หากใครที่ชอบการทานขนมปัง แต่ชิงชังความอ้วน ขอแนะนำให้รู้จักกับ “Dancing With A Baker” แบรนด์ขนมปังสูตรไร้แป้งและน้ำตาลเจ้าเด็ด ที่ไม่เพียงเป็นมิตรต่อน้ำหนักตัวเท่านั้น แต่ขนมปังของเขายังให้ความสำคัญกับเรื่อง ‘รสชาติ’ ควบคู่กันไป BLT จึงไม่รีรอที่จะเปิดหน้าสื่อ ชวนคุยกับ ตรัย สัสตวัฒนา และพีรดา ศุภรพันธ์ คู่รักผู้สร้างแบรนด์ เพื่อจับประเด็นถึงที่มาที่ไป และความพิเศษของขนมปังสูตรนี้
จุดพลิกผันก่อนมาจับธุรกิจขนมปัง
“เราทั้งคู่เปิดบริษัทเป็นที่ปรึกษาด้านกฎหมาย และที่ปรึกษาด้านการทำธุรกิจมาร่วม 8 ปีค่ะ ก่อนที่จะหันมาจับธุรกิจขนมปัง” พีรดาผู้ก่อตั้ง Dancing With A Baker ตอบคำถามสั้นๆ ถึงปูมหลังก่อนทำธุรกิจขนมปัง ซึ่งเธอได้ขยายความให้ฟังอีกว่า จุดเปลี่ยนที่ทำให้ตัวเองและคนรักก้าวเข้ามาสู่ธุรกิจนี้ คือการที่ตรัยแฟนหนุ่ม มีน้ำหนักตัวแตะ 130 กก. เพราะสาเหตุมาจากที่ทั้งคู่ เป็นคนชอบทาน และมักสรรหาของกินอร่อยๆ อยู่เสมอ ที่สำคัญ ตรัยเป็นผู้ที่ชื่นชอบการทานขนมปัง และเติบโตมาจากครอบครัวที่ทำร้านเบเกอรี่ จึงทำให้เขาได้ซึมซับและเรียนรู้ เทคนิคการทำอาหารจากคุณแม่มาตั้งแต่เด็กๆ แถมสามารถแยกส่วนประกอบของอาหารต่างๆ ได้ว่าทำมาจากวัตถุดิบอะไร หรือหากต้องการให้อาหารมีรสชาติดีและอร่อยขึ้นควรเพิ่มเสริมอะไร
ค้นคว้าสูตรขนมปังที่เป็นมิตรต่อน้ำหนักตัว
“หลังจากนำหนักตัวเพิ่มขึ้น เขาก็รู้สึกเครียดมากเพราะค่อนข้างมีผลต่อการใช้ชีวิต แต่ด้วยความที่ตรัยอยากมีชีวิตอยู่เพื่อเราไปนานๆ เขาจึงฮึดสู้ พยายามหาทางในการลดน้ำหนักสารพัดวิธีค่ะ” พีรดาพูดด้วยน้ำเสียงตื้นตัน ก่อนที่ตรัยจะเล่าให้ฟังถึงการค้นพบวิธีลดน้ำหนักที่ได้ผล
“การออกกำลังกาย และลดอาหาร เป็นวิธีที่ใช้ไม่ได้กับผมเลย คือลดได้ 3 ขีด หลังจากนั้นก็เพิ่มมา 3 กก.
จนวันหนึ่งผมพาแฟนไปทานอาหารร้านหนึ่งในวันครบรอบแต่งงาน และผมเอ่ยชมขึ้นมาว่า เธอ… ขนมปังที่นี่อร่อยมากเลยนะ แต่ถ้ากินทุกวันคงทำให้อ้วนแน่ๆ และแฟนผมก็พูดขึ้นมาว่า ถ้ามีขนมปังที่กินแล้วไม่อ้วนก็ดีสินะ วลีนี้ล่ะที่จุดประกายให้ผมพบหนทางลดน้ำหนักของตัวเอง ”
ด้วยพื้นฐานของนักกฎหมาย ที่ชอบการอ่าน ชอบสืบค้นและวิเคราะห์ข้อมูล จึงทำให้ตรัยเริ่มค้นคว้าหาสูตรขนมปังอย่างจริงจัง เรียกว่าชำแหละละเอียดถึงขั้นไล่อ่านงานวิจัยโครงสร้างขนมปังต่างๆ จนจบกว่า 400 เล่ม กระทั่งค้นพบวิธีลดน้ำหนักแบบ Low Carp, High Fat คือการเลือกทานอาหารในกลุ่มคาร์โบไฮเดรตให้น้อยลง และทานอาหารประเภทโปรตีนสูงขึ้น เขาจึงค่อยๆ แกะสูตรหาวิธีการทำขนมปังที่ลดคาร์โบไฮเดรตลงให้เหลือแต่โปรตีนขึ้นมา ก่อนพับตำราและเริ่มลงมือปฏิบัติจริง
ทว่ากลับทำให้ความมั่นใจที่มีอยู่นั้นหายไปในทันที เพราะทฤษฎีกับการลงสนามจริงต่างกัน จึงทำให้เขาต้องฝึกปรือฝีมือปาไปปีกว่าๆ ถึงจะได้สูตรขนมปังลดความอ้วนที่มาพร้อมรสชาติที่แสนอร่อย
“เนื่องจากตั้งใจทำขนมปังไว้ทานเอง และสามารถกินได้ทุกวัน ฉะนั้นขนมปังจึงต้องมีรสชาติที่อร่อยถูกปาก ผมจึงต้องใช้เวลาในค้นหาสูตร ทดลอง และลงมือทำจริงเป็นแรมปี เรียกว่าทิ้งขนมไปหลายร้อยกิโลกรัมเลยล่ะครับ
และจากที่กินขนมปังสูตรของตัวเองทุกวัน น้ำหนักจาก 130 กก. ภายใน 3 เดือนก็เริ่มลดลงไปอยู่ที่ 95 กก. ดีใจมากครับ เพราะเป็นการลดน้ำหนักที่ประสบความสำเร็จที่สุดสำหรับผม แถมลดได้เร็ว และไม่เกิดการโยโย่ เอ็ฟเฟ็คอีกด้วย” ตรัยพูดถึงความสำเร็จในการคิดค้นสูตร ก่อนเปิดเผยเรื่องที่ทำให้เขาตัดสินใจสร้างแบรนด์
จากสูตรขนมปังทานเอง สู่การเปิดแบรนด์ Dancing With A Baker
“ตอนแรกผมไม่ได้ตั้งใจจะทำขายเลยนะ เดิมคือทำกินเองและแจกเพื่อนๆ ซึ่งผมก็บอกแฟนว่า อยากจะช่วยคนที่ตกอยู่ในสถานการณ์แบบตัวเองด้วย และแฟนผมก็หันหน้าขวับมาหา อารมณ์ประมาณว่าเธอเป็นซูเปอร์ฮีโร่เหรอ (หัวเราะ) ก่อนจะแนะนำให้ทำขาย ตามประสาของภรรยาที่ดี ที่คอยช่วยสนับสนุนเรา”
สำหรับขนมปังของ Dancing With A Baker มีให้เลือกถึง 5 แบบ 1 ชิ้น มีประมาณ 378 กิโลแคลอรี่ สามารถแบ่งกินได้ 2-3 ส่วน/วัน ซึ่งมีสารอาหารที่ครบถ้วนและให้ความอิ่มท้อง ปราศจากแป้งและน้ำตาล โดยส่วนผสมหลักๆ ประกอบด้วย ผงอัลมอนด์ ผงมะพร้าว ผงเมล็ดแฟลกซ์ซีด โอ๊ตไฟเบอร์ และโปรตีนสกัดจากแป้งสาลี แถมยังพิถีพิถันเลือกไข่สดที่รับมาโดยตรงจากฟาร์ม (อายุ 2- 3 วัน) และเนยจากนมวัวชั้นดีมาเป็นส่วนผสม ที่สำคัญขนมปังยังใช้อิริทริทอล (Erythritol) สารให้ความหวานแทนการใช้น้ำตาล ซึ่งผู้ป่วยโรคเบาหวานสามารถทานขนมปังได้โดยไม่มีผลต่อร่างกาย รวมถึงขนมปังมีอายุนาน 6-7 วัน หากแช่ไว้ในตู้เย็นสามารถยืดอายุได้ถึง 15 วัน หรือใส่ช่องแช่แข็งก็เก็บได้นานขึ้นราว 2 เดือน
จุดเด่นของ Dancing With A Baker ที่แตกต่างกับขนมปังทั่วไป
“ขนมปังของเราเนี่ย เป็นทางเลือกสำหรับคนที่ต้องการควบคุมแป้งและน้ำตาล นอกจากกลุ่มลูกค้า
ที่ต้องการลดความอ้วนแล้ว คนเล่นกล้าม และผู้ป่วยโรคเบาหวานก็สามารถทานได้ และทุกวันนี้กลุ่มคนดังกล่าวก็เป็นลูกค้าขาประจำของ Dancing With A Baker ครับ ฉะนั้นจุดเด่นของเราก็คือการทำขนมปังเพื่อตอบโจทย์กลุ่มคนที่มีปัญหาเรื่องน้ำหนักและเรื่องสุขภาพด้วย รวมถึงผมจะเน้นเรื่องคุณภาพควบคู่กับรสชาติ เพราะเราทำกินเองด้วย ดังนั้นต้องอร่อยและดี ทุกวันนี้จึงคิดเสมอว่าผมทำขนมปังให้ญาติ หรือคนที่เรารักทาน” ตรัยชูถึงจุดเด่นของขนมปังที่เขาตั้งใจทำขึ้น ก่อนพีรดาจะเสริมต่อ
“ขนมปังของเรา จะมีเท็กเจอร์ที่คล้ายกับขนมปังโฮลวีทด้วยค่ะ มีความหนุบหนับ เคี้ยวเพลิน แถมลูกค้าบางรายยังนำไปใช้ เป็นวัตถุดิบในการประกอบอาหารทั้งของคาวและหวาน หลากหลายเมนู
อาทิ แซนด์วิช วาฟเฟิล แพนเค้ก พิซซ่า ที่แปลกตาสุดคือเขานำไปตัดและบดทำเป็นข้าวผัด! ที่ทราบเพราะมีลูกค้าจำนวนมากส่งรูปขนมปังที่เขาทำเป็นอาหารมาอวดทางร้านเราค่ะ”
สำหรับ Dancing With A Baker ได้ดำเนินธุรกิจมาปีกว่า มีช่องทางการจำหน่ายอยู่ 2 ช่องทาง คือทางออนไลน์ สั่งตรงจากทางร้าน และออฟไลน์ส่งตามร้านค้าร้านอาหารสุขภาพต่างๆ จำนวน 115 ร้านทั่วประเทศ รวมถึงร้าน Lemon Farm ทุกสาขา และในอนาคตอันใกล้นี้ทั้งคู่กำลังมีแผนเปิดโชว์รูม แต่ไม่มีขนมปังขายในนั้นนะ?
“ตอนนี้เรากำลังหาที่เปิดโชว์รูมเล็กๆ เพื่อแจกขนมปังให้ลูกค้าชิมฟรีๆ ! อารมณ์ประมาณถ้าถูกใจก็สั่งซื้อได้ผ่านทางออนไลน์ ซึ่งเป็นอีกประสบการณ์รูปแบบหนึ่งที่เราอยากมอบให้แก่ลูกค้า และผมเชื่อว่าเป็นวิธีที่เข้ากันดีกับยุคนี้ครับ
ตรัยทิ้งท้ายถึงโปรเจคท์ที่กำลังจะผุดขึ้น หากใครสนใจขนมปังแบรนด์ Dancing With A Baker สามารถติดต่อหรือดูข้อมูลเพิ่มได้ที่ FB : Dancing With A Baker ขนมปังไม่มีแป้งไม่มีน้ำตาล หรือ โทร. 064 961 7895
