กรมควบคุมมลพิษ เผยผลการเรียกรถตรวจสอบควันดำ ในกรุงเทพฯ ประจำเดือน ต.ค. 62 พบรถขนาดใหญ่มีควันดำเกินค่ามาตรฐาน 33% รถยนต์ส่วนบุคคล 23% และรถโดยสาร ขสมก. อีก 3 คัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ออกคำสั่งห้ามใช้ชั่วคราว และให้นำไปปรับปรุงก่อนนำมาวิ่งบนถนน พร้อมตั้งเป้าตรวจรถสองแถวที่วิ่งตามซอยต่างๆ เพื่มเติม รวมถึงขยายพื้นที่การตรวจรถโดยสารควันดำในเขตปริมณฑลด้วย
นายประลอง ดำรงค์ไทย อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้การแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองเป็นวาระแห่งชาติ และตามที่ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้เร่งรัดให้ คพ. ตรวจสอบ ตรวจจับ และห้ามใช้รถควันดำตามมาตรการภายใต้แผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติเพื่อลดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM2.5
จากการปฏิบัติงานในเดือนตุลาคม 2562 คพ. ได้บูรณาการร่วมกับกองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) ตรวจสอบ ตรวจจับ และห้ามใช้รถควันดำริมเส้นทางจราจในพื้นที่กรุงเทพมหานคร สรุปผลการปฏิบัติมีการเรียกรถตรวจสอบควันดำ รวม 591 คัน เป็นรถขนาดใหญ่ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 จำนวน 447 คัน มีควันดำเกินค่ามาตรฐาน จำนวน 149 คัน คิดเป็นร้อยละ 33 ขณะที่รถยนต์ส่วนบุคคลที่อยู่ภายใต้ พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 เรียกตรวจ 144 คัน มีรถควันดำเกินค่ามาตรฐานจำนวน 33 คัน คิดเป็นร้อยละ 23
โดยรถที่มีการปล่อยควันดำเกินค่ามาตรฐาน เจ้าพนักงานจราจรได้ดำเนินการเปรียบเทียบปรับไปแล้ว 182 คัน ส่วนรถยนต์ส่วนบุคคลที่ปล่อยควันดำเกินค่ามาตรฐาน 33 คัน พนักงานเจ้าหน้าที่ได้ออกคำสั่งห้ามใช้ชั่วคราว และติดเครื่องหมาย “ห้ามใช้ชั่วคราว” ไว้ที่ตัวรถ ซึ่งเจ้าของ หรือผู้ขับขี่จะต้องนำรถไปปรับปรุงแก้ไข แล้วนำรถมาให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบอีกครั้งภายในเวลา 30 วัน หากมีการปล่อยควันดำเป็นไปตามมาตรฐาน พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบจะยกเลิกคำสั่งห้ามใช้ชั่วคราว และนำเครื่องหมาย “ห้ามใช้ชั่วคราว” ออกจากตัวรถ กรณีที่ฝ่าฝืนคำสั่งห้ามใช้ยานพาหนะของพนักงานเจ้าหน้าที่จะมีโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท ตามมาตรา 102 พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535
นอกจากนี้ คพ. ได้ดำเนินมาตรการเชิงรุกโดยทำงานร่วมกับ บก.จร. ตรวจสอบควันดำรถโดยสารประจำทาง ขสมก. ที่อู่เดินรถตามเขตต่างๆ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เพื่อเป็นมาตรการป้องกันและควบคุมที่แหล่งกำเนิดมลพิษ โดยในเดือนตุลาคม 2562 ตรวจสอบควันดำรถโดยสารประจำทาง ขสมก. จำนวน 246 คัน พบรถที่มีค่าควันดำเกินมาตรฐาน 3 คัน ซึ่งหากตรวจพบรถมีการปล่อยควันดำเกินกว่าร้อยละ 30 จากค่ามาตรฐานที่กฎหมายกำหนดไว้ที่ร้อยละ 45 จะแจ้งให้เขตการเดินรถนำรถคันดังกล่าวไปปรับปรุงแก้ไขก่อนนำออกมาวิ่งบริการ
ทั้งนี้ คพ. มีแผนการทำงานตรวจสอบควันดำรถโดยสาร ขสมก. ในกรุงเทพมหานครอย่างต่อเนื่อง และจะขยายการตรวจสอบเพิ่มประเภทรถสองแถวที่วิ่งตามซอยต่างๆ (รถหมวด 4) รวมทั้งขยายพื้นที่การตรวจควันดำรถโดยสารประจำทาง ขสมก. ครอบคลุมพื้นที่ปริมณฑลในเขต จ.ปทุมธานี จ.นนทบุรี จ.สมุทรปราการ และจ.นครปฐม โดยจะประสานกรมการขนส่งทางบกเข้าร่วมปฏิบัติงานในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2562 เป็นต้นไป ควบคู่ไปกับการตรวจสอบตรวจจับ และห้ามใช้รถควันดำริมเส้นทางจราจรในพื้นที่กรุงเทพมหานคร