ฤดูฝนมาพร้อมความชุ่มฉ่ำ ไพรพฤกษ์เขียวขจี เสียงแมลงกรีดร้องกันระงม และถ้าใครมีโอกาสเดินทางไปต่างจังหวัดช่วงนี้ คงสังเกตเห็นว่าเป็นช่วงที่มีผีเสื้อเยอะเป็นพิเศษ แต้มสีสันให้พงไพรและฟากฟ้าด้วยปีกเล็กๆ หลากสีสันและลวดลาย ช่วงเวลาที่เหมาะในการชมผีเสื้อคือช่วงเช้า เพราะแดดไม่ร้อนเกินไป
สำหรับแหล่งชมผีเสื้อแสนสวยของเมืองไทย ในช่วงฤดูฝนขอแนะนำ ดังนี้
อุทยานแห่งชาติปางสีดา จ.สระแก้ว
นอกจากจะมีน้ำตกที่สวยงาม ภูเขาสลับซับซ้อน และพืชพรรณหลายชนิดแล้ว ที่นี่ยังได้รับการยอมรับว่าเป็นดินแดนผีเสื้อแห่งผืนป่าตะวันออก มีผีเสื้อกลางวันกว่า 500 ชนิด และสามารถพบผีเสื้อในทุกๆ จุด ตั้งแต่ ลานจอดรถ ทุ่งหญ้า และลานหิน ตามจุดชมผีเสื้อ มีเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำและสอนเทคนิคการถ่ายผีเสื้อให้ออกมาสวยงามด้วย
อุทยานแห่งชาติทับลาน จังหวัดนครราชสีมา และ จ.ปราจีนบุรี
มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติด้านหลังที่ทำการอุทยานแห่งชาติทับลาน อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี บริเวณน้ำตก ห้วยใหญ่/น้ำตกม่านฟ้า หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติทับลานที่ 13 (สวนห้อม) อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา บริเวณเส้นทางศึกษาธรรมชาติหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติทับลานที่ 11 (ไทยสามัคคี) หรือ บริเวณ “ผาเก็บตะวัน” อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา และบริเวณเส้นทางจากหน่วยฯ คลองน้ำมัน-หน่วยฯ ลำแปรง อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา
อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี
อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีพื้นที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีสภาพป่าที่อุดมสมบูรณ์มาก จุดที่ชมผีเสื้อคือ แคมป์บ้านกร่าง ซึ่งอยู่ห่างจากอ่างเก็บน้ำเขื่อนแก่งกระจานเข้าไปอีก 35 กม. ที่สามารถขับรถเข้าไปถึงได้ ถือเป็นหนึ่งในจุดชมผีเสื้อหลากหลายสายพันธุ์ของเมืองไทย ที่สามารถพบเห็นฝูงผีเสื้อที่บินไปมานับพันตัว
อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง จ.พิษณุโลก และ จ.เพชรบูรณ์
สถานที่ท่องเที่ยวภายใน อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวงที่นักท่องเที่ยวต่างรู้จักกันดี คือ ทุ่งแสลงหลวง หรือทุ่งหญ้าสะวันนาแห่งผืนป่าไทย ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 60 กิโลเมตร สภาพพื้นที่กว่า 10 ตารางกิโลเมตรมีลักษณะเป็นทุ่งหญ้ากว้างขวาง และป่าสน บริเวณที่พบผีเสื้อจะอยู่ตามลำน้ำเข็ก ตามลำห้วยเล็กๆ ทางเดินป่า และบริเวณที่มีดอกไม้ป่า ผีเสื้อที่น่าสนใจ ก็มีผีเสื้อจันทรา ผีเสื้อหน้าเข็มยักษ์หางย้อย
