เมลเบิร์น (Melbourne) เมืองน่าอยู่คู่ออสเตรเลีย ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในเมืองน่าอยู่อันดับต้นๆ ของโลกเลยทีเดียว ด้วยการวางผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมมีถนนตัดผ่านเหมือนตารางหมากรุก ทำให้ง่ายต่อการเดินทางภายในตัวเมือง อีกทั้งยังมีบริการด้านคมนาคมทั่วถึงทุกมุมเมือง BLT ฉบับนี้ จะพาไปสัมผัส 7 สถานที่ห้ามพลาดเมื่อมาเยือนเมลเบิร์น
จุดชมวิวสุดอลังการในเมลเบิร์น
Eureka Skydeck ของเมลเบิร์นเป็นจุดชมวิวที่เยี่ยมยอดที่สุด โดยเฉพาะสำหรับคนที่มาเที่ยวเมลเบิร์นเป็นครั้งแรกนั้นพลาดไม่ได้เลย ที่นี่เป็นจุดชมวิวที่สูงที่สุดในซีกโลกใต้ ทิวทัศน์ของเมืองล้อมรอบจุดชมวิวที่ชั้น 88 ของ Eureka Tower ซึ่งอยู่บริเวณ CBD ของนครเมลเบิร์น เราจะได้เห็นทัศนียภาพแบบ 360 องศา สามารถชมความงดงามของเมลเบิร์นและเขต Dandenongs ที่ทอดยาวออกไปจนสุดสายตา รวมถึงสถานที่สำคัญๆ ในเมือง เช่น สนามคริกเก็ต MCG ด้วย
เยี่ยมชมสวนสัตว์ระดับโลก
Melbourne Zoo หรือสวนสัตว์เมลเบิร์น ยังคงเป็นสวนสัตว์ระดับโลกที่เป็นผลมาจากความรักที่มีต่อสัตว์โลกและการลงทุนเป็นจำนวนมาก สวนสัตว์เมลเบิร์นตั้งอยู่ห่างออกไปจากตัวเมืองเมลเบิร์นออกไปประมาณ 4 กิโลเมตร เพื่อให้เหล่าสัตว์มีพื้นที่เพียงพอสำหรับการใช้ชีวิต และรู้สึกสบาย พื้นที่ทั้งหมดในสวนสัตว์ถูกแบ่งออกเป็นภูมิภาคต่างๆ เพื่อสะท้อนถิ่นที่อยู่อาศัยของสัตว์จากทั่วทุกมุมโลก หากได้มาเยี่ยมชมสวนสัตว์แห่งนี้ ก็จะได้สัมผัสกับสิ่งมหัศจรรย์ธรรมชาติ
เดินทางด้วยรถรางสุดคลาสสิก
ใจกลางย่านธุรกิจของเมลเบิร์นบริการรถรางฟรี หรือ City Circle Tram นับเป็นวิธีที่สะดวกที่สุดในการเดินทางชมไฮไลต์ต่างๆ ของเมือง ด้วยสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในเมลเบิร์นนั้นล้วนตั้งอยู่ตามเส้นทางของรถราง ไม่ว่าจะเป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำเมลเบิร์น, เรือนจำเก่าเมลเบิร์น, จัตุรัส Federation รวมไปถึงพิพิธภัณฑ์ต่างๆ นอกจากนี้ยังมีเสียงคอยให้คำอธิบายสำหรับนักท่องเที่ยวที่จะช่วยชี้ให้เห็นอาคารและประวัติศาสตร์ที่สำคัญในขณะที่เดินทางอยู่อีกด้วย
ที่สุดแห่งสัตว์ป่าและธรรมชาติ
ประสบการณ์เผชิญหน้ากับเหล่าสัตว์ป่าที่ไม่เหมือนใครในออสเตรเลียที่ Werribee Open Range ถือว่าเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุดเมื่อมาเยือนเมลเบิร์น บริเวณทุ่งหญ้าของสวนสัตว์แห่งนี้มีพื้นที่กว้างใหญ่ขนาด 225 เฮกตาร์ มีความพิเศษด้วยการเลียนแบบสภาพแวดล้อมของทุ่งหญ้าสะวันนาแบบแอฟริกันแท้ๆ แถมยังตั้งอยู่ห่างจากใจกลางเมืองเพียง 30 นาทีเท่านั้น ที่นี่จึงเหมาะสำหรับคนที่มีความสนใจเกี่ยวกับสัตว์และสัตว์ป่ามากที่สุด
ท่องเที่ยวตามเส้นทางป่าฝน
หนึ่งในอัญมณีที่ซ่อนอยู่ของเมลเบิร์นคือ การสำรวจอุทยานแห่งชาติ Dandenong Ranges ซึ่งเป็นการท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของรัฐวิคตอเรีย เพราะมีช่วงที่น่าตื่นเต้นระหว่างเส้นทางชมป่าฝนที่อุดมสมบูรณ์ของออสซี่แทร็ก พร้อมกับชมเมืองเล็กๆ ในบริเวณใกล้เคียง ที่เต็มไปร้านค้าที่แปลกใหม่ให้เยี่ยมชม
ปักหมุดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคโบราณ
The Shrine of Rememberance คือ อนุสรณ์สถานสงครามที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของรัฐวิกตอเรีย และเป็นอีกหนึ่งจุดยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่นี่สร้างขึ้นเพื่อเป็นการระลึกถึงเหล่าทหารที่เสียสละชีวิตของพวกเขาในช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่งและครั้งที่สอง เพื่อรักษาเสรีภาพของประเทศเอาไว้ ตัวอนุสรณ์สถานสร้างขึ้นในปี 1928 ตามแบบมอโซเลียมแห่งฮาลิคาร์นาซุส ซึ่งเป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคโบราณ
สุดยอดกีฬาของชาวออสซี่
เป็นเรื่องยากที่จะตามหาชาวออสเตรเลียที่ไม่มีความชื่นชอบในกีฬา สำหรับ The Melbourne Cricket Ground (MCG) คือ สนามคริกเก็ตในเมลเบิร์นที่มีชื่อเสียงและเคยเป็นเจ้าภาพในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 1956 การแข่งขันคริกเก็ตครั้งแรกในปี 2006 Commonwealth Games 1992 World Cup และ VFL และ AFL Grand Finals และอื่นๆ อีกนับไม่ถ้วน โดย MCG นับว่าเป็นสนามกีฬาที่มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานกีฬาของออสเตรเลียที่ต้องไม่พลาดมาชม
**สามารถจองตั๋วโดยสารในราคาพิเศษ สำหรับการเดินทางสู่เมลเบิร์น เส้นทาง กรุงเทพ (ดอนเมือง) – เมลเบิร์น โดยใช้โปรโมชั่น CODE : Scoot15 ผ่านเว็บไซต์ www.flyscoot.com/th-melbourne โปรโมชั่นพิเศษ จองตั๋ววันที่ 2-15 มีนาคม 2563 รับส่วนลด 15% / จองตั๋ววันที่ 16-22 มีนาคม 2563 รับส่วนลด 10% (เดินทางได้ถึง 31 ต.ค. 2563)
ข้อมูลเกี่ยวกับ ScootPlus / FlyBag / FlyBagEat การยกระดับสัมภาระด้วยน้ำหนักสัมภาระเช็คอิน 30 กก. และสัมภาระขึ้นเครื่อง 2 ชิ้น (สูงสุด 15 กก.) และบริการไวไฟ 30 MB ให้คุณได้เชื่อมต่อตลอดเวลา หรือสามารถเช็ครายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมอื่นๆ ได้ในเว็บไซต์ Scoot (www.flyscoot.com)
Did you know
– คนไทยต้องขอวีซ่าก่อนเข้าประเทศออสเตรเลีย ติดตามรายละเอียดได้ที่ www.vfsglobal.com
– เมลเบิร์น ได้รับเลือกให้เป็นเมืองน่าอยู่ที่สุดในโลก ติดต่อกันถึง 7 ปีซ้อน จากการจัดอันดับของ The Economist Annual Global Liveability Report
– ในเขตเมืองเป็น Free Tram Zone จึงไม่ต้องใช้บัตรเดินทางใดๆ ทั้งสิ้นในการขึ้นรถราง ขึ้นลงจุดใดก็ได้ รวมถึงรถรางหมายเลข 35 ฟรีทุกสาย