ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ (เครดิตบูโร) ไตรมาสแรก ปี 2563 พบว่า เด็กรุ่นใหม่ หรือ GEN Z (เกิดปี 2540-2552) เริ่มก่อหนี้ตั้งแต่อายุยังน้อย โดยมีอัตราการก่อหนี้เติบโตเฉลี่ยเดือนละ 7% หรือเพิ่มขึ้น 200% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
GEN Z ก่อหนี้เก่ง อัตราพุ่งขึ้น 200%
อย่างไรก็ตาม หากเทียบมูลค่าการก่อหนี้รายกลุ่ม กลุ่ม GEN Y (อายุ 23-40 ปี) ยังคงมียอดหนี้สูงสุด 4 ล้านล้านบาท โดยมีจำนวนหนี้สูงสุดในทุกเจเนอเรชั่น แบ่งได้ดังนี้
– GEN Y (เกิดปี 2523-2539) หนี้รวม 4 ล้านล้านบาท หนี้เสีย (NPL) 2.7 แสนล้านบาท
– GEN X (เกิดปี 2508-2522) หนี้รวม 3.7 ล้านล้านบาท หนี้เสีย (NPL) 2.8 แสนล้านบาท
– BABY BOOMER (เกิดปี 2489-2507) หนี้รวม 1.2 ล้านล้านบาท หนี้เสีย (NPL) 8.4 หมื่นล้านบาท
– GEN Z (เกิดปี 2540-2552) หนี้รวม 2.5 หมื่นล้านบาท หนี้เสีย (NPL) 1.2 พันล้านบาท
สำหรับ GEN Z คือ กลุ่มคนรุ่นใหม่ ซึ่งเกิดระหว่างปี พ.ศ. 2540-2552 เติบโตมาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายที่อยู่แวดล้อม มีความสามารถในการใช้งานเทคโนโลยีต่างๆ และเรียนรู้ได้เร็ว โดยข้อมูลจากเครดิตบูโร ระบุว่า หนี้เสียจาก GEN Z จะไปกระจุกตัวอยู่ในกลุ่มทำธุรกิจออนไลน์ และซื้อรถยนต์
นอกจากนี้ยังพบว่า พฤติกรรมของคน GEN Z คือ ติดโลกออนไลน์ ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่บนเว็บไซต์ สื่อสารผ่านอินเทอร์เน็ตเป็นหลัก จึงรับข้อมูลข่าวสารอย่างรวดเร็ว ทำให้ชาว GEN Z ชอบตัดสินใจทำอะไรอย่างรวดเร็ว
ขณะเดียวกัน เป็นกลุ่มที่เปิดกว้างทางความคิดและวัฒนธรรมที่แตกต่างมากขึ้น มีแนวโน้มที่จะปรับทัศนคติได้ดี มีความกล้าแสดงออก มีความมั่นใจสูง และชอบทำงานหลายอย่างพร้อมกัน
