เดินหน้าผลักดันสิงห์บุรีและลพบุรี สู่แหล่งท่องเที่ยวชุมชน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก
ลุยพื้นที่สิงห์บุรีและลพบุรีสู่แหล่งท่องเที่ยวชุมชน
นายรักษ์พงษ์ เซ่งเจริญ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) ลงพื้นที่จังหวัดสิงห์บุรีและจังหวัดลพบุรี ตรวจเยี่ยมโครงการและสนับสนุนผลิตภัณฑ์จากกองทุนหมู่บ้าน หลังจากที่ผ่านมาได้ พบปะพูดคุยกับเครือข่ายกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองระดับจังหวัด อำเภอและตำบล รวมถึงเครือข่ายระดับภาคกลาง พบว่าสมาชิกกองทุนหมู่บ้านฯ ได้รับผลกระทบจากปัญหาโควิด-19 กระทบต่อการค้าขาย หรือบริการ เช่น การท่องเที่ยวชุมชน รายได้จากนักท่องเที่ยวหดหายไป การค้าขายและบริการ ลดน้อยลงอย่างมาก
โดย สทบ.มุ่งปรับแนวทางซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้ากันเองระหว่างสมาชิกกองทุนหมู่บ้านทั่วประเทศ เพื่อให้เกิดกำลังซื้อและเงินหมุนเวียนในท้องถิ่น เมื่อพัฒนาสินค้า มีช่องทางกรกะจายการขนส่งจะทำให้เพิ่มรายได้ ลดรายจ่ายในชุมชน และหวังส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชนโดยให้กองทุนหมู่บ้านเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากแต่ละกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองตามนโยบายนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ ต้องการให้ชุมชนรอดพ้นจากวิกฤติทางเศรษฐกิจครั้งนี้ให้ผ่านไปได้ ด้วยการสร้างพลังความร่วมมือของพี่น้องชาวกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองทั่วประเทศ 13 ล้านครัวเรือน
สำหรับการลงพื้นที่ ภาครัฐได้ตรวจเยี่ยมและสนับสนุนผลิตภัณฑ์ ได้แก่ กองทุนหมู่บ้านพิกุลทองสามัคคี ม. 3 ต.พิกุลทอง อ.ท่าช้าง จ.สิงห์บุรี, โครงการพัฒนาศูนย์บริการการค้าขายและการท่องเที่ยวกองทุนหมู่บ้านดอนตะโหนด ม.7 ต.โพทะเล อ.ค่ายบางระจัน จ.สิงห์บุรี, โครงการศูนย์ดินปุ๋ยชุมชน กองทุนหมู่บ้านหนองโขลง ม.1 ต.บ้านจ่า อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี, โครงการโฮมสเตย์ท่องเที่ยวชุมชน กองทุนหมู่บ้านช่องน้ำไหล ม.4 ต.หัวสำโรง อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี, การผลิตไข่เค็มพอกดินสอพองใบเตย กองทุนหมู่บ้านโคกป่าน ม.3 ต.หัวสำโรง อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี ในการทำผลิตภัณฑ์หมูสวรรค์ หากสินค้าชุมชนเหล่านี้กระจายออกไปทั่วประเทศจะทำให้รายได้เข้าสู่ชุมชนมากขึ้น