เต็ดตรา แพ้ค เผยวิจัยระดับนานาชาติ โดยร่วมกับอิปซอส (Ipsos) พบว่า ความปลอดภัยทางอาหารกำลังเป็นประเด็นหลักของสังคม โดยผู้ที่ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ เชื่อว่าการแพร่ระบาดโควิด-19 คือภัยคุกคามที่แท้จริง ขณะเดียวกันความกังวลเรื่องสิ่งแวดล้อมยังคงปรากฏอย่างเด่นชัด เพราะการสร้างสมดุลระหว่างสิ่งสำคัญต่อการดำรงชีวิตคือ “อาหารที่ปลอดภัย”
ทั่วโลกกังวลต่อความปลอดภัยของอาหารและการจัดการอาหารเพิ่มขึ้น 10%
จากรายงานเต็ดตรา แพ้ค อินเด็กซ์ ในปีนี้ ชี้ว่าทั่วโลกมีความกังวลเพิ่มขึ้น 10% เกี่ยวกับความปลอดภัยของอาหารและการจัดการอาหารในอนาคต เพิ่มจาก 30% ในปี 2562 เป็น 40% ในปี 2563 โดยผู้บริโภคกว่า 50% ไม่เพียงแค่เชื่อว่าการยกระดับอาหารให้มีความปลอดภัยของผู้ผลิตเท่านั้น แต่คิดว่าสิ่งสำคัญคือบริษัทผู้ผลิตต่างๆ ต้องจัดการปัญหาเหล่านี้ตั้งแต่วันนี้และในอนาคต ในงานวิจัยระบุว่า สุขภาพมีความเชื่อมโยงมากกับอาหารที่มีความปลอดภัยและถูกสุขอนามัย การมีสุขภาพที่ดี คือความปลอดภัยของชีวิต ขณะเดียวกันผู้บริโภค 60% ยังรู้สึกกังวลเกี่ยวกับอาหารที่พวกเขาซื้อว่ามีความปลอดภัยและถูกหลักอนามัยหรือไม่
บรรจุภัณฑ์ คือหนึ่งในสิ่งที่ส่งผลถึงความปลอดภัยของอาหาร
ในส่วนของบรรจุภัณฑ์ ผู้บริโภคส่วนใหญ่ชี้ว่าการรับประทานอาหารที่ปลอดภัย บรรจุภัณฑ์มีส่วนสำคัญอย่างมาก และผู้บริโภคยังแสดงความคิดเห็นว่า นวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมในบรรจุภัณฑ์ ที่ส่งผลถึงความปลอดภัยทางอาหารส่วนใหญ่ กล่าวว่า “การใช้บรรจุภัณฑ์” คือหนึ่งในประเด็นหลักที่ผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มต้องใส่ใจในวันนี้และในอนาคต
ปัญหาขยะอาหาร มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และกำลังเป็นปัญหาที่สำคัญในตอนนี้
อีกทั้งรายงานวิจัยยังเผยถึง ขยะอาหารที่กำลังเป็นประเด็นร้อนแรง โดยผู้ตอบคำถาม 3 ใน 4 กังวลต่อเรื่องนี้ ผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 ต่อห่วงโซ่อาหารอุปทานได้กระตุ้นให้ผู้คนตระหนักถึงปัญหาขยะอาหารจะกลายเป็นปัญหาที่ต้องเร่งแก้ไข และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นสูง เมื่อต้องจัดหาอาหารให้แก่ประชาชนโลกที่กำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ผู้บริโภคยังบอกด้วยอีกด้วยว่า การลดขยะอาหารถือเป็นปัญหาสิ่งแวดล้อมอันดับหนึ่งที่พวกเขาสามารถมีส่วนสนับสนุนได้ ในอนาคต นวัตกรรมที่ผู้บริโภคต้องการคือสิ่งที่สามารถถนอมอาหารให้ปลอดภัยได้ยาวนาน และหลีกเหลี่ยงการสร้างขยะไปพร้อมกับการรักษาคุณค่าทางโภนาการของอาหาร