องดัง (เพลง : ใช่ มันคือ passion ) เหมือนเรากำลังทำงานคราฟท์อะไรสักอย่างหนึ่งแหละครับ

    ฝากอัลบั้ม Mojito หน่อย

    เพลง : อย่างที่บอกไปว่า อัลบั้มนี้เป็นสิ่งที่เรายังไม่เคยทำมาก่อนด้วย ในแง่ของเรื่องดนตรีและเนื้อหาที่แตกต่างไปจากอัลบั้มก่อนๆ ส่วนของดนตรีในอัลบั้มนี้ จะมีความน้อยลง ฟังสบายๆ แต่มี Gimmick อะไรสักอย่างซ้อนอยู่ อยากให้ลองฟังกันดูค่ะ