Sunday, June 11, 2023
More
    spot_imgspot_imgspot_imgspot_img

    ความคิดสร้างสรรค์ คันเร่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย

    การผลักดันให้เกิดความคิดสร้างสรรค์เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มในการออกแบบยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องจากภาครัฐ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนประเทศภายใต้โมเดลเศรษฐกิจไทยแลนด์ 4.0 เพื่อสร้างฐานประเทศไทยสู่การเป็น Creative Thailand 

    เร่งสร้างอุตสาหกรรมครีเอทีฟ
    เศรษฐกิจสร้างสรรค์ไม่ใช่เรื่องใหม่ของประเทศ แต่ในยุคที่รัฐบาลพยายามขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมผ่านความคิดสร้างสรรค์ โดยมีฐานคิดหลักคือ เปลี่ยนจากการผลิตสินค้าโภคภัณฑ์ไปสู่สินค้าเชิงนวัตกรรม เปลี่ยนการขับเคลื่อนประเทศจากภาคอุตสาหกรรมไปสู่ด้านด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม และเปลี่ยนจากการเน้นภาคการผลิตสินค้าไปสู่ภาคบริการมากขึ้น


    สำนักงานคณะกรรมการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สคช.) ได้กำหนดขอบเขตขนาดของเศรษฐกิจสร้างสรรค์โดยยึดตามรูปแบบขององค์การสหประชาชาติด้วยการค้าและการพัฒนา (UNCTAD) และปรับเพิ่มเติมตามรูปแบบของยูเนสโก โดยจำแนกประเภทอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ออกเป็น 4 กลุ่มหลัก ดังนี้

    1. กลุ่มมรดกทางวัฒนธรรม เช่น อาหารไทย การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ สินค้า OTOP การแปรรูปสมุนไพรไทย ฯลฯ 
    2. กลุ่มศิลปะและการแสดง เช่น การแสดงโขน การแสดงหุ่นละครเล็ก การร่ายรำมโนราห์ การเชิดหนังตะลุง
    3. กลุ่มสื่อสมัยใหม่ เช่น งานภาพยนตร์ งานเพลง งานแอนิเมชั่น งานโฆษณา ฯลฯ 
    4. กลุ่มงานออกแบบ เช่น งาน BIG + BIH มีสินค้าของผู้ประกอบการไทยที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์ในเชิงออกแบบมาช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มและสามารถส่งออกสู่ตลาดโลกได้เป็นจำนวนมาก หรือ TREND Book ของสถาบันวิจัยแฟชั่นแห่งประเทศไทย ที่เกิดขึ้นเพื่อให้นักออกแบบไทยสามารถเข้าถึงข้อมูลอันเป็นประโยชน์เกี่ยวกับการบริโภคสินค้าสิ่งทอและแฟชั่น 

    รายงานของยูเนสโก เมื่อเดือนธันวาคม 2558 ระบุว่า อุตสาหกรรมสร้างสรรค์และวัฒนธรรมทั่วโลกมีรายรับ 22.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 80 ล้านล้านบาท มีการจ้างงานถึง 29.5 ล้านคน

    ขณะที่อุตสาหกรรมไทยสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจถึง 1.66 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 13.18% ของจีดีพีซึ่งมีมูลค่ารวม 12.14 ล้านล้านบาท อุตสาหกรรมสร้างสรรค์รายสาขาที่มีมูลค่าสูง 3 อันดับแรก คือ อุตสาหกรรมแฟชั่น อุตสาหกรรมการออกแบบ และอุตสาหกรรมแพร่ภาพกระจายเสียง

    ด้านกระทรวงพาณิชย์ได้เร่งพัฒนาสร้างเครือข่ายนักธุรกิจรุ่นใหม่ เพื่อสร้างฐานประเทศไทยสู่การเป็นอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ในปี 2560 โดยสติถิพบว่า จำนวนผู้ประกอบการ SMEs ในอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ปี 2559 มี 359,515 ราย จำนวนการจ้างงานอาชีพสร้างสรรค์มี 860,654 คน และในด้านสถิติทางทรัพย์สินทางปัญญา พบว่า ปี 2558 จำนวนการจดทะเบียนสิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์ของคนไทยมี 2,090 ครั้ง

    เร่งเปิดศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ
    เมื่อวันที่ 5 พ.ค. ที่ผ่านมา ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ หรือ ทีซีดีซี (TCDC) ซึ่งเป็นหนึ่งในบริบทที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อผลักดันให้ประเทศไทยก้าวสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์ ติดอาวุธใหม่ให้ผู้ประกอบการสามารถสร้างผลงานที่มีศักยภาพ ล่าสุดได้เนรมิต “ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ กรุงเทพ” แห่งใหม่ ณ อาคารไปรษณีย์กลาง ถนนเจริญกรุง ครอบคลุมทั้งหมด 5 ชั้น รวมเกือบ 9,000 ตารางเมตร สามารถรองรับผู้ใช้บริการได้มากขึ้นเพราะพื้นที่เพิ่มขึ้นจากเดิมเท่าตัว

    การย้ายศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบมายังอาคารไปรษณีย์กลางนั้น ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของการสร้างสรรค์เจริญกรุงในฐานะพื้นที่สร้างสรรค์นำร่องของประเทศไทย ผ่านการพัฒนาพื้นที่ให้มีระบบนิเวศสร้างสรรค์ ส่งเสริมพื้นที่โดยรอบให้มีสีสันและเต็มไปด้วยความเคลื่อนไหวใหม่ๆ โดยมีเป้าหมายในการเปลี่ยนเจริญกรุงให้กลับมามีบทบาทในการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจที่สำคัญอีกครั้งหนึ่ง พร้อมพลิกโฉมเจริญกรุงให้เป็นแลนด์มาร์กใหม่ระดับสากล และเพื่อเป็นพื้นที่หลักการจัดงานเทศกาลสร้างสรรค์ ที่ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบต้องการผลักดันให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองหลวงแห่งการออกแบบโลกในปี 2022

    ที่ผ่านมา TCDC ให้บริการประชาชนไปถึง 15 ล้านครั้ง ผ่านพื้นที่แหล่งเรียนรู้สร้างสรรค์และบริการออนไลน์ พัฒนาความรู้และสร้างโอกาสทางธุรกิจแก่ผู้ประกอบการกว่า 100,000 ราย ส่งเสริมการส่งออกแก่ผู้ประกอบการวัสดุไทยมากกว่า 200 บริษัท ซึ่งจากการสำรวจกลุ่มผู้ประกอบการในภาคการผลิตและธุรกิจสร้างสรรค์ที่ผ่านการใช้บริการของศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ พบว่า ธุรกิจต่างๆ เหล่านั้น มีรายได้เพิ่มขึ้นถึง 26% จากรายได้เดิม 

    อย่างไรก็ตาม ข้อจำกัดของการพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของไทย คือ ยังขาดฐานข้อมูลเกี่ยวกับอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ เช่น ข้อมูล Value Chain หรือจำนวนแรงงานสร้างสรรค์ เช่น จำนวนนักออกแบบ

    อีกทั้ง ยังมีกลุ่มคนบางกลุ่มที่มีจุดแข็ง เช่น บุคคลากรในด้านความคิดสร้างสรรค์ แต่คนทั่วไปกลับไม่ได้รับรู้ถึงความสามารถและศักยภาพของคนเหล่านี้ ดังนั้นภาครัฐจึงต้องช่วยสนับสนุนและเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารในเชิงบวก ปรับเปลี่ยนข้อกำหนดทางนโยบาย เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของสื่อสมัยใหม่ในภูมิภาคได้อย่างเต็มตัว ไม่เพียงแต่สนับสนุนโครงการที่เกิดขึ้นเป็นครั้งคราว แต่ควรเน้นไปที่การสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่เน้นให้เกิดการสร้างความคิดสร้างสรรค์เพื่อที่จะให้ความคิดนั้นเกิดการต่อยอดและนำไปสู่การพัฒนาประเทศในระยะยาว

    การสร้างความแตกต่างและเอกลักษณ์ผ่านความคิดสร้างสรรค์ จึงเป็นตัวแปรสำคัญที่จะนำไทยไปสู่สนามเศรษฐกิจโลกได้อย่างเต็มภาคภูมิและก้าวเข้าสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 อันเป็นประตูสู่ Creative Thailand ได้ในเร็ววัน 


    พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี
    “หนึ่งในบทบาทสำคัญของรัฐบาลในการพัฒนาประเทศให้มีความก้าวหน้า คือ การพัฒนาคนให้มีศักยภาพ พร้อมที่จะรับมือกับความเปลี่ยนแปลง สามารถทำหน้าที่เป็นผู้สร้างสรรค์ ผู้ผลิต เพื่อขับเคลื่อนสังคม ฉะนั้นแล้ว การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออำนวยความสะดวก และส่งเสริมให้ประชาชนเข้าถึงองค์ความรู้อย่างทั่วถึง โดยรัฐบาลมีหน้าที่ได้สนับสนุนงานสร้างสรรค์เพื่อตอบสนองการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี”

    อภิสิทธิ์ ไล่สัตรูไกล ผู้อำนวยการศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC) 
    “การย้ายมาของศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบมายังอาคารไปรษณีย์กลางว่าเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของการสร้างสรรค์เจริญกรุงในฐานะพื้นที่สร้างสรรค์นำร่องของประเทศไทย เป็นแหล่งรวมงานศิลปะ งานสร้างสรรค์ เอื้อต่อการดึงดูด บ่มเพาะ และเติบโตของผู้ประกอบการสร้างสรรค์ สตาร์ทอัพ และผู้ประกอบการดิจิทัล โดยมีเป้าหมายในการเปลี่ยนเจริญกรุงให้กลับมามีบทบาทในการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจที่สำคัญอีกครั้งหนึ่ง”

    อรวรา คงไพบูลย์ Startup ด้านการท่องเที่ยว และผู้ใช้บริการ TCDC
    “ในบริบทที่เราเป็นดีไซน์เนอร์ TCDC ตอบโจทย์ในด้านการออกแบบอย่างมาก ให้ข้อมูลและคอนเนคชั่นที่เกิดจากผลพวงการเข้าร่วมเวิร์คชอป ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับคนอื่นๆ ได้ช่วยเหลือกันในแง่ของธุรกิจที่เราทำอยู่ด้วย TCDC ถือเป็นแหล่งข้อมูลอันดับ 1 ด้านดีไซน์ของเมืองไทย ซึ่งตอนนี้ก็กำลังขยายฐานไปสู่สตาร์ตอัพ และ SMEs เป็นโอกาสดีที่คนไทยจะได้แสดงออกทางความคิดสร้างสรรค์เพิ่มขึ้น”