Sunday, June 11, 2023
More
    spot_imgspot_imgspot_imgspot_img

    ผู้ใหญ่ในหลายประเทศทั่วโลก ยังคงไม่ใช้สมาร์ทโฟนในชีวิตประจำวัน

    หลังจากที่โทรศัพท์มือถือเครื่องแรกของโลกใช้งานได้ เมื่อ 50 กว่าปีก่อน ปัจจุบันผู้คนจำนวนมากกว่า 5 พันล้านคนทั่วโลก มีการเชื่อมต่อกับบริการโทรศัพท์มือถือ และมากกว่าครึ่งเป็นสมาร์ทโฟนในขณะที่การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่องในทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศที่พัฒนาแล้วจะมีสัดส่วนผู้ใช้สมาร์ทโฟนสูงสุด

    ซึ่ง weforum.org เปิดเผยว่า เกาหลีใต้เป็นผู้นำระดับโลกด้านการซื้อสมาร์ทโฟน และเป็นประเทศเดียวที่ประชากร 100% มีโทรศัพท์มือถือ โดยผู้ใหญ่ในเกาลีใต้ 95% เป็นเจ้าของสมาร์ทโฟน และ 5% ยังคงครอบครองโทรศัพท์มือถือทั่วไป ในทางตรงกันข้ามอัตราการเป็นเจ้าของสมาร์ทโฟนในอินเดีย ปี 2561 นั้นยังมีน้อย โดย 75% ของผู้ใหญ่ในอินเดียไม่มีสมาร์ทโฟน ซึ่งในจำนวนนี้แบ่งเป็น คนอินเดียใช้โทรศัพท์มือถือรุ่นพื้นฐาน 40% และไม่มีอุปกรณ์ใดๆเลย 35%



    ขณะเดียวกัน Statista เปิดเผยรายงานของ Pew Research ว่าจากการวิเคราะห์อัตราการเป็นเจ้าของสมาร์ทโฟนในหลายประเทศในปี 2561 พบว่ามีความแตกต่างกันอย่างมากแม้ในประเทศที่มีเศรษฐกิจก้าวหน้า ซึ่งในสหรัฐอเมริกายากที่จะหาคนที่ไม่มีโทรศัพท์มือถือ โดยพบว่า 13% ของผู้ตอบแบบสอบถามในสหรัฐอเมริกา เป็นเจ้าของโทรศัพท์มือถือขั้นพื้นฐาน ในขณะที่ 6% ไม่ได้เป็นเจ้าของโทรศัพท์มือถือเลย

    สมาร์ทโฟนเป็นความฝันอันไกลโพ้น และราคาแพงสำหรับผู้คนในประเทศกำลังพัฒนาส่วนใหญ่ และมีอัตราการเป็นเจ้าของที่แตกต่างกัน อย่าง ผู้ใหญ่ชาวไนจีเรีย 44% เป็นเจ้าของโทรศัพท์มือถือขั้นพื้นฐาน ในขณะที่ 17% ไม่มีอุปกรณ์ใดๆ แม้ว่าจะมีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและเศรษฐกิจก็ตาม

    ในขณะที่สมาร์ทโฟนยังเป็นเรื่องที่ไกลเกินเอื้อมของชุมชนที่ยากจนที่สุด แต่มาตรฐานการครองชีพที่สูงขึ้นกำลังสร้างตลาดมือถือใหม่ขนาดใหญ่ในประเทศกำลังพัฒนา ส่งผลให้ขณะนี้ในจีน และอินเดียมีตลาดสมาร์ทโฟนที่ใหญ่กว่าสหรัฐฯ รวมถึงในอินโดนีเซีย และบราซิล ตลาดสมาร์ทโฟนของทั้ง 2 ประเทศก็เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นกัน

    แต่การเติบโตเหล่านี้มีการกระจายตัวอย่างไม่เท่าเทียม จากการวิจัยของ Pew แสดงให้เห็นว่า ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 35 ปี รวมถึงผู้ที่มีการศึกษาและรายได้สูงกว่า ทั้งในประเทศที่พัฒนาแล้ว และประเทศกำลังพัฒนา มีแนวโน้มที่จะเป็นเจ้าของสมาร์ทโฟนมากกว่าประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ที่มีการจำกัดการเข้าถึงการศึกษา