การส่งออกสินค้าไทยไปจีนยายตัว +15.3% ซึ่งนับเป็นตลาดหลักเพียงตลาดเดียวที่การส่งออกขยายตัวเป็นบวก โดยสินค้าที่ขยายตัวสูง ได้แก่ ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งและแห้ง โดยเฉพาะทุเรียน (+234.4%)
ทุเรียนไทยส่งออกพุ่ง 234.4%
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เผยมูลค่าการส่งออกสินค้าไทยเดือน พ.ค. 2563 อยู่ที่ 16,278 ล้านดอลลาร์ฯ หดตัว -22.5% (หากหักมูลค่าส่งออกทองคำ หดตัว -27.9%) เป็นผลจากมาตรการปิดเมืองของหลายประเทศทั่วโลก โดยการส่งออกที่หดตัวในเดือนนี้นับเป็นการหดตัวลึกที่สุดในรอบกว่า 10 ปี ตามทิศทางเดียวกันกับการส่งออกสินค้าของภูมิภาค เช่น ญี่ปุ่น (-28.3%) เกาหลีใต้ (-23.7%) อินโดนีเซีย (-29.%)
โดยสาเหตุหลักมาจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เข้มงวดส่งผลให้ห่วงโซ่การผลิตโลกชะงักงันอีกทั้งอุปสงค์โลกอ่อนแอลงค่อนข้างมากจากมาตรการล็อกดาวน์ของประเทศต่างๆ
การส่งออกสินค้าไทยไปจีนกลับขยายตัว +15.3% ซึ่งนับเป็นตลาดหลักเพียงตลาดเดียวที่การส่งออกขยายตัวเป็นบวก โดยสินค้าที่ขยายตัวสูง ได้แก่ ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งและแห้ง โดยเฉพาะทุเรียน (+234.4%) รถยนต์และส่วนประกอบ (+204.2%) ผลิตภัณฑ์ยาง (+35.6%) แต่หากพิจารณาเป็นรายสินค้าส่งออกในภาพรวมพบว่าสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรยังขยายตัวเป็นบวกจากอานิสงส์ความต้องการที่เพิ่มขึ้นของสินค้าบางประเภทเช่นผลไม้ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังและทูน่ากระป๋องในขณะที่สินค้าอุตสาหกรรมหดตัวในทุกหมวดไม่เว้นสินค้าอุตสาหกรรมศักยภาพอาทิรถยนต์และส่วนประกอบสินค้าอิเล็กทรอนิกส์
จากความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจโลกที่สูงขึ้น รวมถึงค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นนับตั้งแต่เดือน เม.ย. 2563 ที่ผ่านมา ยังเป็นปัจจัยที่กดดันการส่งออกของไทยในระยะข้างหน้า ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ยังคงประมาณการการส่งออกปี 2563 จะหดตัวไว้ที่ -6.1% โดยต้องติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดรอบ 2 ซึ่งอาจจะทำให้การส่งออกมีแนวโน้มหดตัวมากกว่าที่ประเมินไว้