ประกาศผลแล้วสำหรับมรดกโลกแห่งใหม่ในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกของยูเนสโกครั้งที่ 42 ที่กรุงมานามา ประเทศบาห์เรน ระหว่างวันที่ 24 มิถุนายน ถึง 4 กรกฎาคม 2561 ที่ผ่านมาซึ่งมีเกณฑ์ในการประเมินคุณค่าทั้งวัฒนธรรมและธรรมชาติซึ่งในปีนี้ มีเพิ่มอีก 19 แห่งดังนี้
1. Aasivissuit – Nipisat. Inuit Hunting Ground between Ice and Sea
ตั้งอยู่ภายใน Arctic Circle ในภาคกลางของกรีนแลนด์ตะวันตก ภายในพื้นที่มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ของมนุษย์ทั้ง 4,200 ปี แสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมการล่าสัตว์บกและสัตว์น้ำ ของชาวเอสกิโม รวมถึงมรดกทางวัฒนธรรมที่ยังจับต้องได้ ทั้งการเดินเรือและการแพทย์ มีบ้านหลังใหญ่ในใช้ในช่วงฤดูหนาว แหล่งโบราณคดีด้านภาษาอินูอิต และยังสะท้อนให้เห็นถึงประเพณีการย้ายถิ่นฐานตามฤดูกาลด้วย
2. Al-Ahsa Oasis, an Evolving Cultural Landscape
โอเอซิส อัล อะฮซา อยู่ทางตะวันออกของคาบสมุทรอาระเบีย ในโอเอซิสประกอบด้วยสวนปาล์ม คลอง น้ำพุ บ่อน้ำ ตลอดจนอาคารบ้านเรือนนอกจากนี้ยังเป็นโอเอซิสแห่งอินทผลัมและน้ำพุ เป็นพื้นที่สีเขียวที่สุดมากกว่าทุกพื้นที่ทางตะวันออกของราชอาณาจักรฯ ที่นี่มีต้นอินทผลัมกว่า 1.5 ล้านต้น และยังเป็นโอเอซิสอินทผลัมที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วย
3. Ancient City of Qalhat
เมืองท่าโบราณคาลฮัต ประเทศโอมาน : เป็นเมืองท่าโบราณที่ปัจจุบันกลายมาเป็นเมืองท่าสำคัญทางชายฝั่งตะวันออกคาบสมุทรอาระเบีย ในช่วงศตวรรษที่ 11-15 ปัจจุบัน เมืองท่าแห่งนี้เป็นหลักฐานสำคัญทางโบราณคดีที่แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมโยงระหว่างดินแดนทางตะวันออกของคาบสมุทรอาระเบีย แอฟริกาตะวันออก อินเดีย จีน และภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ของทวีปเอเชีย
4. Archaeological Border complex of Hedeby and the Danevirke
ซากเมืองเก่าในเยอรมนี ซึ่งเดิมเป็นศูนย์กลางการค้าสำคัญของยุโรป มีร่องรอยของถนน อาคาร สุสาน และท่าเรือ ในช่วงราว ล้อมรอบด้วย Danevirke ซึ่งเป็นแนวป้อมปราการ Hedeby เป็นศูนย์กลางการค้าระหว่างทวีปยุโรปและสแกนดิเนเวีย และระหว่างทะเลเหนือและทะเลบอลติก เป็นจุดสำคัญสำหรับข้อมูลเกี่ยวกับการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และประวัติศาสตร์ในยุโรป ช่วงยุคไวกิ้ง
5. Barberton Makhonjwa Mountains
อยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของแอฟริกาใต้ ประกอบด้วย 40% ของ Barberton Greenstone Belt ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงสร้างทางธรณีวิทยาที่เก่าแก่ที่สุดในโลกเทือกเขา Barberton Makhonjwa แสดงให้เห็นยอดหินภูเขาไฟและตะกอนที่สะสมไว้อย่างดีที่สุดตั้งแต่ 3.6-3.25 พันล้านปี เมื่อทวีปแรกเริ่มก่อตัวขึ้นบนโลก มีผลกระทบจากอุกกาบาตที่เกิดขึ้นหลังจากการโจมตีครั้งใหญ่
6. Caliphate City of Medina Azahara
เป็นโบราณสถานของเมืองที่สร้างขึ้นในช่วงกลางศตวรรษที่ 10โดยหลังจากรุ่งเรืองเป็นเวลาหลายปีก็ถูกทิ้งร้างในช่วงสงครามกลางเมืองซากของเมืองถูกลืมไปเกือบ 1,000 ปีจนกว่าจะมีการค้นพบในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ในเมืองนี้มีโครงสร้างพื้นฐานเช่น ถนน สะพาน ระบบน้ำ อาคาร และสิ่งของที่ใช้ในชีวิตประจำวัน
7. Chaîne des Puys – Limagne fault tectonic arena
ตั้งอยู่ตอนกลางของฝรั่งเศส เป็นแนวภูเขาไฟเรียงตัวกัน ลักษณะทางธรณีวิทยาแสดงให้เห็นถึงรอยร้าวของเปลือกโลก มีการแยกตัว ยุบตัว และยกระดับบนพื้นผิว
8. Chiribiquete National Park – “The Maloca of the Jaguar”
ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศโคลอมเบียเป็นอุทยานแห่งชาติที่เป็นพื้นที่คุ้มครองใหญ่ที่สุดในประเทศ และยังเป็นที่ตั้งของแหล่งอารยธรรมและสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชนพื้นเมือง รวมถึงมีภาพเขียนบนผนังถ้ำซึ่งมีอายุเก่าแก่ถึง 20,000 ปีก่อนคริสตกาลกว่า 75,000 ภาพ
9. Fanjingshan
ตั้งอยู่ในเทือกเขา Wuling ในจังหวัดกุ้ยโจว (ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีน)รอบๆ บริเวณขึ้นชื่อเรื่องความหลากหลายทางชีวภาพ โดยเป็นแหล่งรวมพืชพรรณกว่า 2,000 ชนิด
10. Göbekli Tepe
ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของอนาโตเลีย สิ่งปลูกสร้างมีลักษณะเป็นอนุสาวรีย์มีการเชื่อมโยงกับพิธีกรรม การฝังศพ มีเสารูปตัว T ถูกแกะสลักด้วยภาพสัตว์ป่า ทำให้สามารถเข้าใจในวิถีชีวิตและความเชื่อของผู้คนที่อาศัยอยู่ในดินแดนเมโสโปเตเมียตอนบน เมื่อประมาณ 11,500 ปีก่อน
11. Hidden Christian Sites in the Nagasaki Region
ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะคิวชู ประกอบด้วยหมู่บ้าน 10 แห่ง ปราสาท และโบสถ์ ซึ่งสร้างขึ้นระหว่างศตวรรษที่ 17-19 ที่สะท้อนถึงช่วงเวลาของการห้ามนับถือศาสนาคริสต์ในญี่ปุ่น มาจนถึงช่วงฟื้นฟูชุมชนคริสเตียนในภายหลัง
12. Ivrea, industrial city of the 20th century
เมืองอุตสาหกรรมของ Ivrea ตั้งอยู่ในภูมิภาค Piedmont และได้รับการพัฒนาให้เป็นพื้นที่ทดสอบของ Olivetti ผู้ผลิตเครื่องพิมพ์ดีด เครื่องคำนวณ เครื่องจักรกลและคอมพิวเตอร์สำนักงาน ประกอบด้วยโรงงานขนาดใหญ่และอาคารที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการบริหารและบริการทางสังคม รวมทั้งที่อยู่อาศัย ออกแบบโดยสถาปนิกชั้นนำของอิตาลีแสดงถึงวิสัยทัศน์ที่ทันสมัยเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างการผลิตทางอุตสาหกรรมและสถาปัตยกรรม
13. Naumburg Cathedral
เริ่มก่อสร้างเมื่อปี ค.ศ.1028 แสดงให้เห็นถึงศิลปะและสถาปัตยกรรมในยุคกลาง มีโครงสร้างแบบโรมัน ล้อมรอบด้วยปีกแบบโกธิค แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนโฉมจากปลายยุคโรมันไปจนถึงแบบโกธิคตอนต้น
14. Pimachiowin Aki
เป็นป่าที่มีทิวทัศน์ทั้งแม่น้ำ ป่าทึบ และพื้นที่ชุ่มน้ำ เป็นส่วนหนึ่งของที่อยู่อาศัยของ Anishinaabeg ซึ่งเป็นชนเผ่าพื้นเมือง พื้นที่ครอบคลุมดินแดนแบบดั้งเดิมของชุมชน Anishinaabeg 4 แห่ง (แม่น้ำ Bloodvein, Little Grand Rapids, Pauingassi และ Poplar River)
15. Sansa, Buddhist Mountain Monasteries in Korea
เป็นอารามบนภูเขาที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของคาบสมุทรเกาหลี แบ่งเป็นพื้นที่ของวัด 7 แห่ง ที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 7-9 โดยมีลักษณะพิเศษคือ มีลานด้านข้างที่ล้อมรอบไปด้วยอาคารสี่หลัง ซึ่งแต่ละแห่งมีสนามหญ้า ห้องโถง ศาลา และอุโบสถที่งดงาม โดยอารามเหล่านี้เป็นศูนย์กลางความเชื่อ การดำรงชีวิต และวิถีปฏิบัติทางพระพุทธศาสนาในชีวิตประจำวันมาจนถึงทุกวันนี้
16. Sassanid Archaeological Landscape of Fars Region
แหล่งโบราณคดีในจังหวัดฟาร์ส ผสมผสานระหว่างพระราชวัง ป้อมปราการ และเมือง ในยุคจักรวรรดิแซสซานิด ช่วงศตวรรษที่ 3-5 สะท้อนให้เห็นถึงการประยุกต์ใช้ภูมิประเทศให้เป็นประโยชน์ต่อการก่อสร้างเมือง และยังแสดงให้เห็นถึงอิทธิพลของจักรวรรดิอะคีเมนิด จักรวรรดิพาร์เทียน และศิลปะโรมัน ที่ส่งผลสำคัญต่อสถาปัตยกรรมและรูปแบบศิลปะ
17. Tehuacán-Cuicatlán Valley: originary habitat of Mesoamerica
เป็นเขตแห้งแล้งหรือกึ่งแห้งแล้ง ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพที่สุดในทวีปอเมริกาเหนือ ประกอบด้วยสามส่วนคือ Zapotitlán-Cuicatlán, San Juan Raya และ Purrón ซึ่งเป็นศูนย์กลางหลักในการกระจายความหลากหลายของไม้ตระกูลตะบองเพชร
18. Thimlich Ohinga Archaeological Site
กำแพงหินเรียงที่แหล่งโบราณคดีธิมลิค โอฮิงกา อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองมิโกรี เป็นกำแพงหินเรียงที่ใหญ่และยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ เป็นการนำหินมาเรียงต่อกันโดยไม่ใช้ปูนเชื่อม คาดว่าสร้างตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 เพื่อใช้ต้อนสัตว์ โดยยูเนสโกยกให้เป็นตัวอย่างของชุมชนปศุสัตว์ยุคแรกๆ ในพื้นที่ลุ่มทะเลสาบวิกตอเรีย
19. Victorian Gothic and Art Deco Ensembles of Mumbai
เมืองมุมไบได้กลายเป็นศูนย์กลางการค้าระดับโลก มีการพัฒนาภายใต้โครงการผังเมืองในช่วงศตวรรษที่ 19 นำไปสู่การสร้างสิ่งก่อสร้างที่สวยงามเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยและประกอบการค้า โดยมีสถาปัตยกรรมแบบนีโอ-โกธิค และแบบอาร์ตเดโค ซึ่งเป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นเมืองในยุคใหม่ของมุมไบ ในช่วงศตวรรษที่ 19-20
นอกจากนี้ยังมีการประกาศปรับเปลี่ยนอาณาเขตเพิ่มเติมในมรดกโลกที่เคยประกาศไปก่อนหน้านี้แล้วอีก 1แห่ง คือBikin River Valley (Russian Federation) ขยายพื้นที่เพิ่มเติมในส่วนกลางของ Sikhote-Alin โดย Bikin River Valley ได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลกเมื่อปี 2001