ปัจจุบันประเทศไทยมีธุรกิจสปาและนวดเพื่อสุขภาพกว่า 13,514 ราย มีมูลค่าตลาดรวม 33,574 ล้านบาท เติบโตขยายตัว 8% ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลก ส่งผลให้ธุรกิจสปาไทยกวาดกำไรเพิ่มสูงขึ้นในไตรมาสแรกของปี 2561 ขณะเดียวกันการแข่งขันทางธุรกิจสุขภาพและความงามก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน
ธุรกิจสปาโกยกำไรต่อเนื่อง
ตลาดธุรกิจด้านสุขภาพและความงามของไทยปี 2560 ทั้งหมดมีมูลค่าราว 136,500 ล้านบาท แบ่งเป็นส่วนของบริการทางการแพทย์ 102,926 ล้านบาท และธุรกิจสปากับนวดไทยกว่า 33,574 ล้านบาท
โดยศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (อีไอซี) เปิดเผยว่า ธุรกิจสปาในประเทศไทยเติบโตถึง 8% สูงกว่าอัตราการเติบโตของมูลค่าตลาดทั่วโลก ที่มีแนวโน้มขยายตัวเฉลี่ยราว 5% ต่อปี ทำให้ธุรกิจสปาไทยติดอันดับ 16 ของโลก และเป็นอันดับ 5 ของเอเชีย โดยมีสัดส่วนของผู้ใช้บริการ แบ่งเป็น ชาวต่างชาติ 75% และคนไทย 25%
นายวิบูลย์ อุตสาหจิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท สยามเวลเนสกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ SPA ผู้นำด้านธุรกิจสปาที่ครบวงจรที่สุดของไทย เปิดเผยว่า รายได้จากการขายและบริการของไตรมาส 1 ปี 2561 อยู่ที่ 280.84 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 53.47 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 24% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นการเติบโตของรายได้ธุรกิจสปาเป็นหลัก
สำหรับแผนปี 2561 บริษัทฯ เตรียมขยายสาขาทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยในปีนี้ได้เปิดไปแล้ว 2 สาขาคือ Let’s Relax พนมเปญ Mao Tse Toung Blvd และ Let’s Relax ชิงต่าว ส่วนในประเทศจะทยอยเปิดสาขาใหม่ในครึ่งปีหลัง เพื่อรองรับฤดูกาลท่องเที่ยว
ด้านนายพัฒนพงศ์ รานุรักษ์ ผู้ร่วมก่อตั้ง ดีวานา สปา และผู้บริหาร บริษัท ดี วี เอ็น อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า ตลาดรวมในธุรกิจสปาของไทยมีมูลค่ามหาศาลและเติบโตต่อเนื่องทุกปี โดยในส่วนของ บริษัทฯ ในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา เติบโตเพิ่มขึ้นถึง 150% มียอดขายประมาณ 120 ล้านบาท ซึ่งตัวเลขรวมภายในสิ้นปีนี้น่าจะทะลุ 500 ล้านบาท ตลอดระยะเวลา 16 ปีที่ผ่านมา ดีวานา ได้รับการตอบรับจากลูกค้าทั่วโลก เข้ารับบริการรวมแล้ว กว่า 1.3 ล้านคน ต่างให้การยอมรับในความเป็นสปาพรีเมียมอันดับหนึ่งของไทย
โดยในปีนี้มีแผนการเปิดสาขาใหม่ที่ซอยสมคิด ชิดลม และเตรียมขยายสู่หัวเมืองท่องเที่ยวอีกอย่างน้อย 4 สาขาในปีหน้า ส่วนในอนาคตมีแผนขยายตลาดออกไปยังต่างประเทศ และจะขยายตลาดออกไปถึงกลุ่มคนเทรนดี้รุ่นใหม่ เพิ่มความหลากหลายจากธุรกิจ Wellness ให้กลายเป็นสินค้า Lifestyle ที่ลูกค้าทั่วไปสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้
ธุรกิจสปารุ่ง เอสเอ็มอีรอด
จากแนวโน้มธุรกิจสปา ปี 2561 ที่กำลังเติบโตสดใส ย่อมมีผู้ประกอบการรายใหม่เพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้การแข่งขันทางธุรกิจสุขภาพและความงามเพิ่มสูงขึ้น
ล่าสุด นายทรงวุฒิ ตรีเทพจุลยากูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท สรรพสินค้าเวลเนส จำกัด และสมาคมสปาไทย เปิดเผยว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวเดินทางมายังประเทศไทยมากกว่า 30 ล้านคน ส่งผลให้ธุรกิจโรงแรมและสปาได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นมาก บริษัทเล็งเห็นถึงโอกาสการเติบโตจึงได้ร่วมกับธนาคารกสิกรไทย จัดทำโครงการ WELLNESS leasing ธุรกิจสินเชื่อให้คำปรึกษาการประกอบธุรกิจสำหรับโรงแรมและสปาแห่งแรกในประเทศไทย ซึ่งจะช่วยให้นักลงทุนดำเนินธุรกิจได้อย่างราบรื่นและต่อเนื่อง มีเงินทุนหมุนเวียน นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่มาใช้ในธุรกิจ ทั้งยังเป็นการเสริมภาพลักษณ์ธุรกิจโรงแรมและสปาไทยให้สามารถแข่งขันกับตลาดโลกได้อีกด้วย
ด้านกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ได้เล็งเห็นความสำคัญของการสร้างมาตรฐานคุณภาพการบริหารจัดการธุรกิจสปา ธุรกิจนวดเพื่อสุขภาพ และธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ จึงได้จัดอบรมโครงการยกระดับมาตรฐานการบริหารจัดการธุรกิจบริการสุขภาพสู่เกณฑ์มาตรฐานคุณภาพ ภายใต้โครงการพัฒนาศักยภาพธุรกิจบริการที่มีมูลค่าสูง ปีงบประมาณ 2561 ขึ้น เพื่อยกระดับธุรกิจบริการสุขภาพไทยให้สามารถแข่งขันในตลาดระดับสากลได้
ขณะเดียวกัน สตาร์ทอัพไทยหน้าใหม่อย่าง GoWabi (โกวาบิ) ได้ชูจุดเด่นเป็นสื่อกลางในการจองสปาและบริการเสริมความงามเจ้าแรกในประเทศผ่านเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน โดยมีส่วนลดพิเศษให้กับลูกค้า รวมไปถึงการให้บริการจองในช่วงเวลาทั่วไป ทำให้ลูกค้าประหยัดเวลาและไม่ต้องยุ่งยากในการโทรศัพท์หรือติดต่อร้านค้า อำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าสำหรับช่องทางการจ่ายเงิน ได้แก่ จ่ายทางหน้าร้านและจ่ายทางออนไลน์ อีกทั้งยังช่วยให้ร้านค้าสามารถเติมเต็มพื้นที่ว่างในร้านค้าได้ ผ่านการจองในช่วงเวลา Off-peak ซึ่งปัจจุบันมีร้านค้าในประเทศไทยกว่า 1,000 แห่งที่สามารถจองได้ผ่าน GoWabi ทำให้ผู้ใช้บริการสามารถเข้าถึงการบริการได้อย่างง่ายดาย ขณะเดียวกันก็เป็นการขยายฐานลูกค้าให้กับธุรกิจสปาและความงามด้วย
การเติบโตของธุรกิจสปาและความงามในประเทศไทย ไม่เพียงแต่เป็นโอกาสทองของผู้ประกอบการเท่านั้น แต่ยังส่งผลถึงภาคการท่องเที่ยว โดยเฉพาะตลาด Medical Tourism หรือท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ด้วยศักยภาพที่สามารถแข่งขันกับตลาดโลกได้ อีกทั้งชื่อเสียงการให้บริการด้านความงามของไทยก็เป็นที่นิยมของชาวต่างชาติในลำดับต้นๆ ด้วย จึงเป็นที่การันตีว่าธุรกิจด้านสุขภาพและความงามของไทยยังคงมาแรง
คุณทรงวุฒิ ตรีเทพจุลยากูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท สรรพสินค้าเวลเนส จำกัด และสมาคมสปาไทย
“ที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวเดินทางมาประเทศไทยกว่า 30 ล้านคน ส่งผลให้ธุรกิจสปาได้รับความนิยมมากขึ้น เราจึงจัดทำธุรกิจสินเชื่อสนับสนุนผู้ประกอบการธุรกิจสปา ทั้งผู้เริ่มต้นหรือต้องการปรับปรุงธุรกิจเดิม เน้นบริการแบบ One-Stop Service ให้คำแนะนำด้านเงินทุน จัดหาสินค้า อบรมให้ความรู้ และบริการหลังการขายอย่างครบวงจร”
[English]
Thai Spa-Massage Business Sees Strong Growth
Thailand’s health and beauty business is currently estimated to be worth some 136.5 billion baht, with three-quarters dedicated to medical service while the rest focused on spa and massage business.
Siam Commercial Bank Economic Intelligence Center (SCB-EIC) said that the spa and massage sector has been growing at the rate of 8.0% — outpacing their rivals around the world, which have registered an average growth rate of 5.0%.
Siam Wellness Group Public Company Limited, Thailand’s leading comprehensive spa chain, revealed that its sales in the first quarter of this year stood at 280.8 million baht, up 24% year-over-year while DVN International Co., Ltd. — the operator of Divana Spa, reported a 150% growth in sales to around 120 million baht for 1Q18 — a performance that has convinced the company that it will more than hit the 500-million-baht sales target for 2018.