ในวันที่ความจอแจคับคั่งของกรุงเทพฯ ยังคงเคลื่อนไหวอย่างไม่หยุดนิ่ง หากแต่ยังมีสถานที่บางแห่งที่มองดูราวกับซ่อนเร้นตัวตนจากความวุ่นวายและพร้อมจะดึงดูดเราให้กลืนหายเข้าไปสู่โลกใบใหม่ที่เงียบสงบยิ่งกว่าเคย และสถานที่แห่งนี้ก็คือคาเฟ่สุดอาร์ตในบ้านเก่าหลังงามที่ฉาบด้วยสีเหลืองมัสตาร์ดซึ่งถูกเรียกขานกันในชื่อ “Craftsman X บ้านอาจารย์ฝรั่ง”
การเดินทางอย่างมีรสชาติในโลกแห่งงานฝีมือของ “Craftsman”
ย้อนกลับไปถึงจุดเริ่มต้นของแบรนด์คาเฟ่ Craftsman ซึ่งก่อตั้งโดย คุณแวว-เนตรนภา นราธัศจรรย์ ผู้เป็นเจ้าของเดียวกับแบรนด์เฟอร์นิเจอร์สัญชาติไทยสไตล์มินิมัลอย่าง Niiq แรกเริ่มเดิมทีนั้นคุณแววเป็นคนที่ชื่นชอบในเสน่ห์ของกลิ่นและรสชาติกาแฟเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงอยากแบ่งปันความชอบนี้ให้กับคนอื่นๆ ไม่นานหลังจากนั้น มุมกาแฟเล็กๆ ในร้านเฟอร์นิเจอร์จึงถือกำเนิดขึ้น ก่อนจะขยับขยายพื้นที่มาสู่แบรนด์คาเฟ่สุดยูนีคในวันนี้
คุณแวว-เนตรนภา นราธัศจรรย์ ผู้ก่อตั้งแบรนด์คาเฟ่ “Craftsman X บ้านอาจารย์ฝรั่ง”
คำว่า “ช่างฝีมือ” ซึ่งเป็นความหมายตรงตัวของคำภาษาอังกฤษ “Craftsman” คือนิยามที่สะท้อนความเหมือนที่แตกต่างของสองสิ่งอันเป็นที่รักและหลงใหลของคุณแววนั่นคือเฟอร์นิเจอร์และกาแฟ ด้วยว่าทั้งสองสิ่งนี้ล้วนต้องอาศัยทักษะและความเชี่ยวชาญแห่งงานฝีมือในการประกอบสร้างเพื่อรังสรรค์ให้เกิดเป็นผลงานที่สมบูรณ์แบบที่สุด
“Craftsman X บ้านอาจารย์ฝรั่ง” มากกว่าการเป็นคาเฟ่ คือเสน่ห์แห่งวิถีความรื่นรมย์
สำหรับคาเฟ่ “Craftsman X บ้านอาจารย์ฝรั่ง” ถือเป็นความบังเอิญที่เกิดขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ เมื่อวันหนึ่งมีลูกค้าที่เป็นศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยศิลปากรแวะไปดื่มกาแฟที่ร้านสาขาเดิม ก่อนจะเอ่ยปากพูดคุยและชวนคุณแววมาเปิดร้านในโลเคชั่นแห่งใหม่ซึ่งก็คือ “บ้านอาจารย์ฝรั่ง” นั่นเอง
ว่าด้วยความสำคัญของบ้านหลังนี้ที่นอกจากจะโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์ไทยผสมวิกตอเรียกอธิค นั่นก็คือการเป็นบ้านหลังแรกของ ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี สุภาพบุรุษชาวอิตาลีผู้มีคุณูปการต่อวงการศิลปะไทยในฐานะของ “บิดาแห่งศิลปะร่วมสมัยของไทย” โดยบ้านหลังนี้ถูกสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยพระยาบุรุษรัตนราชพัลลภ (นพ ไกรฤกษ์) ซึ่งต่อมา อ.ศิลป์ ได้เข้ามาพำนักช่วงสมัยรัชกาลที่ 6
และแม้ปัจจุบันบ้านหลังนี้จะอยู่ในพื้นที่ของกองทัพบก แต่ท่านผู้อำนวยการก็มีความตั้งใจที่อยากให้ประชาชนได้สัมผัสถึงคุณค่าของสถานที่แห่งนี้อย่างใกล้ชิด การมาถึงของคาเฟ่ “Craftsman X บ้านอาจารย์ฝรั่ง” จึงถือเป็นจังหวะที่ลงตัวและตอบโจทย์ดีเอ็นเอความเป็น Art & Coffee ของแบรนด์ Craftsman ได้อย่างครบถ้วน
สิ่งที่ต้องเอ่ยปากชมด้วยความประทับใจ เห็นจะเป็นการออกแบบตกแต่งภายในที่คำนึงถึงการรักษาความงดงามตามสภาพดั้งเดิมของตัวอาคารเก่าไว้ได้อย่างดีเยี่ยม โดยเฉพาะการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์จากแบรนด์ Niiq ที่มีดีไซน์เรียบเก๋และให้ความรู้สึกร่วมสมัย อีกทั้งยังมีรายละเอียดของวัสดุและสีสันที่เข้ากันอย่างเหมาะเจาะกับรูปแบบงานสถาปัตยกรรมที่เป็นอยู่ ในขณะเดียวกันก็ช่วยสร้างบรรยากาศอบอุ่นและผ่อนคลาย เหมือนเรากำลังนั่งพักผ่อนสบายๆ อยู่ในบ้านของเราเองจริงๆ
บริเวณมุมต่างๆ ของร้าน ยังมีการจัดวางภาพวาดสวยๆ ซึ่งมีทั้งผลงานของศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี และผลงานของศิลปินรุ่นใหม่ เพื่อให้ผู้ที่เข้ามาเยี่ยมเยือนได้ร่วมดื่มด่ำไปกับสุนทรีย์แห่งงานศิลปะไปในตัว นอกจากนี้ก็ยังมีห้องส่วนตัวให้บริการ 1 ห้อง ขนาด 5-8 ที่นั่ง แต่มีข้อแม้ว่าลูกค้าจะต้องโทร. มาจองกับทางร้านล่วงหน้าเท่านั้น
มาถึงคาเฟ่ “Craftsman X บ้านอาจารย์ฝรั่ง” กันทั้งที ถ้าจะไม่เล่าถึงเมนูเครื่องดื่มและอาหารก็ดูจะเป็นการผิดธรรมเนียมไปสักหน่อย แน่นอนว่าไฮไลต์เด่นของที่นี่ก็คงหนีไม่พ้นเมนู “กาแฟ” ซึ่งในตอนนี้ทางร้านพัฒนาความเชี่ยวชาญไปถึงขั้นเปิดโรงคั่วเมล็ดกาแฟเป็นของตัวเองเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นจึงอย่าแปลกใจ หากคุณพบว่าเมนูกาแฟของที่นี่จะมีเอกลัษณ์และรสชาติเฉพาะตัวที่แตกต่างในแบบที่คุณจะต้องไม่เคยลิ้มรสจากที่ไหนอย่างแน่นอน
เมล็ดกาแฟของที่นี่ผ่านการคัดสรรอย่างพิถีพิถันจากแหล่งปลูกที่มีคุณภาพทั้งในและต่างประเทศ และเป็นเมล็ดกาแฟที่ถูกเก็บเกี่ยวในฤดูกาลนั้นๆ ก่อนนำมาเบลนด์ในแบบฉบับของ “เฮาส์เบลนด์ (House-Blended)” ซึ่งมีให้เลือก 2 แบบ แบบแรกคือ Craftsman Blend เป็นเมล็ดกาแฟจากประเทศเอธิโอเปีย, โคลอมเบีย, อินโดนีเซีย และไทย แบบที่สองคือ Artisan Blend เป็นเมล็ดกาแฟจากประเทศบราซิลและลาว โดยทั้งสองแบบจะให้รสชาติและความรู้สึกที่แตกต่างกัน แต่คอนเฟิร์มเลยว่า เต็มไปด้วยความละเมียดละไมสมกับการเป็นงานคราฟต์จริงๆ
แนะนำเมนูกาแฟที่เป็นซิกเนเจอร์ของทางร้านอย่าง Hot Honey Latte (125 บาท) กาแฟลาเต้ร้อนรสนุ่มที่ชุ่มฉ่ำด้วยความหอมหวานของน้ำผึ่งป่าออร์แกนิคและตกแต่งด้านบนด้วยรวงผึ้งแท้ๆ
Hot Honey Latte
หรือจะลองความแปลกใหม่ในอีกมิติหนึ่งของกาแฟนมกับเมนู Iced Lemongrass Latte (135 บาท) ซึ่งเป็นกาแฟลาเต้ที่ผสมไซรัปตะไคร้สูตรเฉพาะที่ทางร้านคิดค้นขึ้นมาเอง เวลาดื่มก็จะได้รสชาติของกาแฟและกลิ่นหอมของตะไคร้ที่อบอวลอยู่ในปาก ที่สำคัญเมนูนี้ยังเป็นเมนูที่ทางร้านเคยเลือกนำไปประกวดในงาน I+D Style Café 2018 มาแล้วด้วย
Iced Lemongrass Latte
สำหรับคนที่ไม่ใช่คอกาแฟก็อย่าเพิ่งเสียใจ เพราะที่นี่ยังมีเมนูเครื่องดื่มอื่นๆ ให้คุณเลือกอย่างจุใจเลยทีเดียว แนะนำให้ลองเมนูพิเศษที่ทางร้านตั้งใจครีเอตขึ้นมาโดยเฉพาะอย่าง Sparking Tamarind (135 บาท) โดยเป็นเมนูที่ทางร้านได้ไปค้นคว้าข้อมูลจนได้ทราบว่า หนึ่งในเมนูโปรดของศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี สมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ก็คือ “น้ำมะขาม” แต่ถ้าร้านจะเสิร์ฟเป็นน้ำมะขามธรรมดาๆ ก็ดูจะไม่น่าสนใจ ก็เลยคิดค้นเมนูใหม่โดยใช้มะขามป้อมผสมกับน้ำผึ้งป่า ใส่ลงใน Sparking Water แบรนด์ San Pellegrino คนให้เข้ากันก่อนดื่ม ก็จะได้รสซ่าซาบซ่านผสมความเปรี้ยวอมหวานที่ปลุกความสดชื่นได้ทันตาเห็น
Sparking Tamarind
หรือจะเป็นอีกหนึ่งเมนูฮิตของร้านที่สดชื่นเกินต้านไม่แพ้กันนั่นคือ Passion Honey on the Rock (115 บาท) โดยเป็นน้ำเสาวรสคั้นสดผสมกับน้ำผึ้งป่าและเหยาะด้วยเกลือทะเลเล็กน้อยเพื่อให้รสชาติกลมกล่อมลงตัว เสิร์ฟมาพร้อมน้ำแข็งก้อนที่ดื่มแล้วบอกได้คำเดียวว่าเฟรชสุดๆ
Passion Honey on the Rock
มาถึงเมนูอาหารกันบ้างซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นอาหารสไตล์อิตาเลียน ขอเริ่มอุ่นเครื่องด้วยเมนูทานเล่นเรียกน้ำย่อยอย่าง Gambas al Ajillo (200 บาท) กุ้งกระเทียมอบในน้ามันมะกอกสไตล์สเปน เสิร์ฟคู่ขนมปังปิ้งหอมกรุ่นที่กรอบนอกนุ่มใน จากนั้นต่อด้วยเมนูแนะนำที่ไม่อยากให้คุณพลาดกับ Pesto di linguine con gambero di tigre (380 บาท) พาสต้าเส้นลิงกวินี่ที่เสิร์ฟพร้อมกุ้งลายเสือย่างกับซอสเพสโตสไตล์คราฟท์แมนที่ปรุงสดใหม่ โดยมีพระเอกคือใบโหระพาไทยที่ให้กลิ่นหอมเตะจมูกและรสชาติเผ็ดนิดๆ พอติดปลายลิ้น
Gambas al Ajillo
Pesto di linguine con gambero di tigre
ส่วนเมนูจากหลักที่เราอยากยกดาวให้ทั้งฟ้าและการันตีความฟินสำหรับ beef lover นั่นคือ Craftsman Steak (650 บาท) สเต็กเนื้อส่วนสันคอและหัวไหล่ที่ทางร้านใช้เนื้อนำเข้าจากประเทศออสเตรเลีย ก่อนจะนำมาย่างให้สุกแบบ medium rare ความอร่อยอยู่ที่เทคนิคการย่างด้วยไฟแรงจนผิวด้านนอกกรอบหอม ด้านในนุ่ม เสิร์ฟคู่มันฝรั่งอบเครื่องเทศและเกลือทรัฟเฟิลฝรั่งเศส แต่งด้วยบัลซามิคน้าผึ้ง
Craftsman Steak
ปิดท้ายด้วยเมนูขนมหวานแบบโฮมเมดที่จะช่วยเติมความพิเศษให้กับการมาเยือนคาเฟ่แห่งนี้ได้อย่างเพอร์เฟกต์ แนะนำให้ลองสั่ง Butter Scone with Homemade Tamarind Jam (2 ชิ้น 150 บาท) สโคนเนยสดที่มาพร้อมสัมผัสแบบหอมนุ่มชุ่มเนย เสิร์ฟคู่กับแยมมะขามผสมแครนเบอรี่สูตรพิเศษของทางร้านและคลอตเตทครีมโฮมเมด
Butter Scone with Homemade Tamarind Jam
หรือจะเป็นเมนู Lemon Drizzle Cake (140 บาท) เค้กมะนาวราดด้วยน้ำเลมอนสดหอมเข้มข้นและทางร้านจะอุ่นก่อนเสิร์ฟ รวมถึงเมนูขนมหวานที่อาจจะดูแปลกแต่อร่อยล้ำอย่าง Strawberry Rhubarb Cup (190 บาท)
Lemon Drizzle Cake
Strawberry Rhubarb Cup
ฝากไว้สำหรับวันหยุดสุดสัปดาห์นี้หากใครที่ยังไม่มีแพลนจะไปไหน ลองแวะไปตักตวงความสุขในช่วงเวลาที่แสนผ่อนคลายพร้อมเก็บเกี่ยวแรงบันดาลใจใหม่ๆ จากกลิ่นอายในโลกแห่งศิลปะกันได้ที่คาเฟ่ Craftsman X บ้านอาจารย์ฝรั่ง (บริเวณเชิงสะพานซังฮี้ ฝั่งพระนคร) เลขที่ 153 ถนนราชวิถี แขวงวชิรพยาบาล เขตดุสิต กรุงเทพฯ โทร. 065-234-0044 เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00 น. – 20.00 น. รายละเอียดเพิ่มเติม Craftsman Roastery