ปรากฏมาล่อความอยากไปเยือนบนหน้าฟีดต่าง ๆ ในโซเชียลมีเดียของเรากันอยู่เรื่อย ๆ กับเฟสติวัลสุดชิค ที่มาพร้อมลมหนาวอย่าง “หมู่บ้านวันเดอร์” งานแห่งความรื่นรมย์ ที่ชวนมาเยียวยาใจด้วยความสนุกสนาน และร่วมสร้างรอยยิ้มให้แก่กันและกัน
“หมู่บ้านวันเดอร์” โปรเจกต์ไซซ์เล็ก จากผู้จัดงาน Wonderfruit
“หมู่บ้านวันเดอร์” คือไลฟ์สไตล์เฟสติวัลขนาดย่อม ที่เกิดขึ้นมาจากการปรับตัวของทีมผู้จัดงาน วันเดอร์ฟรุ๊ต (Wonderfruit) โดยจะจัดงานที่เดอะฟิลด์ส แอท สยามคันทรีคลับ พัทยา พื้นที่เดิมซึ่งเคยใช้จัดงานวันเดอร์ฟรุ๊ต
และเนื้อหาที่เกิดขึ้นในงานจะเป็นการนำภูมิปัญญา คุณค่า และเอกลักษณ์ความเป็นไทยท้องถิ่น มาประยุกต์เข้ากับกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อสร้างประสบการณ์แปลกใหม่ให้กับผู้มาเยือน
ไลน์อัพความสนุกใน “หมู่บ้านวันเดอร์”
แต่ละสัปดาห์จะมีสารพัดกิจกรรมที่ไม่ซ้ำกัน ประกอบไปด้วยการแสดงดนตรี และดีเจกว่า 200 รายการ เวิร์กชอปกว่า 40 กิจกรรม ร้านค้าอาหาร และเครื่องดื่ม 40 กว่าร้าน และร้านสินค้าไทยดีไซน์กว่า 80 ร้านด้วยกัน
นอกจากนี้ ตลอดทั้งสามสัปดาห์ หมู่บ้านวันเดอร์จะเปิดเวทีนอกโรงละครให้กับโชว์สุดอลังการของเหล่าสาวงามจาก ทิฟฟานี่โชว์ คณะคาบาเรต์โชว์ที่เก่าแก่ที่สุดในเอเชียจากเมืองพัทยา
ส่วนของงานศิลปะ และโครงสร้างอินสตอลเลชัน มีนักออกแบบ และสถาปนิกมาร่วมสร้างสรรค์ผลงานน่าสนใจมากมายทั้ง สาธิต รักษาศรี, Eric Tobua, PO-D Architects, Sanitas Studio และ Bangkok Project Studio
หมู่บ้านวันเดอร์ยังพร้อมต้อนรับทั้งเด็กและครอบครัว เพราะมีทีมจาก Little Fields ได้ออกแบบกิจกรรมที่เด็กและผู้ปกครองจะได้ใช้เวลาร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นเวิร์กชอปงานเพนต์เซรามิค ทำปุ๋ยอินทรีย์ ย้อมผ้าสีธรรมชาติ วาดภาพระบายสี เพาะพันธุ์พืช ทำอาหาร ไปจนถึงประดิษฐ์งานฝีมือจากวัสดุเหลือใช้
ลายแทงความอร่อยที่ขนมาครบ ทั้งสูตรอาหารไทยเหนือ คอฟฟี่บาร์ และค็อกเทล
ส่วนของอาหาร และเครื่องดื่ม Fruitfull แพลตฟอร์มน้องใหม่จากทีมผู้สร้างวันเดอร์ฟรุ๊ต จะมาพร้อมกับโปรเจกต์ป๊อปอัพ Fruitfull Presents: Mae Oui Ama กับการปรับโฉม Theatre Stage โดย Mpd Studio ให้เป็นคาเฟ่ริมน้ำบรรยากาศผ่อนคลาย
ควบคุมการผลิตโดยเชฟปริญญ์และมิ้นต์ สองหัวเรือใหญ่ของร้านสำรับสำหรับไทย ที่มาพร้อมเมนูอาหารจานเดียวจากสูตรอาหารไทยเหนือที่ได้อิทธิพลจากล้านนา มอญ พม่า และจีนยูนนาน มี Rise Café ที่เข้ามาดูแลในส่วนของคอฟฟี่บาร์ในช่วงกลางวัน
และเมื่อพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า ก็เปลี่ยนบรรยากาศไปเป็นบาร์ค็อกเทลโดยทีมจาก Studio Lam ที่พร้อมเสิร์ฟเมนูเครื่องดื่มสไตล์ยาดองให้นักท่องราตรีไปสนุกกันต่อกับความบันเทิงยามค่ำคืน นอกจากนี้ยังมีโซนอาหาร และเครื่องดื่มบริการ 3 โซน ทั้ง Chef’s Backyard, Farm Community และ Worldly Wonders
บรรยากาศภายใน “หมู่บ้านวันเดอร์”
จะมีทัศนียภาพของเดอะฟิลด์ที่ตกแต่งใหม่ให้เขียวสดชื่น พร้อมทุ่งดอกไม้ และฟาร์มเกษตรสาธิต และงานศิลปะที่จัดวางตามจุดต่าง ๆ ร่วมชมซาวด์อินสตอลเลชัน Sonic Elements โดย Musicity Studio ที่ให้ผู้ชมเข้าไปรับรู้ถึงธาตุทั้งดิน น้ำ อากาศ และโลหะ ผ่านการใช้ประสาทสัมผัส ผลงานจากการร่วมงานระหว่างศิลปินนานาชาติ และนักบันทึกเสียงสนามมืออาชีพและสมัครเล่น ที่สมัครเข้ามาร่วมโครงการ
นอกจากนี้ยังมีการจัดฉายแอนิเมชัน Wild Card Show สร้างสรรค์โดย Fossick Project กระตุ้นจิตสำนึกปกป้องสัตว์ป่าใกล้สูญพันธ์ุที่ถูกล่าเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจ
ทั้งการจัดงานหมู่บ้านวันเดอร์ ยังคงยึดแนวปฏิบัติด้านความยั่งยืนสืบเนื่องจากงานวันเดอร์ฟรุ๊ต โดยตั้งเป้าหมายลดขยะต้นทางให้เหลือส่งไปทิ้งอย่างไร้ค่าที่หลุมฝังกลบให้น้อยที่สุด (zero landfill)
บัตรเข้างาน “หมู่บ้านวันเดอร์” ราคาเริ่มต้นที่ 690-6,800 บาท / ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.wonderfruit.co/moobaanwonder