เทคนิคการออมเงินง่ายๆ แต่ทำแล้วเห็นผลจริง!

ดูเหมือนว่าการออมเงินจะเป็นเรื่องที่หลายคนหลงลืมไป พอเงินเดือนออก ก็ใช้กิน เที่ยว ชอปปิง กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ไม่มีเงินเหลือเก็บสักบาท ซึ่งเป็นเรื่องเสี่ยงหากเกิดเหตุฉุกเฉินที่จำเป็นต้องใช้เงินกะทันหัน ใครที่กำลังเป็นแบบนี้ ถึงเวลาแล้วที่ต้องเริ่มออมเงินเพื่อสร้างความมั่นคงในอนาคต

แจกทริค 4 วิธีออมเงินให้คุ้มค่าที่สุด

1. ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน

การมีเป้าหมายที่ชัดเจนว่าจะนำเงินเก็บไปทำอะไร จะทำให้เรามีกำลังใจในการเก็บเงินเพิ่มขึ้น โดยอาจเริ่มจากตั้งเป้าหมายระยะสั้นก่อน เช่น เก็บเงินเพื่อซื้อกระเป๋าที่อยากได้ ซึ่งเมื่อทำสำเร็จก็จะช่วยสร้างกำลังใจให้เราตั้งเป้าหมายระยะยาวต่อไป 

2. ทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย

วิธีง่าย ๆ ที่เราคุ้นเคยกันดีคือการทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย เพียงจดบันทึกรายรับและรายจ่ายทุกอย่างในแต่ละวัน เมื่อครบเดือนเราก็จะมองเห็นว่าเงินส่วนใหญ่หมดไปกับอะไร มีส่วนใดที่สามารถลดทอนได้ เพื่อเพิ่มเงินออมในเดือนต่อ ๆ ไปให้มากขึ้น

3. เก็บเงินด้วยเทคนิคต่าง ๆ

การเก็บเงินอาจเป็นเรื่องยากของใครหลายคน เราจึงจะมาแนะนำเทคนิคการเก็บเงินง่าย ๆ ให้คุณเลือกใช้ให้เหมาะตัวเองที่สุด เช่น การเก็บเงินในกระปุกที่เปิดยากเพื่อป้องกันการหยิบเงินมาใช้, การเก็บเงินด้วยการเก็บเหรียญ, การเก็บเงินตามเศษของเงินเดือน เช่น เงินเดือน 21,250 บาท ให้เก็บเศษ 250 บาทในทุก ๆ เดือน, การเก็บเงินจากแบงก์ 50 บาท, การเก็บเงินโดยไล่ลำดับวันใน 1 ปี เช่น วันที่ 20 เก็บ 20 บาท หรือการเก็บเงินโดยแบ่งเงินออกเป็นสัดส่วน วิธีนี้จะทำให้เรามองเห็นภาพรวมในแต่ละเดือน รู้ว่าจะนำเงินแต่ละส่วนไปใช้จ่ายส่วนใดบ้าง โดยสูตรที่นิยมใช้แบ่งเงิน คือ 50-30-20 แบ่งออกเป็น ค่าใช้จ่ายประจำแต่ละเดือน-ค่าใช้จ่ายส่วนตัว-เงินเก็บ โดยส่วน 20 สามารถนำไปต่อยอดต่อได้ เช่น การทำประกันสะสมทรัพย์ที่นอกจากได้สะสมเงินแล้ว ยังได้รับความคุ้มครองชีวิต รวมถึงสิทธิประโยชน์ในการลดหย่อนภาษีด้วย 

4. ทำประกันบำนาญเพื่อเตรียมพร้อมเข้าสู่วัยเกษียณ

การทำประกันบำนาญ หรือที่เรียกกันว่าประกันเกษียณ เป็นวิธีออมเงินระยะยาวที่จะช่วยรับประกันว่าเมื่อเกษียณอายุคุณจะมีเงินใช้แน่นอน ยกตัวอย่าง การทำประกัน พรูสุขสำราญ ผู้เอาประกันจะต้องชำระเบี้ยประกันจนถึงอายุ 60 ปี และจะได้รับเงินบำนาญ 15% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย ตั้งแต่ปีกรมธรรม์ที่อายุครบ 60-85 ปี รวมทั้งยังสามารถนำเบี้ยประกันไปลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 200,000 บาทต่อปี (ทั้งนี้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของกรมสรรพากร) เรียกได้ว่าได้ทั้งออมเงินและสิทธิประโยชน์ในการลดหย่อนภาษีด้วย

จะเห็นว่าการออมเงินสามารถทำได้ง่าย ๆ ไม่ว่าจะเป็นการตั้งเป้าหมาย การทำรายรับ-รายจ่าย การใช้เทคนิคการเก็บเงินต่าง ๆ นอกจากนี้คุณยังสามารถวางแผนทางการเงินยามเกษียณด้วยการทำประกันเกษียณได้เช่นกัน อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญที่จะทำให้การออมสำเร็จ คือ การมีวินัยในการออม หากสามารถทำได้จะช่วยให้เกิดความมั่นคงในระยะยาว มีเงินใช้ยามฉุกเฉิน