SHARGE จับมือ เรือด่วนเจ้าพระยา พลิกโฉมการสัญจรทางน้ำ จากเรือสันดาปสู่ “เรือไฟฟ้า”
โดย SHARGE ผู้ให้บริการ EV Charging Solution จะเข้ามาช่วยพัฒนาสถานีชาร์จเรือยนต์ไฟฟ้าให้ตามท่าเรือต่างๆ ในเส้นทางที่เรือของเรือด่วนเจ้าพระยาแล่นผ่าน
เพื่อให้เกิดโครงสร้างพื้นฐานที่เพียงพอกับความต้องการใช้ไฟฟ้า และปริมาณเรือไฟฟ้าของเรือด่วนเจ้าพระยา ที่จะทยอยเพิ่มขึ้นในอนาคต
โดยจะเน้นการพัฒนาสถานีชาร์จแบบกระแสตรง (DC) ที่มีหัวชาร์จความเร็วสูง 360 kW เพื่ออำนวยความสะดวกให้เรือทุกลำ สามารถชาร์จได้อย่างรวดเร็วในเวลากลางคืน และมีกำลังไฟที่เพียงพอต่อการแล่นสัญจรตลอดทั้งวัน
คาดว่าจะนำร่องพัฒนาสถานีชาร์จเรือไฟฟ้าแห่งแรกที่ท่ามหาราช คอมมูนิตี้มอลล์ ซึ่งเป็นหนึ่งในท่าเรือสำคัญ ที่มีผู้คนขึ้นลงจำนวนมาก ก่อนจะขยายสถานีชาร์จเรือไฟฟ้าตามท่าเรือสำคัญปลายทาง เพื่อให้มีหัวชาร์จความเร็วสูง อย่างน้อย 40 หัวชาร์จ ภายใน 5 ปี
ด้าน บริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา จำกัด ผู้ให้บริการเรือด่วนเจ้าพระยา ตั้งเป้าจะพัฒนาและออกแบบเรือไฟฟ้าให้แล้วเสร็จ ภายในปี 2565
หากเรือไฟฟ้าต้นแบบ มีขีดความสามารถในการปฏิบัติงานที่เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค บริษัทจะเดินหน้าสร้างเรือไฟฟ้าปีละ 5-6 ลำ และสร้างให้ครบ 30 ลำ ภายในช่วง 5-6 ปี
โดยแบ่งเป็นเรือไฟฟ้า 2 ขนาด ได้แก่
– ขนาดความจุผู้โดยสาร 200 คน และ 250 คน
คาดว่าจะเริ่มให้บริการเรือไฟฟ้าในเส้นทางแรก คือ เส้นทางท่าเรือนนทบุรี-ท่าเรือสาทร ภายในช่วงกลางปีนี้
ปัจจุบัน เรือด่วนเจ้าพระยา มีเรือโดยสารให้บริการทั้งสิ้น 56 ลำ ใน 4 เส้นทางรอบแม่น้ำเจ้าพระยา ได้แก่
– เรือธงส้ม นนทบุรี-วัดราชสิงขร
– เรือธงเหลือง นนทบุรี-สาทร
– เรือธงเขียว ปากเกร็ด-สาทร
– เรือด่วนปรับอากาศธงแดง นนทบุรี-สาทร