สนามกีฬาแห่งชาติ แลนมาร์คสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่ปัจจุบันไม่ใช่เป็นเพียงสถานที่จัดการแข่งขันกีฬาอย่างเดียว แต่ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ศูนย์การเรียนรู้ แหล่งนันทนาการที่ทันสมัย อีกทั้งในอนาคตยังเป็นจุดเชื่อมต่อรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงเข้ม (บ้านภาชี-มหาชัย) ณ สถานียศเส อีกด้วย ตามมาดูว่า บริเวณโดยรอบของสถานีนี้ จะมีพื้นที่ฮิตใหม่ๆ แบบไหนให้ไปปักหมุดบ้าง
a. หอศิลป์แห่งใหม่กลางกรุง – YELO House
YELO House (เยโล เฮาส์) คือโกดังเก่าที่ปรับเปลี่ยนเป็นพื้นที่เอนกประสงค์สำหรับคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ แม้จะมีพื้นที่เพียง 480 ตารางเมตร แต่ได้รวบรวมความหลากหลายของงานศิลป์ตั้งแต่แกลเลอรี Co-working space ห้องสัมมนา ตลาดงานดีไซน์ ร้านอาหาร งานดนตรี รวมไปถึงคาเฟ่พบปะของคนรักงานครีเอท โดดเด่นที่สุดคือ Art Exhibition บริเวณชั้น 2 ที่เป็นแหล่งหมุนเวียนนิทรรศการภาพต่างๆ ที่จะเปลี่ยนมุมมองของหอศิลป์รูปแบบเดิมๆ ได้แน่นอน
ที่ตั้ง: รถไฟฟ้าทางออก 1 ซอยเกษมสันต์ 1
เวลาเปิด-ปิด: 11.00-20.00 น. (ปิดวันอังคาร)
โทร. 089 777 2322
Facebook: YELO House
b. แหล่งรวมพลคนรักกล้องฟิล์ม – LERT’s
เรียกว่าเป็นคอมมูนิตี้เล็กๆ ของสายอะนาล็อกที่หลงใหลกล้องฟิล์มเลยก็ว่าได้ สำหรับ LERT’s (เลิศ) แล็บล้างและสแกนฟิล์มแห่งใหม่ย่านสยาม เพิ่งแกะกล่องเปิดร้านไปเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา โดยคุณเป้-เลิศเกียรติ จงจิรจิต เจ้าของร้าน ตั้งใจจะให้เป็นสถานที่นั่งคุย แลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการถ่ายรูปภายใต้บรรยากาศสบายๆ ริมคลองแสนแสบ จะเป็นนักถ่ายรูปมือใหม่หรือมือเก๋า ใช้กล้องฟิล์มหรือไม่ใช้ ก็มาแลกเปลี่ยนกันได้เช่นกัน
ที่ตั้ง: รถไฟฟ้าทางออก 1 ซอยเกษมสันต์ 1
เวลาเปิด-ปิด: 13.00-20.00 น. (ปิดวันอังคาร)
Facebook: LERT’s
c. เปิดใจกับงานคราฟต์ – Jai Craft Design
Jai Craft Design (ใจ คราฟต์ ดีไซน์) Pop-up Shop ของผ้าพันคอแบรนด์ JAI (ใจ) ที่เกิดจากเรื่องราวภาพวาดสีน้ำของชายสูงอายุวัย 64 ปี คุณชูศิษฏ์ เขียวชะอุ่ม ที่มีใจรักในการทำงานวาดภาพศิลปะ ทำให้คุณณภัทร เขียวชะอุ่ม นักออกแบบและผู้ก่อตั้ง Jai Craft Design เกิดไอเดียอยากช่วยให้ผลงานของท่านกลับมามีคุณค่าอีกครั้ง อีกทั้งยังตั้งใจให้เป็นพื้นที่และโอกาสในการแสดงผลงานของกลุ่มผู้สูงอายุในสังคม นอกจากนี้ ภายในชอปยังเป็นสถานที่จัดเวิร์กชอปวาดภาพระบายสีน้ำอีกด้วย
ที่ตั้ง: รถไฟฟ้าทางออก 1 ซอยเกษมสันต์ 1 (ชั้น 3 ของ YELO House)
เวลาเปิด-ปิด: 11.00-20.00 น. (ปิดวันอังคาร)
โทร. 094 226 9622
Facebook: JAI
d. คาเฟ่สายติสต์ – Cafe At Ease
หากใครกำลังมองหาโอเอซิสกลางเมือง Cafe At Ease คือหนึ่งในลิสต์ที่จะพาคุณหลีกหนีความวุ่นวายในเมืองใหญ่ ด้วยการจัดแต่งบรรยากาศเหมือนแกลเลอรีท่ามกลางธรรมชาติ นำเสนอความเป็นศิลปะถ่ายทอดออกมาอย่างโดดเด่น ใช้กำแพงสนามหญ้าประดับผนังแตกต่างไม่เหมือนใคร มาสู่พื้นที่ส่วนตัวในบรรยากาศสบายๆ ให้บริการทั้งอาหารคาว ของหวาน และเครื่องดื่ม อีกทั้งยังเป็นสถานที่รวบรวมผลงานศิลปะของศิลปินชื่อดังในหลากหลายแขนงด้วย
ที่ตั้ง: รถไฟฟ้าทางออก 1 ซอยเกษมสันต์ 2
เปิดทุกวัน 08.30-18.30 น.
โทร. 087 799 0781
Facebook: Cafe At Ease
e. คลับคนรักสุขภาพ – Tasty Healthy
Tasty Healthy ร้านอาหารสไตล์โฮมเมดน้องใหม่ ที่เน้นความอร่อยโดยคัดสรรค์วัตถุดิบที่ดีต่อสุขภาพ โดยเจ้าของร้านตั้งใจอยากให้คนเมืองหันมาใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น นำวัตถุดิบคุณภาพดีอย่างผักและผลไม้ มาครีเอทเป็นเมนูทานง่าย นอกจากจะดีต่อร่างกายแล้วยังดีต่อใจด้วย และในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ทางร้านยังจัดกิจกรรมเวิร์คชอปปลูกต้นอ่อน หากใครชอบกิจกรรมน่ารักๆ แบบนี้ต้องมาโดนสักครั้ง
ที่ตั้ง: รถไฟฟ้าทางออก 2 จุฬา ซอย 6
เวลาเปิด-ปิด: 10.00-21.00 น. (ปิดวันอาทิตย์)
โทร. 090 982 7070
Facebook: Tasty Healthy
f. สเปซแนวใหม่ – NAP LAB
ยุคนี้หันไปทางไหนก็จะเจอ Co-working Space ทั้งเก่าและใหม่เปิดให้ใช้บริการแทบทุกย่านในกรุงเทพฯ แต่ NAP LAB มาในรูปแบบ Co-Napping Workspace พื้นที่ทำงานแห่งใหม่ในคอนเซปต์ “ที่ทำงานไม่ได้งาน” นั่งทำงานไปด้วย นอนเล่นไปด้วย พิเศษสุดคือ มีตู้ล็อกเกอร์และห้องอาบน้ำสำหรับคนที่ทำงานดึกแล้วไม่อยากกลับบ้าน ส่วนราคาก็แสนสบายกระเป๋า เริ่มต้นที่ 100 บาท/4 ชั่วโมง สำหรับนักเรียนนักศึกษา และ 150 บาท/4 ชั่วโมง สำหรับบุคคลทั่วไป
ที่ตั้ง: รถไฟฟ้าทางออก 2 จุฬา ซอย 6
เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง
โทร. 095 951 9523
Facebook: NapLab