ชวนเรียนรู้ความสำคัญของวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ ก่อนไปตะลอนเที่ยว 4 แหล่งเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์กัน
จุดเริ่มต้น “วันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ” ของประเทศไทย
“วันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ” ถูกกำหนดขึ้นครั้งแรกในไทยเมื่อปี พ.ศ.2525 จากเหตุการณ์ที่ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ได้เสด็จทอดพระเนตร สุริยุปราคาเต็มดวงเมื่อ พ.ศ. 2411 ที่บ้านหว้ากอ จ.ประจวบคีรีขันธ์ หลังจากได้พยากรณ์ล่วงหน้าไว้ถึง 2 ปี อย่างแม่นยำว่าจะมีสุริยุปราคาเต็มดวง โดยมีจุดศูนย์กลางอยู่ที่ต.หว้ากอ
จึงมีการกำหนดให้วันที่ 18 สิงหาคม ของทุกปีเป็น “วันวิทยาศาสตร์แห่งชาติไทย” พร้อมเทิดพระเกียรติให้พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นพระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย
ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา (ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ) – จักรวาลแรกในความทรงจำ
พิกัดยอดฮิตที่เชื่อว่าหลาย ๆ คนต้องเคยได้ไปเยือนกันสักครั้งแน่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบทัศนศึกษา หรือพ่อแม่พามา หรือมาเดต ! โดยแหล่งเรียนรู้ที่เราเรียกกันติดปากว่า “ท้องฟ้าจำลอง” แห่งนี้ เป็นองค์กรที่จัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์ที่ก่อตั้งขึ้นมาครั้งแรกในปี 2495 โดยแรกเริ่มเป็นกองอุปกรณ์การศึกษา ก่อนจะถูกพัฒนามาเป็นท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ และหอดูดาวให้เราได้มาเปิดโลกแห่งการเรียนรู้เรื่องของจักรวาลกันจนทุกวันนี้ โดยในวาระวันสำคัญนี้ ท้องฟ้าจำลองยังได้เปิดให้ทุกคนได้มาเยื่ยมชม และร่วมทำกิจกรรมทางวิทยาศาสตร์ต่าง ๆ กันฟรี ๆ ในวันนี้ (18 ส.ค. 63) รับวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติอีกด้วย
ตั้งอยู่ที่ 928 ถ.สุขุมวิท แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กทม. / เบอร์โทรศัพท์ 0-2391-0544 / เปิดวันอังคาร – อาทิตย์ เวลา 09:00 – 16:30 น. (ปิดวันจันทร์, วันหยุดนักขัตฤกษ์) / FB : ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ
สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (NARIT) – ดูดาวแบบได้ทั้งสาระและความสนุกสนาน
องค์กรที่ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อวางพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางดาราศาสตร์ที่มีมาตรฐานระดับสากล ทั้งสนับสนุนงานวิจัยทางด้านดาราศาสตร์ของประเทศ รวมถึงการรองรับการให้บริการด้านดาราศาสตร์ในรูปแบบต่าง ๆ
ปัจจุบันสถาบันฯ เปิดให้บริการแล้ว 4 แห่ง
– อุทยานดาราศาสตร์สิรินธร (Princess Sirindhorn AstroPark)
– หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา นครราชสีมา (Regional Observatory for Public, Nakhon Ratchasima)
– หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา ฉะเชิงเทรา (Regional Observatory for Public, Chachoengsao)
– หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา สงขลา (Regional Observatory for Public, Songkhla)
ซึ่งปีนี้ทางสถาบันฯ ได้จัดกิจกรรมรับวิทวิทยาศาสตร์แห่งชาติอย่าง NARIT SCIENCE WEEK 2020 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 17-23 ส.ค. 63 พร้อมกันทั้ง 4 แห่ง ในรูปแบบกิจกรรม และนิทรรศการดาราศาสตร์แบบ Interactive หรือใครอยู่ห่างไกล ก็สามารถร่วมกิจกรรมได้ผ่าน FB : NARIT สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ ได้เลย
พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ อพวช. – จะธรรมชาติ เทคโนโลยี หรือเอกภพก็ครบจบในที่เดียว
หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ สังกัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ที่ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ.2538 เพื่อสร้างความตระหนักด้านวิทยาศาสตร์แก่สังคมไทย ในรูปแบบ Edutainment & Interactive ที่ทันสมัย ผู้เข้าชมสามารถเรียนรู้ สัมผัส และหาคำตอบได้ด้วยตนเอง ได้แก่
– พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์
– พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา
– พิพิธภัณฑ์เทคโนโลยีสารสนเทศ
– จัตุรัสวิทยาศาสตร์ อพวช. (ณ ชั้น 4 อาคารจัตุรัสจามจุรี กรุงเทพฯ)
ทำให้เป็นอีกแหล่งเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์ที่ครอบคลุมทั้งธรรมชาติ จักรวาล เทคโนโลยี ทั้งยังมีกิจกรรมสนุก ๆ ให้ได้เข้าไปร่วมทำกันตลอดทั้งวัน
ตั้งอยู่ที่ ต.คลองห้า อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี / เปิดวันอังคาร – ศุกร์ เวลา 09:30 16:00 น. วันเสาร์ – อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 09:00 – 17:00 น. (ปิดทำการทุกวันจันทร์) / เบอร์โทรศัพท์ 02-577 9999 ต่อ 2122 – 2123 / FB : พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ อพวช.
Sea Life Bangkok Ocean World – ส่องหาแง่มุมทางวิทยาศาสตร์ที่ซ่อนอยู่ในโลกใต้สมุทร
เป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำใต้ดิน พื้นที่รวม 10,000 ตารางเมตร ภายในจะมีไฮไลต์สำคัญ ๆ ทั้งแอ่งหินเรียนรู้ แท็งก์น้ำลึก 7 เมตรที่มีทั้งสัตว์ทะเลหายากให้ชมสารพัดชนิด ทั้งมีมาสคอตประจำพิพิธภัณฑ์อีกหลายตัวอย่างปูแมงมุมญี่ปุ่น, ปลาหมึกยักษ์, ปลากระเบน ฯลฯ ในบรรยากาศที่ให้ความรู้สึกราวกับท่องอยู่ในโลกใต้ท้องทะเลอย่างแท้จริง
ตั้งอยู่ที่ สยาม พารากอน (Siam Paragon) / เปิดทุกวัน จันทร์-วันศุกร์ เวลา 11:00 น. – 20:00 น. (เข้าชมรอบสุดท้ายเวลา 19:00 น.) และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 10:00 น. – 19:00 น. (เข้าชมรอบสุดท้ายเวลา 18:00 น.) / FB : SEA LIFE Bangkok Ocean World
