มนุษย์เงินเดือนส่วนมากมักประสบปัญหามีเงินไม่พอใช้ถึงสิ้นเดือน เหมือนที่สำนวนไทยบอกไว้ว่าชักหน้าไม่ถึงหลัง ทั้งๆ ที่ถูกเรียกว่าเงินเดือน แต่ทำไมถึงอยู่กับเราแค่ไม่กี่วัน ช่างน่าเศร้าใจเหลือเกิน พูดแล้วน้ำตาก็พาลจะไหลเป็นทางประมาณนางเอกละครดราม่าเลยทีเดียว
ที่ผ่านมาหลายคนคงเคยพยายามจัดการกับปัญหานี้ ไม่ว่าจะเป็นการขอติดรถคนที่ไปทางเดียวกันไปทำงาน นำอาหารจากที่บ้านไปทานที่ทำงานสำหรับมื้อเช้าหรือมื้อกลางวัน อดทนข่มใจไม่ไปชอปปิงที่ไหน ส่วนวันหยุด วันเสาร์ หรือวันอาทิตย์ก็พักผ่อนอยู่ที่บ้าน และอีกมากมายหลากหลายวิธี ไม่ว่าจะวิธีใดก็ทำไปเพื่อลดการใช้เงินนั่นเอง
การจัดการเงินที่ดีนั้น ไม่ใช่จัดการในวันที่เงินไม่พอ แต่ต้องเริ่มจัดการตั้งแต่วันแรกที่ได้เงินนั้นมาต่างหาก วันนี้เลยขอแชร์วิธีจัดการกับเงินเดือนให้อยู่ถึงสิ้นเดือนอย่างเป็นกระบวนการสักหน่อย เริ่มจากตั้งสมการไว้ในใจก่อนว่า
เงินเดือน – เงินออม = รายจ่าย
เมื่อได้เงินเดือนมาให้แบ่งเงินไปออมก่อนอย่างน้อย 10% เงินที่เหลือเราก็สามารถนำไปใช้จ่ายได้ จากนั้นให้หักรายจ่ายที่ต้องจ่ายแน่ๆ ออกไป ไม่ว่าจะเป็นประกันสังคม/กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่าเช่าบ้าน ส่งเงินให้พ่อแม่ หักแล้วเหลือเท่าไหร่ให้หารจำนวนวันใน 1 เดือน
ตัวอย่างเช่น เงินเดือน 20,000 บาท หักเงินออมสัก 15% ก็คือ 3,000 บาท หักรายจ่ายที่จำเป็น 9,000 บาท เหลือเงิน 8,000 บาท นำไปหารจำนวนวัน 30 วัน เท่ากับใช้เงินในชีวิตประจำวัน ได้วันละประมาณ 260 บาท จากนั้นนำเงินแยกใส่ซองทั้งหมด 30 ซอง พร้อมเขียนวันที่กำกับไว้ด้วย โดยหยิบไปใช้วันละซอง แล้วใช้จ่ายไม่เกินเงินในซองนั้น พอสิ้นวันถ้ามีเงินเหลือจะนำไปรวมกับซองของวันอื่น หรือนำไปหยอดกระปุกเพิ่มเงินออมก็ได้
หรือบางคนอาจใช้วิธีแบ่งเงินทีละครึ่งเดือน เอาเงินเดือนครึ่งเดือนหลังไปไว้ไกลหูไกลตา เช่น แยกฝากไว้อีกบัญชีหนึ่ง แล้วตั้งใจมั่นว่าจะไม่ยุ่งกับมันเด็ดขาดจนกว่าจะถึงครึ่งเดือนหลัง ทั้ง 2 วิธีนี้ก็น่าจะช่วยให้เรามีเงินประทังชีวิตอย่างราบรื่นได้จนถึงสิ้นเดือน
เห็นมั๊ยว่า วิธีที่มาแชร์ในวันนี้ทั้งเข้าใจง่าย ทำก็ง่าย บางทีการกลับไปใช้วิธีเหมือนตอนเป็นเด็ก ทั้งได้เงินค่าขนมไปโรงเรียนเป็นรายวัน หยอดเงินใส่กระปุก อาจจะทำให้เราจัดการเงินได้ดีขึ้นก็ได้ หากลองทำตามแล้ว ไม่ว่าจะได้ผลเป็นยังไงหรือมีไอเดียดี ๆ มาเสนอ เชิญมาแชร์กันได้