ในยุคนี้ที่ใครๆ ก็รักสุขภาพกันมากขึ้น การว่ายน้ำเป็นทางเลือกในการดูแลสุขภาพที่ดีและเหมาะกับผู้คนทุกเพศทุกวัย แต่การจะเลือกสระว่ายน้ำที่มีคุณภาพและมาตรฐานที่ดีก็เป็นสิ่งหนึ่งควรให้ความสำคัญ ซึ่งบริษัท เจ.ดี.พูลส์ จำกัด เจ้าของแฟรนไชส์ เจ.ดี.พูลส์ (J.D.Pools) การันตีด้วยรางวัลแฟรนไชส์ไทยนวัตกรรมยอดเยี่ยม พร้อมจะเปิดบ้านให้ชมสระว่ายน้ำเพื่อสุขภาพ เพื่อให้ผู้ที่สนใจได้สัมผัสประสบการณ์ทดลองว่ายน้ำในสระจริง พร้อมชมสระโฉมใหม่และนวัตกรรมที่ล้ำสมัย ที่ เจ.ดี.พูลส์พัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่องยากเลียนแบบ
จุดเริ่มต้นนวัตกรรมสระว่ายน้ำเพื่อสุขภาพของแบรนด์ เจ.ดี.พูลส์
นายธนูศักดิ์ พึ่งเดช กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจ.ดี.พูลส์ จำกัด เปิดเผยว่า นวัตกรรมของ เจ.ดี.พูลส์ เริ่มต้นจาก iPanel Liner Pool หรือสระคอนกรีตผนังสำเร็จอัจฉริยะที่ออกแบบได้ทุกรูปทรงตามจินตนาการ ไม่จำกัดขนาด มีระบบปิดผิวหลายชั้นเพื่อความแข็งแรง ทนทาน ป้องกันการรั่วซึมและมีลวดลายสวยงามใกล้เคียงธรรมชาติ เหมาะสำหรับผู้ต้องการสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งผนังอัจฉริยะนี้มีการจดสิทธิบัตรป้องกันการลอกเลียนแบบ
ต่อมาได้พัฒนาเป็น Composite Pool หรือสระไฟเบอร์กลาส ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่นำเข้ามาจากออสเตรเลีย แล้วปรับให้เป็นนวัตกรรมที่เหมาะกับคนไทย ใช้แม่พิมพ์ออกแบบรูปสระว่ายน้ำแล้วทำออกมาสำเร็จรูป เป็นการตอบโจทย์ผู้ประกอบการด้านอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องการทำพูลวิลล่าในราคาประหยัด สามารถวางลอยหรือฝังดินก็ได้ หรือการออกรุ่น Cadio Pool เป็นสระว่ายน้ำเพื่อสุขภาพขนาดกว้าง 2.2 เมตร ยาว 3-11 เมตรที่ตอบโจทย์ตลาดที่อยู่อาศัยของครอบครัวระดับกลาง
เลือกใช้แร่ธาตุบริสุทธิ์จากทะเลสาบไร้สารเคมี เติมโอโซนธรรมชาติ เพื่อเติมเต็มความสุขและความผ่อนคลาย
นอกจากนวัตกรรมของตัวสระว่ายน้ำแล้ว ยังมีนวัตกรรมระบบกรองน้ำซึ่งเดิมเป็นเรื่องยุ่งยากและซับซ้อน แต่ เจ.ดี.พูลส์ ทำให้เป็นเรื่องที่ง่าย สะดวกสบายและประหยัดกว่าด้วยระบบฟอกน้ำแบบ Compact Filter นอกจากนี้ยังมีการดูแลคุณภาพน้ำจากเดิมที่ใช้คลอรีนฆ่าเชื้อโรคซึ่งบางคนไม่ชอบกลิ่น หรืออาจรู้สึกแพ้แสบจมูกแสบตามาใช้ระบบเกลือเพื่อสุขภาพ สามารถรักษาสภาพน้ำโดยไม่ใช้สารเคมี จนถึงปัจจุบันพัฒนาระบบ Mineral Swim การใช้แร่ธาตุบริสุทธิ์จากทะเลสาบเดดซี อิสราเอลกับการเติมโอโซนธรรมชาติ ซึ่งนอกจากจะฆ่าเชื้อโรคในน้ำแล้วยังช่วยให้ผิวพรรณดีขึ้น มีความรู้สึกผ่อนคลาย เมื่อว่ายน้ำแล้วมีความสุขมากขึ้น
แม้ต้องเจอสถานการณ์โควิด-19 แต่ยอดขายในตลาดที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น
ด้านการตลาดในปัจจุบันได้เน้นด้านออนไลน์เป็นหลัก ซึ่งทำมาต่อเนื่องมา 5 ปีแล้ว และในปีนี้แม้จะมีสถานการณ์โควิด-19 ที่กระทบต่อตลาดโครงการ แต่กลับเพิ่มยอดขายด้านตลาดที่อยู่อาศัยที่มีลูกค้าติดต่อเข้ามาทางออนไลน์เดือนละกว่า 100 ราย ซึ่งประกอบไปด้วยหลายปัจจัย เช่น ผู้คนมีการอยู่บ้านหรือทำงานจากบ้านมากขึ้น การใส่ใจด้านสุขภาพที่มากขึ้นและการที่ไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ในปี 2564
คว้ารางวัลแฟรนไชส์ไทยนวัตกรรมยอดเยี่ยมของไทย ปี 2020
โดยล่าสุด เจ.ดี.พูลส์ ผ่านเกณฑ์คัดเลือกกระทรวงพาณิชย์คว้ารางวัลแฟรนไชส์ไทยนวัตกรรมยอดเยี่ยม (Best Innovation Franchise) จากงาน “Thailand Franchise Award 2020” ซึ่งกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ได้ร่วมกับองค์กรต่างๆ จัดขึ้นเพื่อมอบโล่รางวัลให้กับธุรกิจแฟรนไชส์ที่มีการพัฒนาศักยภาพและมาตรฐาน ซึ่งการที่ เจ.ดี.พูลส์ ได้รับรางวัลในครั้งนี้เพราะสามารถผ่านเกณฑ์การประเมินด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การให้บริการและนำความรู้ด้านนวัตกรรมมาใช้ในการผลิต การบริการ การตลาด รวมถึงมีการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา
พร้อมเปิดบ้านให้ทดลองประสบการณ์การว่ายน้ำและสัมผัสกับนวัตกรรมในสระจริง
เพื่อเป็นการฉลองรางวัล Best Innovation Franchise จึงจัดกิจกรรม Open House เปิดบ้านชมสระ โดยมีแคมเปญให้ผู้สนใจได้สัมผัสประสบการณ์ทดลองว่ายน้ำในสระจริง พร้อมชมสระโฉมใหม่และนวัตกรรมที่ล้ำสมัยในทุกสาขาทั่วประเทศ รวมทั้งยังมีแคมเปญ “ว่ายก่อน ผ่อนที่หลัง” สระว่ายน้ำผ่อนได้ดอกเบี้ย 0% นาน 6 เดือนอีกด้วย
จากประสบการณ์ 24 ปีที่ไม่หยุดนิ่ง สู่ 28 สาขาทั้งในประเทศและต่างประเทศ
โดยปัจจุบัน เจ.ดี.พูลส์ มีสาขาในประเทศทั้งหมด 21 แห่ง และอีก 7 สาขาในต่างประเทศ ได้แก่ พม่า (3 สาขา), กัมพูชา, สปป.ลาว, อินเดีย และโมร็อกโค ทั้งยังมีบริษัท พูล โปรแอนด์แล็บ จำกัด เป็นศูนย์บริการดูแลคุณภาพน้ำและจำหน่ายผลิตภัณฑ์สระว่ายน้ำทั้งระบบใหม่และระบบเก่า มีแล็บตรวจเช็คคุณภาพน้ำด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ที่ต่อไปจะพัฒนาเป็นศูนย์บริการสระว่ายน้ำครบวงจรอยู่ในสาขาทั้ง 21 แห่งทั่วประเทศ
เราอยู่ในตลาดแฟรนไชส์มา 24 ปีแล้ว มียอดขายมากกว่า 16,000 สระทั่วประเทศ มีโอกาสได้นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีต่อผู้บริโภค ซึ่งสระว่ายน้ำของ เจ.ดี.พูลส์ มีการพัฒนาด้านนวัตกรรมแตกต่างจากสระดั้งเดิมทั่วไปที่ก่อผนังซีเมนต์ปูกระเบื้องใช้เวลาก่อสร้างนาน 2-3 เดือน และมักมีปัญหาตามมาภายหลังคือการรั่วซึม กระเบื้องหลุดร่อน บางครั้งเป็นอันตรายบาดเท้า ซ่อมยาก อายุการใช้งานไม่ยาวนาน มาเป็นสระคอนกรีตผนังสำเร็จที่แข็งแรงทนทานก่อสร้างในเวลาอันรวดเร็วเพียง 2 สัปดาห์ก็ว่ายน้ำได้ อีกทั้งยังลดต้นทุนได้มากกว่าเดิมถึง 20 – 30%
