Wednesday, May 24, 2023
More

    เตรียมจ่ายเพิ่ม! กทม. เก็บค่าบำบัดน้ำเสีย 21 เขตทั่วกรุง คาดเริ่ม ต.ค. 62 นี้

    กทม. เตรียมเก็บค่าบำบัดน้ำเสีย จากแหล่งกำเนิดน้ำเสีย อาทิ บ้าน คอนโดฯ หอพัก หน่วยงานรัฐ โรงเรียน โรงพยาบาล โรงงาน และโรงแรม ครอบคลุม 21 เขตทั่วกรุงเทพฯ คาดเริ่มเก็บได้ในเดือน ต.ค. 62 นี้

    สภากรุงเทพมหานคร มีมติเห็นชอบร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง การจัดเก็บค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสีย เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2562 ที่ผ่านมา โดยเป็นการแก้ไขเพิ่มเติม เนื่องจากข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง การจัดเก็บค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสีย พ.ศ.2547 ใช้บังคับมาเป็นเวลากว่า 14 ปีแล้ว และข้อเท็จจริงได้ความว่าไม่มีการนำไปใช้ตามหลักการและวัตถุประสงค์ของข้อบัญญัติดังกล่าว สมควรปรับปรุงแก้ไขใหม่ทั้งฉบับ เพื่อให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน


    โดยอัตราค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสียตามข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง การจัดเก็บค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสีย พ.ศ.2547 เป็นอัตราที่คิดตามปริมาณน้ำประปา หรือน้ำบาดาล หรือน้ำจากแหล่งอื่นที่ใช้ในแหล่งกำเนิดน้ำเสีย ร้อยละ 100 เพื่อให้เกิดความเหมาะสมในการจัดเก็บค่าธรรมเนียม สมควรกำหนดค่าธรรมเนียมร้อยละ 80 ของปริมาณน้ำที่ใช้ในแหล่งกำเนิดน้ำเสียนั้นๆ และแบ่งประเภทแหล่งกำเนิดน้ำเสียที่เจ้าของหรือผู้ครอบครองมีหน้าที่ต้องชำระค่าธรรมเนียมให้ชัดเจน


    สำหรับการจัดเก็บอัตราค่าธรรมเนียมการบำบัดน้ำเสียแบ่งตามประเภทแหล่งกำเนิดน้ำเสียเป็น 3 ประเภท ได้แก่
    ประเภทที่ 1 คือ บ้านเรือนที่พักอาศัย รวมถึงอาคาร ซึ่งโดยปกติบุคคลใช้อยู่อาศัยได้ทั้งกลางวัน และกลางคืน ไม่ว่าจะเป็นการอยู่อาศัยอย่างถาวรและชั่วคราว อาคารประเภทอาคารชุด คอนโดมิเนียม อพาร์ทเมนต์ หอพัก รวมทั้งอาคารที่อยู่อาศัยรวม อัตราค่าธรรมเนียม 2 บาท/ลูกบาศก์เมตร
    ประเภทที่ 2 คือ หน่วยงานของรัฐ หรืออาคารที่ทำการของเอกชน หรือองค์กรระหว่างประเทศ มูลนิธิ ศาสนสถาน สถานสาธารณกุศล โรงพยาบาลหรือสถานพยาบาล โรงเรียนหรือสถานศึกษา สถานประกอบการที่มีการใช้น้ำเฉลี่ยย้อนหลัง 1 ปีก่อนการจัดเก็บค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสีย ไม่เกิน 2,000 ลูกบาศก์เมตร/เดือน หากกรณีที่ประกอบการไม่ถึง 1 ปี ให้ใช้ค่าเฉลี่ยตามระยะเวลาที่ประกอบการ อัตราค่าธรรมเนียม 4 บาท/ลูกบาศก์เมตร
    ประเภทที่ 3 คือ โรงแรม โรงงานตามกฎหมายว่าด้วยโรงงาน และสถานประกอบการที่มีการใช้น้ำเฉลี่ยย้อนหลัง 1 ปีก่อนการจัดเก็บค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสีย ไม่เกิน 2,000 ลูกบาศก์เมตร/เดือน หากกรณีที่ประกอบการไม่ถึง 1 ปี ให้ใช้ค่าเฉลี่ยตามระยะเวลาที่ประกอบการ อัตราค่าธรรมเนียม 8 บาท/ลูกบาศก์เมตร

    โดยพื้นที่ที่จะจัดเก็บ ครอบคลุมพื้นที่ 21 เขต ได้แก่ เขตพระนคร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย เขตสัมพันธวงศ์ เขตบางรัก เขตสาทร เขตบางคอแหลม เขตยานนาวา เขตดินแดง เขตราชเทวี เขตพญาไท เขตปทุมวัน เขตบางซื่อ เขตจตุจักร เขตห้วยขวาง เขตหนองแขม เขตบางแค เขตภาษีเจริญ เขตดุสิต เขตทุ่งครุ เขตจอมทอง และเขตราษฎร์บูรณะ ซึ่งอยู่ในพื้นที่บริการบำบัดน้ำเสียของโรงควบคุมคุณภาพน้ำ 8 แห่ง คือโรงควบคุมคุณภาพน้ำสี่พระยา, รัตนโกสินทร์, ดินแดง, ช่องนนทรี, จตุจักร, หนองแขม, ทุ่งครุ และบางซื่อ

    อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ กทม. จะเสนอเรื่องไปยังกระทรวงมหาดไทยเพื่อขอความเห็นชอบ และ เสนอผู้ว่าฯ กทม.ลงนามต่อไป โดยให้ผู้ว่าฯ กทม.ออกระเบียบกรุงเทพมหานคร และประกาศกรุงเทพมหานครให้แล้วเสร็จภายใน 240 วัน นับแต่วันที่ข้อบัญญัติกรุงเทพมหานครนี้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา

    ทั้งนี้ คาดว่า กทม. จะเริ่มจัดเก็บค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสียได้ภายในเดือน ตุลาคม 2562 หรือภายในปีงบประมาณ 2563 สำหรับการจัดเก็บในเบื้องต้นคาดว่าจะดำเนินการจ้างบุคคลภายนอกเข้ามาเก็บ ซึ่งผู้บริหารจะพิจารณาอีกครั้ง โดยในส่วนของบ้านเรือนทั่วไปจะคิดคำนวณตามปริมาณน้ำที่ใช้แต่ละบ้าน ซึ่งคาดว่าจะเสียค่าบำบัดน้ำเสียประมาณ 50 บาท/เดือน และในแต่ละปี กทม.จะสามารถจัดเก็บรายได้จากค่าบำบัดน้ำเสียได้ประมาณ 500 ล้านบาท

    ขณะที่ นายณรงค์ เรืองศรี ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ กทม. เปิดเผยว่า กทม. ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาน้ำเสียโดยการเดินระบบบำบัดน้ำเสียรวมขนาดใหญ่ จำนวน 8 แห่ง บำบัดน้ำเสียได้ประมาณ 800,000 ลูกบาศก์เมตร/วัน และมีค่าใช้จ่ายในการเดินระบบและบำรุงรักษาระบบ เฉลี่ยปีละประมาณ 700 ล้านบาท จึงมีความจำเป็นที่จะต้องจัดเก็บค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสีย

    โดยจะนำร่องจัดเก็บในแหล่งกำเนิดน้ำเสีย ประเภทอาคารสำนักงาน และสถานประกอบการก่อน ซึ่งที่ผ่านมา สำนักการระบายน้ำได้ดำเนินการสร้างความรู้ ความเข้าใจ และสร้างการยอมรับเกี่ยวกับการจัดเก็บค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสียผ่านโครงการต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2551 จนถึงปัจจุบัน

    นอกจากนี้ สำนักการระบายน้ำ ยังมีแนวทางการจัดเก็บค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสีย รวมทั้งการเตรียมความพร้อมการจัดเก็บค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสีย ของกทม. ประกอบด้วย
    1. จัดทำร่างแก้ไขข้อบัญญัติและจัดทำร่างระเบียบและประกาศที่เกี่ยวข้อง
    2. จัดทำฐานข้อมูล และระบบเชื่อมโยงข้อมูล
    3. จัดพิมพ์ และส่งใบแจ้งหนี้
    4. จัดทำระบบงาน ระบบบริหารเพื่อการจัดเก็บค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสีย
    5. ดำเนินการจัดเก็บค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสีย

    ทั้งนี้ หากเกิดกรณีที่เจ้าของหรือผู้ครอบครองแหล่งกำเนิดน้ำเสีย ไม่ชำระค่าธรรมเนียมพนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจสั่งระงับการให้บริการบำบัดน้ำเสียชั่วคราว จนกว่าเจ้าของหรือผู้ครอบครองแหล่งกำเนิดน้ำเสียจะชำระค่าธรรมเนียม