พฤติกรรมการทำธุรกรรมการเงินผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล ของกลุ่มมิลเลนเนียลชาวไทย นอกจากจะมองหาแอปพลิเคชันที่ใช้งานง่าย สะดวกรวดเร็ว และมีส่วนร่วมแล้ว ฟังก์ชันในแอปฯ ที่ตรงกับการใช้งาน และไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน ก็เป็นสิ่งที่คนยุคนี้อยากให้มี เพื่อตอบโจทย์กับวิถีชีวิตของดิจิทัลเจเนอเรชัน
ธนาคารยูโอบี (ไทย) เผยผลการศึกษา “พฤติกรรมการทำธุรกรรมการเงินผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล” ว่า ในกลุ่มมิลเลนเนียลชาวไทย หรือผู้ที่เกิดระหว่าง พ.ศ 2524-2543 อยากได้ประสบการณ์ที่ใช้งานง่าย สะดวกรวดเร็ว และมีส่วนร่วม (Engaging) โดยยูโอบี (ไทย) ได้เปิดเผยผลการศึกษานี้ หลังการประกาศจากกลุ่มธนาคารยูโอบีว่า ไทยจะเป็นประเทศแรกที่ได้ใช้ TMRW (ทูมอร์โรว์) บริการธนาคารผ่านช่องทางดิจิทัลบนมือถือ ที่สร้างสรรค์ขึ้นมาสำหรับคนยุคดิจิทัลในอาเซียน
ซึ่งจากการสำรวจ พบว่า มิลเลนเนียลชาวไทยส่วนใหญ่คาดหวังว่าการทำธุรกรรมทางธนาคารจะเป็นเรื่องง่ายๆ เช่น เมื่อเปิดบัญชีใหม่ ชาวมิลเลนเนียลต้องการแค่อัพโหลดรูปถ่ายบัตรประชาชน และกรอกแบบฟอร์มออนไลน์ให้น้อยที่สุด
โดยครึ่งหนึ่งของผู้ตอบแบบสอบถามต้องการให้ประสบการณ์กับบริการธนาคารผ่านช่องทางดิจิทัลเป็นเรื่องสนุก ไม่น่าเบื่อ และต้องการมีส่วนร่วม และมี 48% ผู้ตอบแบบสอบถาม บอกว่ายินดีรับข่าวสารข้อมูลที่เป็นประโยชน์จากธนาคารเพื่อช่วยให้พวกเขาสามารถจัดการกับธุรกรรมทางการเงินได้ดีขึ้น เช่น แจ้งเตือนวงเงินการใช้จ่าย และวันครบกำหนดชำระเงิน
การออมเงินในรูปแบบของเกมส์ จะช่วยให้คนยุคนี้อยากออมมากขึ้น
นอกจากนี้ยังพบว่ากลุ่มมิลเลนเนียลชาวไทย มองหาตัวช่วยที่ชาญฉลาด และครบเครื่อง ที่จะทำให้พวกเขาควบคุมค่าใช้จ่าย และช่วยตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออกไป ซึ่ง 45% ของผู้ตอบแบบสอบถาม มีรายจ่ายมากกว่ารายรับในแต่ละเดือน และปัจจุบันยังไม่มีบริการด้านดิจิทัลใด ที่สามารถช่วยพวกเขาตามติดเรื่องการออม และควบคุมค่าใช้จ่ายได้อย่างง่ายดาย แม่นยำ ในแบบเรียลไทม์ ซึ่ง TMRW จะสามารถตอบโจทย์ฟังก์ชั่นนี้ได้
ส่วนผู้ตอบแบบสอบถามที่เหลือระบุว่าพวกเขาสามารถออมเงินได้ในแต่ละเดือน และเมื่อถูกถามว่าจะทำอย่างไรให้พวกเขาสามารถออมได้มากขึ้น กลุ่มมิลเลนเนียลชาวไทยกล่าวว่า การออมเงินในรูปแบบของเกมส์ ที่มีรางวัลตอบแทนให้เมื่อบรรลุถึงเป้าหมาย จะช่วยทำให้รู้สึกอยากออมเงินมากยิ่งขึ้น
คนรุ่นใหม่ยอมรับเคยชำระค่าบัตรเครดิตล่าช้า
ขณะที่บัตรเครดิต ประเทศไทยมีการออกบัตรใหม่ในแต่ละปีเฉลี่ยปีละ 2.2 ล้านใบ ซึ่ง 50% ของผู้ถือบัตรใหม่เป็นกลุ่มมิลเลนเนียล จากการสำรวจพบว่าคนกลุ่มนี้ต้องควบคุมการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตได้ด้วยตัวเอง เช่น สามารถกำหนดวงเงินการใช้จ่าย และสามารถเลือกหมวดหมู่สินค้าที่จะได้รับเครดิตเงินคืนได้เองตามไลฟ์สไตล์ของตน พร้อมกับต้องการข้อความที่สามารถเตือนเมื่อถึงเวลาต้องชำระเงิน หรือถึงเวลาต้องออมเงินเพิ่มอีกด้วย
ซึ่งผู้ตอบแบบสำรวจจำนวน 48% ยอมรับว่าเคยชำระค่าบัตรเครดิตล่าช้า เนื่องจากลืม และจำใจต้องเสียดอกเบี้ยค่าปรับ โดยเชื่อว่าถ้ามีระบบการแจ้งเตือนการชำระเงินในแอปพลิเคชัน สามารถช่วยให้ชำระเงินได้ตรงเวลา
ทั้งนี้ นายยุทธชัย เตยะราชกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บุคคลธนกิจ ธนาคารยูโอบี (ไทย) กล่าวว่า “ยูโอบีไม่หยุดยั้งที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ และบริการที่ดีที่สุดเพื่อลูกค้าของธนาคาร โดยผลการศึกษาที่จัดทำขึ้นนี้ ชี้ให้เห็นถึงโอกาสในการตอบโจทย์ความต้องการด้านธนาคารของกลุ่มมิลเลนเนียลคนไทยนับล้าน ที่ยังไม่มีธนาคารไหนทำ ซึ่งธนาคารยูโอบีได้นำข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้มาใช้ในการพัฒนาเพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ที่ตรงกับความต้องการในยุคดิจิทัล”