Saturday, September 30, 2023
More

    เปิดทดลองใช้ฟรี รถไฟฟ้าสายสีเขียว 4 สถานีใหม่ คาดมีผู้ใช้บริการ 1.3 แสนเที่ยวคน/วัน

    รถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต เปิดให้บริการเพิ่มเติมอีก 4 สถานี จากสถานีกรมป่าไม้ ถึงสถานีวัดพระศรีมหาธาตุ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชน และบรรเทาปัญหาการจราจรติดขัดบริเวณถนนพหลโยธิน และถนนวิภาวดีรังสิต โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดให้บริการ และได้เปิดให้ประชาชนใช้บริการอย่างเป็นทางการตั้งแต่เวลา 13.30 น. วันที่ 5 มิ.ย. 63 เป็นต้นไป


    รถไฟฟ้าสายสีเขียว เปิดให้บริการเพิ่มอีก 4 สถานี สถานีกรมป่าไม้ – สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ

    พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงหมอชิต- สะพานใหม่- คูคต ได้เปิดให้ประชาชนทดลองใช้บริการเพิ่มเติม จำนวน 4 สถานี ได้แก่ สถานีกรมป่าไม้ สถานีบางบัว สถานีกรมทหารราบที่ 11 และสถานีวัดพระศรีมหาธาตุ ระยะทางรวม 4.2 กิโลเมตร โดยจะให้บริการฟรีไม่เก็บค่าโดยสาร สำหรับการกำหนดอัตราค่าโดยสาร อยู่ระหว่างการเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งเบื้องต้นกำหนดเพดานค่าโดยสารตลอดสายไม่เกิน 65 บาท

    รูปแบบการเปิดทดลองเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว 4 สถานีใหม่

    สำหรับรูปแบบการเดินรถ แบ่งระยะเวลาการให้บริการเป็น 2 ช่วงหลัก ดังนี้ ช่วงเวลาเร่งด่วนเช้า ตั้งแต่เวลา 07.00 – 09.00 น. และช่วงเวลาเร่งด่วนเย็น ตั้งแต่เวลา 16.30 – 20.00 น. ในวันจันทร์-ศุกร์ การให้บริการระหว่างสถานีหมอชิต ถึงสถานีสำโรง จะมีความถี่ระหว่างขบวน 2 นาที 25 วินาที ส่วนความถี่การให้บริการระหว่างสถานีหมอชิต ถึงสถานีวัดพระศรีมหาธาตุ รวมถึงความถี่การให้บริการระหว่างสถานีสำโรง ถึงสถานีเคหะฯ จะมีระยะห่างระหว่างขบวน 4 นาที 50 วินาที โดยจะมีขบวนรถวิ่งสลับกันให้บริการ

    ผู้โดยสารสามารถสังเกตจากป้ายด้านหน้า และด้านข้างขบวนรถ รวมทั้งรับฟังเสียงประกาศบนชั้นชานชาลา ในขบวนรถ และอ่านจอประกาศบนสถานี สำหรับช่วงนอกเวลาเร่งด่วน ในวันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 09.00–16.30 น. และเวลา 20.00–ปิดให้บริการ วันเสาร์และวันอาทิตย์ วันหยุดนักขัตฤกษ์ รถทุกขบวนจะวิ่งตั้งแต่สถานีเคหะฯ ถึงสถานีวัดพระศรีมหาธาตุ โดยจะมีความถี่ประมาณ 6 นาที 30 วินาที

    คาดรองรับผู้โดยสารได้ 1.5 ล้านเที่ยวคน/วัน เมื่อเปิดเดินรถถึงสถานีคูคต

    สำหรับคาดการณ์เมื่อเปิดเดินรถถึงสถานีคูคต ภายในปลายปี 2563 คาดว่าจะรองรับผู้โดยสารมาใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ตลอดเส้นทาง ตั้งแต่สถานีเคหะฯ ไปตามเส้นทางสายสุขุมวิท จนถึงสถานีคูคต มากกว่า 1,500,000 เที่ยวคนต่อวัน

    ช่วงปลายปี 2563 เมื่อเปิดครบถึงสถานีคูคต จะมีสถานีให้บริการทั้งสิ้น 59 สถานี

    ขณะที่ นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส เปิดเผยว่า ปัจจุบันรถไฟฟ้าบีทีเอส มีสถานีรถไฟฟ้าให้บริการทั้งสิ้น 48 สถานี รวมระยะทางทั้งหมด 54.12 กม. และเมื่อเปิดให้บริการเพิ่มอีก 4 สถานีนี้ จะมีสถานีให้บริการทั้งสิ้น 52 สถานี รวมระยะทางการให้บริการ 58.32 กม. และเมื่อเปิดครบถึง สถานีคูคต ในช่วงปลายปี 2563 นี้ จะมีสถานีให้บริการทั้งสิ้น 59 สถานี รวมระยะทาง 68.25 กม. มีการจัดรูปแบบการเดินรถให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารที่ใช้บริการ ควบคู่กับการเพิ่มขบวนรถใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง

    ซึ่งขณะนี้ ขบวนรถไฟฟ้าทั้ง 46 ขบวน จากบริษัทซีเมนส์ จำกัด และ บริษัท ซีอาร์ซี ฉางชุน เรลเวย์ เวฮิเคิล ได้ส่งมอบครบแล้ว ทำให้มีขบวนรถไฟฟ้าให้บริการผู้โดยสารทั้งหมด 98 ขบวน หรือ รวม 392 ตู้ ภายในปี 2563 เพื่อรองรับการเปิดให้บริการส่วนต่อขยาย ถึงสถานีคูคต ภายในสิ้นปีนี้

    คุมเข้มมาตรการป้องกัน COVID-19 อย่างต่อเนื่อง

    ส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BTSC) กำหนดมาตรการด้านความปลอดภัยเพื่อป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในระบบเดินรถไฟฟ้า โดยบริษัทฯ จะจัดเจ้าหน้าที่ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายผู้ประสงค์ใช้บริการซึ่งต้องไม่สูงเกินกว่า 37.5 องศาเซลเซียส และให้คำแนะนำในการยืนรอเข้าขบวนรถบนชั้นชานชาลา และในขบวนรถ ให้มีระยะห่างทางสังคม (Physical Distancing) อย่างปลอดภัย เพื่อเพิ่มความมั่นใจของผู้ใช้บริการ ทั้งในขบวนรถไฟ และบนสถานี
    นอกจากนี้จะประกาศแจ้งเตือนให้ผู้โดยสาร สวมหน้ากากอนามัยตลอดการเดินทางทุกครั้งก่อนเข้ามาในระบบ รวมถึงจัดเจลแอลกอฮอล์ล้างมือบริการ ทั้ง 2 ฝั่งของสถานีรถไฟฟ้า และจัดเจ้าหน้าที่บริการ แอลกอฮอล์ล้างมือเคลื่อนที่ให้กับผู้โดยสาร ในทุกสถานี เพื่ออำนวยความสะดวก และเพิ่มความมั่นใจแก่ผู้ใช้บริการมากยิ่งขึ้น
    Heading : BTS 4 สถานีใหม่ จะช่วยแก้ปัญหาการจราจรบนถนนพหลโยธินได้เป็นอย่างดี

    ด้านนายมานิต เตชอภิโชค กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด วิสาหกิจของกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า การเปิดเดินรถส่วนต่อขยายจากสถานีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ไปยังสถานีวัดพระศรีมหาธาตุ จะช่วยแก้ปัญหาการจราจร ในบนถนนพหลโยธินในช่วงดังกล่าวได้เป็นอย่างดี เนื่องจากในเส้นทางมีทั้งสถานศึกษา หน่วยงานราชการ บ้านเรือน และอาคารพักอาศัยหนาแน่นตลอดเส้นทาง

    อีกทั้งยังสามารถเดินทางเข้ามาใช้บริการรถไฟฟ้าได้อย่างสะดวก เนื่องจากได้ออกแบบทางเดินสกายวอล์กไปยังซอยย่านชุมชน หรือสถานที่ราชการต่าง ๆ โดยไม่ต้องเดินบนทางเท้าด้านล่าง เช่น สถานีกรมป่าไม้ จะมีทางเดินที่สามารถเชื่อมเข้ามาที่สถานีทั้งจากกรมป่าไม้ กรมวิทยาศาสตร์ทหารบก โรงเรียนสารวิทยา และไปรษณีย์จตุจักร, สถานีบางบัว มีทางเดินเชื่อมจากกรมทางหลวงชนบท สถานีกรมทหารราบที่ 11 มีทางเดินเชื่อมจากอู่รถเมล์บางเขน และ สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ สามารถเดินขึ้นมาเข้าระบบรถไฟฟ้าได้ทุกทิศทาง โดยมีสกายวอล์กรอบบริเวณสถานีรวมระยะทางกว่า 1.7 กม. สามารถเดินทางขึ้นได้ทั้งจาก กรมทหารขนส่ง โรงเรียนไทยนิยมสงเคราะห์ สน.บางเขน สำนักงานเขตบางเขน กรมควบคุมโรค สถานีดับเพลิงบางเขน วัดพระศรีมหาธาตุ และฌาปนสถานกองทัพอากาศ
    ในส่วนของสถานีที่เหลือ ต่อจากสถานีวัดพระศรีมหาธาตุไปยังสถานีปลายทางคูคต ก็ได้มีการทำทางเดินสกายวอล์ก เพื่ออำนวยความสะดวกให้ชุมชนและสถานที่สำคัญๆ ในเส้นทางใกล้รถไฟฟ้าเข้าสู่ระบบได้อย่างสะดวกด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะที่สถานีโรงพยาบาลภูมิพล จะมีทางเดินเชื่อมจากสถานีเข้าไปยังโรงพยาบาลภูมิพลได้อย่างสะดวกรวดเร็ว

    คาดหลังมาตรการคลายล็อคดาวน์ จะมีผู้โดยสารถึง 130,000 เที่ยวคน/วัน

    สำหรับการเปิดเดินรถจากสถานีห้าแยกลาดพร้าว (N9) ถึงสถานีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (N13) มีผู้โดยสารใช้บริการดังนี้ เดือน ม.ค. ผู้โดยสารเฉลี่ย 95,618 เที่ยวคน/วัน เดือน ก.พ. ผู้โดยสารเฉลี่ย 107,555 เที่ยวคน/วัน จากนั้นในเดือน มี.ค.ผู้โดยสารลดลงจากผลกระทบสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยเดือน มี.ค.ผู้โดยสารเฉลี่ย 64,580 เที่ยวคน/วัน เดือน เม.ย.ผู้โดยสารเฉลี่ย 19,999 เที่ยวคน/วัน และเดือน พ.ค. ผู้โดยสารเฉลี่ย 34,476 เที่ยวคนต่อวัน ทั้งนี้เมื่อเปิดเดินรถถึงสถานีวัดพระศรีมหาธาตุและรัฐบาลเริ่มมาตรการคลายล็อคต่าง ๆ คาดว่าจะทำให้มีผู้โดยสารถึง 130,000 เที่ยวคน/วัน