การบินไทยรับมือไวรัสโคโรนา ยกระดับการรักษาความสะอาดขั้นสูงสุด เข้มข้นฉีดพ่นอบน้ำยาฆ่าเชื้อและทำความสะอาดเครื่องบินไป–กลับจีนและพื้นที่เสี่ยงทุกลำ
บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไทยสมายล์แอร์เวย์ จัดบรรยายสรุปมาตรการ และสาธิตการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อ การทำความสะอาด ภายในเครื่องบิน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคปอดอักเสบจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ทั้งตัวเครื่องบิน การบริการบนเครื่องบิน รวมถึงฝ่ายบริการลูกค้าภาคพื้น เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้แก่ผู้โดยสารและผู้ใช้บริการ โดยมีการสาธิตวิธีการฉีดพ่นและอบยาฆ่าเชื้อ การทำความสะอาดภายในเครื่องบินโบอิ้ง 777-200 ที่เตรียมที่จะนำไปบินให้บริการในเส้นทางประเทศจีน
โดยนายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ไวรัสโคโรนามีจุดตั้งต้นที่เมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน และแพร่กระจายไปหลายๆ เมือง ดังนั้นเครื่องบินของการบินไทยและไทยสมายล์ที่ทำการบินไปยังประเทศจีนทุกลำจะมีการทำความสะอาดแบบละเอียดทุกตารางนิ้ว เพื่อให้ผู้โดยสารมั่นใจได้สูงสุด ขณะที่ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการเด็ดขาดขอให้ดำเนินการทุกมาตรการเพื่อดูแลไม่ให้เกิดการแพร่เชื้อได้
สำหรับการตรวจผู้โดยสารที่เดินทางมาจากประเทศจีน ก็มีการดำเนินการอย่างเข้มงวดรัดกุม รวมถึงผู้โดยสารจากเส้นทางอื่นๆ ก็ดำเนินการตามมาตรฐานเช่นกัน โดยสนามบินทุกแห่งรวมถึงสนามบินในความดูแลของกรมท่าอากาศยาน 28 แห่งจะดำเนินการโดยใช้มาตรฐานการตรวจผู้โดยสารในแบบเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาในเรื่องของ visa on arrival ที่อาจจะขอความร่วมมือจากประเทศจีนให้ทำ Visa มาจากต้นทาง เพื่อให้มีการตรวจสอบในเรื่องสุขภาพจากต้นทาง เพื่อลดความเสี่ยงหรือข้อน่ากังวลสำหรับผู้โดยสารที่มาจากประเทศจีนในระยะนี้
ขณะที่นายเชิดพันธ์ โชติคุณ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายช่าง การบินไทย กล่าวว่า การบินไทยมีมาตรการในการทำความสะอาดเครื่องบิน และอุปกรณ์ในการให้บริการ ซึ่งดำเนินการอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว แต่ขณะนี้ได้ยกระดับเป็นขั้นสูงสุด โดยมีการอบพ่นสเปรย์ Calla 1452 ฆ่าเชื้อโรคในอากาศยานทั้งในบริเวณห้องผู้โดยสารและห้องนักบินในทุกเที่ยวบินที่ทำการบินกลับมาจากประเทศจีนทั้งหมดรวมถึงพื้นทเสี่ยงสำหรับเครื่องบินที่ทำการบินไปยังประเทศจีนทุกลำอย่างเข้มข้น
โดยปัจจุบันการบินไทยทำการบินในเส้นทางไป–กลับ กรุงเทพฯ – จีน ใน 6 จุดบิน ได้แก่ ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กว่างโจว เซี่ยเหมิน คุนหมิง เฉิงตู รวมจำนวน 9 เที่ยวบิน/วัน และเที่ยวบินร่วมของไทยสมายล์ 3 จุดบิน ได้แก่ ฉงชิ่ง ฉางซา และเจิ้งโจว มีจำนวน 7 เที่ยวบิน/วัน ได้แก่ กรุงเทพฯ–ฮ่องกง, กรุงเทพฯ–เกาสง, กรุงเทพฯ–ฉงชิ่ง, กรุงเทพฯ–ฉางซา, กรุงเทพฯ–เจิ้งโจว, เชียงใหม่–เกาสง, ภูเก็ต–ฮ่องกง/ ภูเก็ต–กรุงเทพฯ
สำหรับระยะเวลาในการพ่นยาฆ่าเชื้อบนเครื่องบิน จะใช้เวลาประมาณ 45 นาที โดยเริ่มจากที่ลูกเรือคนสุดท้ายลงจากเครื่อง ซึ่งจะเป็นการพ่นยา 15 นาที อีก 30 นาทีเป็นการปิดเครื่องบินเพื่อทำการอบฆ่าเชื้อ และทำความสะอาด โดยรวมแล้วใช้เวลาาประมาณ 2 ชม.-2 ชม.ครึ่ง ซึ่งยืนยันว่าจะไม่กระทบหรือส่งผลให้เที่ยวบินล่าช้า และไม่ได้ทำให้ค่าใช้จ่ายในการทำความสะอาดเพิ่มขึ้นมากนัก ซึ่งน้ำยาฉีดพ่นฆ่าเชื้อราคาประมาณ 62 ดอลลาร์สหรัฐ/แกลลอน
ในส่วนของการให้บริการแบบเต็มรูปแบบ (Full Service) มีระบบ In Flight Entertainment ซึ่งมีอุปกรณ์ที่ผู้โดยสารสัมผัส รวมถึงจุดอื่นๆ ภายในเครื่องบิน ก็จะมีการทำความสะอาดอย่างเข้มข้น (Deep Cleaning) ซึ่งมีจุดสัมผัสร่วม 36 จุด เช่น กระเป๋าหน้าที่นั่งผู้โดยสาร บริเวณภายในเครื่องบินทั่วไป ที่นั่งผู้โดยสาร ครัว และห้องน้ำ ส่วนคุณภาพแอร์ภายในห้องโดยสาร มีการกรองอากาศด้วย HEPA FILTER ซึ่งผู้ผลิตรับรองคุณภาพ 99.99%
ด้านนักบินและลูกเรือ รวมถึงพนักงานภาคพื้น มีมาตรการป้องกันอย่างเข้มข้นเช่นกัน และในกรรีที่หากพบผู้โดยสารที่อาจจะติดเชื้อจะมีการปฏิบัติตามมาตรฐานทุกขั้นตอน
ส่วนการรับขนส่งสินค้าและไปรษณียภัณฑ์ ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลเรื่องการติดเชื้อ แต่ก็มีการตรวจสอบหีบห่อสินค้าให้เป็นไปตามมาตรฐาน หลีกเลี่ยงการส่งสินค้าที่มีความเสี่ยง และจัดการคลังสินค้าให้ถูกสุขลักษณะปลอดจากการเป็นแหล่งเชื้อโรค
สำหรับมาตรการการรักษาความสะอาดในห้องผู้โดยสารบนเครื่องบิน ทั้งด้านอุปกรณ์ เครื่องใช้ในการบริการและพนักงานที่ปฏิบัติงาน มีดังนี้
1. มาตรการคัดกรองในการตรวจรับผู้โดยสารและการบริการภาคพื้น
– สังเกตอาการผู้โดยสาร ณ จุดบริการ หากพบว่ามีอาการบ่งชี้ ให้รายงานต่อแพทย์ประจำสนามบินเพื่อตรวจดูอาการ และยืนยันความปลอดภัยก่อนเดินทาง
2. มาตรการในการให้บริการบนเครื่องบิน
– พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินสวมใส่หน้ากากอนามัยและถุงมือในการบริการบนเที่ยวบินที่มีความเสี่ยง
– ให้บริการโดยไม่ให้ผู้โดยสารจับต้องเครื่องมืออุปกรณ์บริการอาหาร
– เพิ่มความถี่ในการทำความสะอาดภายในห้องน้ำระหว่างเที่ยวบิน
– จัดเตรียมหน้ากากอนามัยสำหรับผู้โดยสารที่มีอาการสวมใส่บนเครื่อง
– สังเกตอาการผู้โดยสารระหว่างเดินทาง หากมีอาการต้องสงสัยให้แยกผู้โดยสาร และแจ้งด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศก่อนเครื่องลง
3. มาตรการจัดเตรียมอากาศยาน และฆ่าเชื้อโรค
– การอบพ่นสเปรย์ Calla 1452 ฆ่าเชื้อโรคในอากาศยาน ทั้งในบริเวณห้องผู้โดยสาร และห้องนักบินในทุกเที่ยวบินที่ทำการบินกลับมาจากประเทศจีนทั้งหมด และพื้นที่ที่มีความเสี่ยง
– ระยะเวลาในการพ่นยาฆ่าเชื้อบนเครื่องบิน โดยเริ่มจากลูกเรือคนสุดท้ายลงจากเครื่อง ใช้เวลาทั้งหมด 45 นาที โดยเป็นการพ่นยา 15 นาที และอีก 30 นาที เป็นการปิดเครื่องบินเพื่อทำการอบฆ่าเชื้อ
– การกรองอากาศด้วย HEPA FILTER
4. มาตรการทำความสะอาดภายในอากาศยานมามาตรการป้องกันและเฝ้าระวังสุขอนามัยพนักงาน
– ทำความสะอาด Deep Cleaning และทำความสะอาด 36 จุดสัมผัสร่วม แบ่งตามพื้นที่เป็น 5 ส่วน ได้แก่ กระเป๋าหน้าที่นั่งผู้โดยสาร (Passenger Seat Pocket) บริเวณภายในเครื่องบินทั่วไป (Aircraft Interior Cabin) ที่นั่งผู้โดยสาร (Passenger Seat) ครัว (Galley) และห้องน้ำ (Toilet) โดยมีวิธีดำเนินการ ดังนี้
1. พนักงานต้องใช้อุปกรณ์ป้องกัน (หน้ากาก/ถุงมือ) อย่างเคร่งครัด
2. มัดปากถุงให้แน่นหนา ก่อนนำขยะลงจากเครื่องและทิ้งในจุดที่กำหนด
3. หลังจากปฏิบัติงานต้องล้างมือด้วยสบู่/เจลล้างมือ ทุกครั้ง
5. มาตรการป้องกันและเฝ้าระวังสุขอนามัยพนักงาน
– เผยแพร่ความรู้ให้พนักงานเรื่องลักษณะของโรค และการป้องกันตัวเอง ไม่ให้เกิดความตื่นตระหนก
– จัดหาอุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล (Personal Protective Equipment : PPE) และวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ให้พนักงาน
– ให้ทำการตรวจสุขภาพหากพบพนักงานมีอาการต้องสงสัย ตามความเห็นแพทย์ และให้หยุดพักจนกว่าจะหายเป็นปกติ
6. มาตรการการรับขนส่งสินค้าและไปรษณียภัณฑ์
– ตรวจสอบหีบห่อสินค้าให้เป็นไปตามมาตรฐาน
– หลีกเลี่ยงการส่งสินค้าที่มีความเสี่ยง
– จัดการคลังสินค้าให้ถูกสุขลักษณะปลอดจากการเป็นแหล่งเชื้อโรค
7. มาตรการด้านโภชนาการ
– จัดซื้อวัตถุดิบที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน GAP
– ดำเนินการผลิตภายใต้ระบบประกันคุณภาพและความปลอดภัยอาหาร HACCP, GMP, HALAL
– เครื่องมือและอุปกรณ์การผลิตและบริการทุกชิ้นผ่านการทำความสะอาดและพาสเจอไรซ์
– ผ้าที่ให้บริการในเที่ยวบินผ่านการซักอบรีด อย่างถูกสุขลักษณะ