นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการแทนผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้เปิดเผยถึงความคืบหน้าการก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่สายใต้ ระยะแรก ช่วงนครปฐม–ชุมพร ว่าภาพรวมความคืบหน้าอยู่ที่ 55.821% ล่าช้ากว่าแผนที่วางไว้ 7.876%
สร้างทางคู่นครปฐม–ชุมพร ยังช้ากว่าแผน
รฟท.เปิดเผยถึงความคืบหน้าการก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่สายใต้ ระยะแรก ช่วงนครปฐม–ชุมพร ระยะทาง 421 กม. วงเงินรวม 33,982 ล้านบาท ว่า ขณะนี้ความคืบหน้าโครงการภาพรวมอยู่ที่ 55.821% ล่าช้ากว่าแผน 7.876% ซึ่งแผนงานกำหนดไว้ที่ 63.697% โดยผลงานของเดือนมีนาคม มีความคืบหน้าที่ 2.323% ล่าช้าจากแผนงานที่กำหนดไว้ 4.971%
เผยความคืบหน้า 5 สัญญาก่อสร้าง
สำหรับการก่อสร้าง แบ่งออกเป็น 5 สัญญาได้แก่
1.ช่วงนครปฐม – หัวหิน สัญญาที่ 1 (นครปฐม – หนองปลาไหล) ระยะทาง 93 กม. วงเงิน 8,198 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 36 เดือน แผนงานกำหนดไว้ 73.992% ความคืบหน้าผลงานอยู่ที่ 54.764% ล่าช้ากว่าแผน 19.228% โดยมี บริษัท เอ.เอส.แอสโซซิเอท เอนยิเนี่ยริ่ง 1964 จำกัด เป็นผู้รับจ้างดำเนินงาน
2.ช่วงนครปฐม – หัวหิน สัญญาที่ 2 (หนองปลาไหล–หัวหิน) ระยะทาง 76 กม. วงเงิน 7,520 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 36 เดือน แผนงานกำหนดไว้ 57.663% ความคืบหน้าผลงานอยู่ที่ 61.724% สร้างเร็วกว่าแผนงาน 4.061% โดยมี บริษัท ซิโน–ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นผู้รับจ้างดำเนินงาน
3.ช่วงหัวหิน – ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 84 กม. วงเงิน 5,807 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 30 เดือน แผนงานกำหนดไว้ 85.50% ความคืบหน้าผลงานอยู่ที่ 62.92% สร้างล่าช้ากว่าแผนงาน 22.58% โดยมี บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้รับจ้างดำเนินงาน
4.ช่วงประจวบคีรีขันธ์ – ชุมพร สัญญาที่ 1 (ประจวบคีรีขันธ์–บางสะพานน้อย) ระยะทาง 88 กม. วงเงิน 6,465 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 33 เดือน แผนงานกำหนดไว้ 58.531% ความคืบหน้าผลงานอยู่ที่ 53.522% สร้างล่าช้ากว่าแผนงาน 5.009 โดยมี กิจการร่วมค้า เคเอส–ซี เป็นผู้รับจ้างดำเนินงาน
5.ช่วงประจวบคีรีขันธ์ – ชุมพร สัญญาที่ 2 (บางสะพานน้อย–ชุมพร) ระยะทาง 79 กม. วงเงิน 5,992 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 36 เดือน แผนงานกำหนดไว้ 41.628% ความคืบหน้าผลงานอยู่ที่ 45.491% สร้างเร็วกว่าแผน 3.463% โดยมี กิจการร่วมค้า เอสทีทีพี เป็นผู้รับจ้างดำเนินงาน
รฟท.เร่งงานให้เปิดใช้ได้ในปี 2565
ส่วนสาเหตุความล่าช้า เนื่องจากมีปัญหาอุปสรรคในการก่อสร้างหลายจุด ซึ่งได้มีการปรับแบบเพื่อลดผลกระทบ และให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่ ทั้งนี้ รฟท. ได้เร่งรัดงานโยธาให้แล้วเสร็จตามแผนงานในปี 2564 และคาดว่าจะสามารถติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณ พร้อมเปิดให้บริการได้ในปี 2565
เมื่อโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จ จะช่วยลดระยะเวลาการเดินทางในเส้นทางสายใต้ให้เร็วขึ้น จากเดิมใช้เวลาเดินทางประมาณ 8 ชม. เป็น 6 ชม. และจะสามารถรองรับขบวนรถเพิ่มขึ้นได้ไม่น้อยกว่า 2 เท่าตัว
รวมทั้งเป็นการแก้ไขปัญหาจุดตัดทางรถไฟโดยใช้แนวทางการก่อสร้างสะพานรถยนต์ข้ามทางรถไฟ (Overpass) หรือทางลอดใต้ทางรถไฟ (Underpass) ช่วยเพิ่มความเร็วและความปลอดภัยในการขนส่งผู้โดยสารและสินค้าเพิ่มขึ้นสามารถเพิ่มความรวดเร็วและความตรงต่อเวลาในการเดินขบวนรถไฟสามารถแก้ไขปัญหาจราจรที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
ที่สำคัญจะเป็นการลดอุบัติเหตุบริเวณจุดตัดทางรถไฟได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังเป็นการเชื่อมต่อระบบการขนส่งเส้นทางท่องเที่ยวของจังหวัดชุมพร เช่น รถเช่า เรือท่องเที่ยว และธุรกิจอื่นๆ เพื่ออำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้เป็นอย่างดี