สัมผัสความงดงามของทะเลบัวแดงและธรรมชาติแบบฉบับอีสานในช่วงเทศกาลและไฮซีซันที่แมกไม้และดอกบัวบานสะพรั่งรับฤดูหนาว
จังหวัดอุดรธานี จับมือพันธมิตรภาคท่องเที่ยวรัฐ-เอกชน-ประชาสังคม ร่วมเปิดเทศกาลชมทะเลบัวแดง หนองหาน ปี 2565 หวังดึงดูดนักเดินทางเข้าพื้นที่ กระตุ้นการจับจ่ายใช้สอย ขับเคลื่อนเศรษฐกิจพื้นที่ในปีนี้คาดว่าทะเลบัวแดงจะสวยสุดในรอบ 10 ปี
นางธนภร พูลเพิ่ม ผู้อำนวยการ ททท.อุดรธานี เปิดเผยว่า ททท.อุดรธานี ร่วมกับจังหวัดอุดรธานี สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด หอการค้าจังหวัด สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดอุดรธานี และชมรมวิสาหกิจชุมชนเรือเพื่อการท่องเที่ยวทะเลบัวแดง ชุมชนเอกชนในพื้นที่ เปิดฤดูกาลท่องเที่ยวทะเลบัวแดง ปี 2565 ที่ทะเลสาบหนองหาน
หนองหานมีพื้นที่ราว 22,500 ไร่ เป็นทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของภาคอีสาน ถือเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ และที่สำคัญค่อนข้างแปลกประหลาดถึงกับได้รับยกย่องจาก CNN เป็น 1 ใน 15 แห่งของโลก และได้รับการขึ้นทะเบียน ให้เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำระดับนานาชาติ ที่สำคัญของประเทศไทย มีพื้นที่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ 4 อำเภอ คือ อ.หนองหาน อ.กุมภวาปี อ.ประจักษ์ศิลปาคม และ อ.กู่แก้ว จังหวัดอุดรธานี เป็นแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรและการอุปโภค บริโภค เป็นแหล่งทำหากินและเลี้ยงชีพการประมงพื้นบ้าน
ทะเลสาบหนองหานยังมีระบบนิเวศน์ที่เป็นเอกลักษณ์ โดยธรรมชาติได้สรรสร้างให้หนองหานเป็นทะเลบัวแดง หรือบัวสาย ที่สวยงามจนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สำคัญของจังหวัดอุดรธานีและของกลุ่มนคราธานี 3 จังหวัด คือ อุดรธานี หนองคาย และบึงกาฬ
กล่าวคือในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี ดอกบัวแดง หรือบัวสายในหนองหาน ซึ่งมีจำนวนมาก งอกงามโผล่จากน้ำขึ้นมา โดยเริ่มจากเดือนตุลาคมบัวเริ่มแตกใบ และเริ่มออกดอกตูม จากนั้นจะเริ่มบานเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โดยจะออกดอกมีปริมาณมากที่สุดในช่วงเดือนธันวาคม–กุมภาพันธ์
และค่อยๆ ลดปริมาณลงในเดือนมีนาคม ดอกบัวจะบานในช่วงเช้าตรู่จนถึงเวลาประมาณ 11.00 น. ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่พระอาทิตย์ส่องแสงอมเหลือง โผล่ขึ้นมาจากขอบฟ้า เหมาะสมแก่การล่องเรือชมทะเลบัวแดง นักท่องเที่ยวจะมองเห็นดอกบัวแดงบานเต็มท้องน้ำหนองหานสุดลูกหูลูกตา งดงามอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ จึงเป็นที่มาของคำว่า “ทะเลบัวแดง”
นักท่องเที่ยวที่มาเป็นกลุ่มเล็กไม่เกิน 8 คน/กลุ่ม ใช้เรือขนาดใหญ่ในราคารอบละ 500 บาท ใช้เวลารอบละ 1-1 ชั่วโมงครึ่งต่อรอบ หรือที่มาเป็นคู่ใช้เรือขนาดเล็กรอบละ 300 บาท/รอบ ใช้เวลาเท่ากัน
ในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี ก็ยังมีแหล่งท่องเที่ยว ทั้งสายมู เส้นทางธรรมชาติ ประเพณีวัฒนธรรมที่หลากหลาย เป็นเส้นทางเชื่อมโยง อาทิ แหล่งมรดกโลก พิพิธภัณฑ์บ้านเชียง ที่เป็นที่ตั้งของวัดสันติวนาราม ที่มีพระอุโบสถดอกบัวกลางน้ำ วังนาคินทร์คำชะโนด ที่มีเกาะกลางน้ำที่เป็นแหล่งต้นชะโนดโบราณ มีศาลศักดิ์สิทธิ์หลวงปู่ศรีสุทโธ เจ้าย่าประทุมา ที่เป็นที่เคารพศรัทธาของประชน
วัดป่าคำน้อย วัดป่าภูก้อน ที่มีพระพุทธไสยยาสน์หินอ่อนสีขาวจากประเทศอิตาลี ตลาดผ้าหมี่ขิดนาข่า ที่เป็นแหล่งผ้าหมี่ขิดที่ใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน แล้วก็กลับมาพักผ่อนช้อปปิ้งในเมืองอุดรธานี
หรือหากว่ามีเวลามากพอ ก็สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวจังหวัดในกลุ่มนคราธานี อาทิ เส้นทางโรแมนติกส์รูทริมฝั่งโขง เส้นทางตามรอยพญานาค หรือไปสัมผัสกับอันซีนถ้ำนาคา ถ้ำนาคีที่จังหวัดบึงกาฬ และแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่มีความหลากหลาย
ร่วมสัมผัสความมหัศจรรย์ทะเลบัวแดง หนองหาน รวมทั้งสถานที่ท่องเที่ยว ที่สามารถเชื่อมโยง ตามเส้นทางที่น่าสนใจของจังหวัดอุดรธานีและกลุ่มนครธานี ในช่วงฤดูหนาวซึ่งเป็นไฮซีซันนี้ เติมเต็มทุกบรรยากาศ
ไม่ว่าจากธรรมชาติ ธรรมะ วัฒนธรรมความน่ารักของวิถีชุมชน รวมทั้งเปิดประสบการณ์อาหารอีสานกระตุ้นปุ่มรับรส ที่พักหลากหลายรูปแบบ เพราะที่นี่คือ “นคราธานี” หากได้มาสัมผัสแล้วจะรักนคราธานีมากขึ้นกว่าเดิม