สัมผัสความง่ายในการหาความสุข ผ่านย่านที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม และวิถีชีวิตที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ “บางรัก” ด้วยการลัดเลาะไปสำรวจสถานที่ทรงคุณค่า ร้านอาหารท้องถิ่น คาเฟ่ร่วมสมัย ฯลฯ
แบบเต็มแม็กซ์ความสนุก ว่าแล้วก็อย่ารอช้า ยืดเส้นยืดสายให้ดี หาแมสก์ใส่ให้พร้อม แล้วไปตกหลุมรักย่านนี้ จนถอนตัวไม่ขึ้น (แบบเรา) กัน
ศาลเจ้าเจียวเองเบี้ยว
ก้าวเดินออกมาจาก BTS สะพานตากสิน (ทางออก 1) เล็กน้อย ก็จะได้เจอกับศาลเจ้าเจียวเองเบี้ยว ศูนย์รวมความศรัทธาของชาวจีน และพ่อค้าแม่ขายในบางรัก โดยสมัยก่อน ละแวกนี้เป็นท่าเรือที่ชาวจีนโพ้นทะเลนิยมมาขึ้นลง
ตัวศาลเจ้ามีความเก่าแก่กว่า 150 ปี สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงโศกนาฏกรรมนักเดินเรือชาวจีน 108 คน จากเรื่องราวที่เชื่อว่าในสมัยอยุธยา มีชาวจีนล่องเรือสำเภามาค้าขายที่บางรัก แต่ถูกทางการเวียดนามคิดว่าเป็นโจรสลัด จึงจับกุม และได้ประหารชีวิต
ภายในจึงมีป้ายดวงวิญญาณเทพเจ้า 108 พี่น้อง, ไฉ่ซิงเอี้ยะ, บู๊นท๋ากง, เจ้าแม่กวนอิม และเจ้าแม่ทับทิม ให้ได้สักการะขอพร โดยเฉพาะเรื่องการค้าขาย สำหรับเครื่องไหว้นิยมเป็นผลไม้
ซ.เจริญกรุง 50 เขตบางรัก
วัดสวนพูล
ศาสนสถานซึ่งเต็มไปด้วยเอกลักษณ์ และสีสันไม่เหมือนใคร พบหลักฐานการดำรงอยู่มาตั้งแต่สมัย ร.1 โดยตัววัดหันหลังให้แม่น้ำเจ้าพระยา เพราะในอดีตย่านนี้มีคลอง และสวนหมาก พูล ผลไม้ จึงหันหน้าไปทางคลองแทน ทั้งยังถูกเรียกว่าวัดคลองล้อม มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์สำคัญคือ พระพุทธรูปสมัยสุโขทัย ที่ประดิษฐานในอุโบสถปูนปั้นประดับกระจก
กอปรกับวิหารพระพุทธไสยาสน์ ซึ่งประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ และหลวงพ่อป่าเลไลย์ที่ศักดิ์สิทธิ์ และเชื่อว่าช่วยปกปักรักษาวัด จนรอดจากการทิ้งระเบิดเมื่อตอนสงครามโลก ครั้งที่ 2
ซึ่งเมื่อครั้งนั้น ชาวบางรักก็มาหลบในวิหารด้วย รวมถึงมีหมู่กุฎิขนมปังขิง ที่โดดเด่นด้วยลวดลายไม้ฉลุ ที่ได้รับรางวัลอนุรักษ์ดีเด่นมรดกสถาปัตยกรรม จากสมาคมสถาปนิกสยาม เมื่อปี 2545
ซ.เจริญกรุง 42 เขตบางรัก
มัสยิดฮารูณ
มัสยิดฮารูณ ศาสนสถานเก่าแก่ที่ได้จดทะเบียนลำดับที่ 2 ของ กทม. ตาม พ.ร.บ.มัสยิด พ.ศ. 2490 สร้างโดยโต๊ะฮารูณ บาฟาเดน และฮัจยีมูฮำหมัดยูซุฟ (บุตรชาย) ชาวอินโดฯ ที่อพยพมาเมื่อต้นรัชกาลที่ 3 ร่วมกับนายห้าง 3 ท่าน
เดิมเป็นเรือนไม้สัก ต่อมาได้สร้างใหม่แบบก่ออิฐถือปูน ผนังรับน้ำหนัก ไม่มีโดม โดยไม้เดิมทำเป็นพื้น และแกะสลักอักษรจากคัมภีร์อัลกุรอานบทแรก ภายในยังมีโคมไฟสีเขียว เครื่องสังเค็ดในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ รัชกาลที่ 5
ในอดีต มีชาวชุมชนที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านสำโรง ริมแม่น้ำเจ้าพระยา แต่ต่อมากรมศุลกากรต้องขยายท่าน้ำ และโรงสินค้า จึงขอแลกเปลี่ยนที่ดิน 300 ตร.ว. ให้เป็นที่ตั้งแทน
ซ.เจริญกรุง 36 เขตบางรัก
Fats and Angry
คาเฟ่ใหม่กริบแกะกล่องแห่งย่านเจริญกรุง ที่โดดเด่นด้วยสไตล์การออกแบบร้านในธีมอเมริกันยุค 90s ยิ่งใครที่รักในภาพบรรยากาศวิถีชีวิตชาวอเมริกัน ดังที่เห็นได้จากภาพยนตร์ หรือซีรีส์อเมริกาหลายเรื่อง รับรองว่าร้านนี้ จะเติมความรู้สึกนั้นได้อย่างเต็มอิ่มแน่นอน
ทั้งการตกแต่ง ที่เต็มไปด้วยโปสเตอร์วินเทจ แม้แต่เฟอร์นิเจอร์ เคาน์เตอร์ ฯลฯ ก็ยังเป็นธีมคาเฟ่อเมริกันสุด ๆ ส่วนของเมนูอาหารนั้น มีทั้งเครื่องดื่มสายหวาน กับอาหารอิ่มท้อง แบบครบครัน
ซ.เจริญกรุง 46 เขตบางรัก / เปิดทุกวัน เวลา 10:30 – 21:00 น. / FB : Fats and Angry
พิพิธภัณฑ์ชาวบางกอก
พิพิธภัณฑ์ชาวบางกอก ก่อตั้งโดย รศ.วราพร สุรวดี ผู้เป็นเจ้าของบ้าน ต่อมาได้มอบให้ กทม.ดูแล ภายใต้ชื่อพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นกรุงเทพมหาคร เขตบางรัก เป็นสถานที่อันทรงคุณค่าแห่งหนึ่งของกทม.
เห็นได้จากหลักฐานสำคัญทางประวัติศาสตร์ ที่ถ่ายทอดเรื่องราวชีวิต และความเป็นอยู่ของชาวบางกอกฐานะปานกลาง ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 (ปี 2480-2500)
ภายใต้ความร่มรื่นด้วยแมกไม้ มีอาคารเก่าแก่ 3 หลัง ได้แก่ บ้านคุณแม่สอาง เรือนทรงปั้นหยาที่ครอบครัวสุรวดีเคยอาศัย, บ้านคุณหมอฟรานซิส คริสเตียน และอาคารตึกแถว 8 ห้อง ซึ่งข้าวของที่จัดแสดง ล้วนสะท้อนภาพชีวิต และสังคมในยุคนั้นได้เป็นอย่างดี
ซอยเจริญกรุง 43 เขตบางรัก / เปิดเวลา 09:00-16:00 น. (หยุดวันจันทร์)
ขาหมูเจริญแสง
ขาหมูเจริญแสง หรือที่รู้จักกันในหมู่นักชิมว่าขาหมูเลิดสิน เพราะตั้งอยู่ในตรอกตรงข้ามโรงพยาบาลเลิดสิน เปิดขายมากว่า 60 ปี โดดเด่นด้วยน้ำพะโล้เข้มข้น หวานปลายลิ้น ขาหมูเลือกส่วนหน้าขาข้างละ 2 กิโลกรัม นำไปอบแล้วจึงต้ม
หนังหมูนุ่มอร่อย เวลาเสิร์ฟจะไม่ราดข้าว แต่แยกเสิร์ฟใส่ชามมาต่างหาก และยังมีสารพัดชิ้นส่วนของหมู และเครื่องใน ที่ต้มจนรสชาติเข้าเนื้อ อร่อยชนิดที่ได้รางวัลมิชลิน ไกด์ 2018 ประเภทร้านอร่อยคุ้มค่า ในราคาย่อมเยา (Bib Gourmand) เลยทีเดียว
แยกบางรัก ถ.สีลม (ตรอกเยื้องโรงพยาบาลเลิดสิน หรือเข้าทาง ซ.เจริญกรุง 49) / เปิดทุกวัน เวลา 08:00-13:00 น.
ก๋วยเตี๋ยวแคะสี่พระยา
ก๋วยเตี๋ยวแคะสี่พระยา ที่เริ่มขายมาตั้งแต่ปี 2480 จุดเด่นคือรสชาติของลูกชิ้นแคะ ที่ทำออกมาได้เหนียวดี ผสมแป้งน้อย น้ำซุปใส หวานน้ำต้มกระดูกหมู ซดคล่องคอ แถมลวกเส้นได้นุ่มพอดี ทั้งยังมีเมนูทีเด็ดคือแปดเซียนเหยียบเมฆา ซึ่งลูกค้าขาประจำนิยมสั่ง
โดยจะเป็นบะหมี่แห้ง ที่ใส่วัตถุดิบทุกอย่างในร้าน แล้วเพิ่มไข่ดาว ซึ่งนับว่าเข้ากันดี ปรุงแบบเข้มข้น มี 3 ขนาดให้เลือกสั่ง ชามเล็กสนนราคา 70 บาท ใหญ่ 100 บาท และจัมโบ้ 200 บาท ใครเป็นสายบะหมี่ ต้องลองมาชิมให้ได้
ปากซอยวัดมหาพฤฒาราม ถ.สี่พระยา (ทางวันเวย์ อยู่ใกล้บริเวณใต้ทางด่วน) / เปิดทุกวัน เวลา 10:00-15:30 น.
ห้องสมุด เนลสัน เฮย์ส
ห้องสมุด เนลสัน เฮย์ส (Neilson Hays Library) ได้รับการจดทะเบียนขึ้นเป็นสมาคมห้องสมุด เมื่อปี พ.ศ. 2412 ซึ่งมีเป้าประสงค์เพื่อให้บริการหนังสือ และเป็นแหล่งเรียนรู้สำหรับชาวต่างชาติในกรุงเทพฯ โดยแรกเริ่มห้องสมุดยังไม่มีสถานที่ตั้งแน่นอน แต่มาในปี พ.ศ. 2463 การเสียชีวิตของเจนนี่ เนลสัน (Jennie Nelison) สตรีชาวเดนมาร์กที่มีส่วนสำคัญต่อการดำเนินงานของห้องสมุดมาหลายสิบปี ทำให้นายแพทย์โทมัส เฮย์วอร์ด เฮย์ส (Thomas Heywaed Hays) สามีของเธอต้องการสานต่องานที่เธอทุ่มเททำมาทั้งชีวิต
ด้วยการซื้อที่ดินริมถนนสุรวงศ์ และสร้างอาคารที่จะถูกใช้เป็นห้องสมุด เกิดเป็นตัวอาคารสไตล์นีโอคลาสสิก ที่ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกคนสำคัญของกรุงเทพฯ ในสมัยนั้นอย่าง มารีโอ ตามัญโญ (Mario Tamagno) และกลายมาเป็นห้องสมุดที่ตั้งชื่อตามคู่รักทั้งสองอย่าง เจนนี่ เนลสัน และโทมัส เฮย์วอร์ด เฮย์ส ในนาม “Neilson Hays Library” ซึ่งเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2465 นับเป็นห้องสมุดที่เปิดทำการมาแล้วเกือบ 100 ปี
ปัจจุบันตัวห้องสมุด ซึ่งเพิ่งผ่านการบูรณะครั้งใหญ่มาแบบสด ๆ ร้อน ๆ ได้กลับมาเปิดให้ทำการอีกครั้ง โดยนอกจากจะพร้อมสรรพไปด้วยคลังหนังสือภาษาอังกฤษแล้ว ยังมีกิจกรรมการเรียนรู้ เวิร์กชอปด้านการเขียน และอีเวนต์น่าสนใจรอให้ทุกคนไปร่วมสนุกมากมาย
ถ.สุรวงศ์ แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก / เปิดวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 09:30 – 17:00 น. (ปิดวันจันทร์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์) / พื้นที่โดยรอบห้องสมุด เปิดให้มาเดินเยี่ยมชมได้ฟรี ส่วนภายในอาคารห้องสมุด มีค่าเข้า 100 บาท/คน (ในกรณีที่ไม่ได้เป็นสมาชิกของห้องสมุด) / FB : Neilson Hays Library
Feng Zhu
ร้านเกี๊ยวซ่าเล็ก ๆ แต่คงสไตล์ฮ่องกงแท้ ๆ แบบได้บรรยากาศสุด ๆ ไม่ว่าจะเป็นกระเบื้องดินเผาลงลายอักษรจีน ความเป็นครัวกึ่งเปิด ฯลฯ โดยเมนูที่เข้ากับคอนเซปต์ติ่มซำของร้านนี้จะเป็น “เกี๊ยวซ่าหน้าเปิด” ซึ่งเป็นเกี๊ยวซ่าแบบไม่จับจีบ แต่เปิดหน้าเกี๊ยวมาให้เห็นถึงเครื่องแน่น ๆ
โดยมีให้เลือกหลายรสชาติ อาทิเช่นรสสามก๊ก, เห็ดห้าอย่าง, หมาล่า, และแกงฮังเลแห้ง เป็นต้น ซึ่งทางร้านปั้นด้วยความพิถีพิถัน ก่อนนำไปนึ่งพอสุก
เหมาะทานคู่กับเครื่องดื่มสมุนไพรจีนเย็น ๆ รสชาติดื่มง่ายอย่าง “หวังเหล่าจี๋” ของทางร้าน ที่นอกจากจะเข้ากันแล้ว ดีไซน์ขวดสไตล์จีนแท้ ยังน่าใช้เป็นพร็อพถ่ายรูปสวย ๆ คู่กับจานเกี๊ยวเราที่สุด
ทางเข้าท่าเรือสี่พระยา (ตรงข้ามทางเข้าริเวอร์ซิตี้) ซ.เจริญกรุง 24 เขตบางรัก / เปิดทุกวัน เวลา 10:00-20:00 น. / FB : Feng Zhu เกี๊ยวซ่าหน้าเปิด