กรมทางหลวงยันพระราม 2 วิ่งฉิวก่อนสงกรานต์ขานรับนโยบาย “รมว.คมนาคม” กรมทางหลวงระดมเครื่องจักรเพิ่มอีก 3 ชุด เร่งสปีดปูผิวถนนพระราม 2 ระยะทาง 11.7 กม. ยัน 14 ช่องจราจรไป–กลับได้ใช้แน่ก่อนสงกรานต์นี้ช่วยอำนวยความสะดวกเพิ่มความคล่องตัวเดินทางแก้ไขปัญหารถติด
นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า ตามที่นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม มีนโยบายให้เร่งรัดงานก่อสร้างโครงการก่อสร้างขยายทางหลวงหมายเลข 35 สายธนบุรี–ปากท่อ (ถนนพระราม 2) จากทางแยกต่างระดับบางขุนเทียน–เอกชัย ตอนที่ 1-3 ระยะทาง 11.7 กม. ให้สามารถเปิดใช้งาน 14 ช่องจราจร (ไป–กลับ) ในช่วงสงกรานต์ปีนี้ เพื่ออำนวยความสะดวก และเพิ่มความคล่องตัวในการเดินทางของประชาชนที่จะกลับภูมิลำเนา หรือท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลดังกล่าว รวมถึงเเป็นการแก้ไขปัญหาการจราจรคับคั่งในพื้นที่พระราม 2 นั้น
ทล. จึงได้เร่งรัดผู้รับเหมาก่อสร้างให้ระดมเครื่องจักรเข้าทำการก่อสร้าง ในทางหลักทั้งขาเข้า และขาออกเพิ่มอีก 3 ชุด เพื่อดำเนินการปูผิวถนนช่วงทางแยกต่างระดับบางขุนเทียน–เอกชัย ระยะทาง 11.7 กม.
โดยความคืบหน้าล่าสุดช่องจราจรขาเข้า ช่องที่ 3 และช่องที่ 4 ซึ่งได้ปิดเพื่อทำการก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 5 ก.พ. 2563 ได้ปูผิวถนนเสร็จแล้ว 22% หรือคิดเป็นระยะทาง 2,400 เมตร ยังเหลือการก่อสร้างอีก 8,600 เมตร ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในวันที่ 30 มี.ค. 2563
ส่วนช่วงขาออกช่องที่ 3 และช่องที่ 4 ที่ปิดเพื่อการก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 31 ม.ค. 2563 ได้ปูผิวถนนเสร็จแล้ว 41% หรือคิดเป็นระยะทาง 4,550 เมตร คงเหลืออีก 6,450 เมตรที่ต้องดำเนินการ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 25 มี.ค. 2563
ทั้งนี้ กรมทางหลวงขออภัยในความไม่สะดวกระหว่างการก่อสร้างดังกล่าว และประชาชนผู้ใช้ทางยังสามารถใช้เส้นทางนี้ได้ 10 ช่องจราจร
โดยกรมทางหลวง ได้ให้ความมั่นใจว่าก่อนช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่จะถึงนี้ เส้นทางหลักและทางขนานไป–กลับ 14 ช่องจราจรของถนนพระราม 2 จะเปิดใช้งานได้อย่างแน่นอน ตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมที่มีความห่วงใยปัญหาความเดือดร้อนของผู้ใช้ถนนพระราม 2 และจะเร่งรัดโครงการให้แล้วเสร็จสมบูรณ์ภายในเดือน ส.ค. 2563
นอกจากนี้ นายสราวุธ กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้ได้มีการเร่งรัดดำเนินการก่อสร้างทางหลักส่วนขยายเพื่อคืนพื้นผิวจราจรบางส่วนให้รถวิ่งได้เพิ่มเติม โดยเมื่อวันที่ 26 ม.ค. 2563 ได้เบี่ยงช่องจราจรให้มาวิ่งในช่องทางหลักขาออกได้ 2 ช่องจราจร (ช่อง 1-2) ทางขนาน 3 ช่องจราจร รวมเป็น 5 ช่องจราจร
จากนั้นเมื่อวันที่ 30 ม.ค. 2563 ได้เปิดช่องจราจรหลักขาเข้า 4 ช่องจราจรทางหลัก ทางขนาน 3 ช่องจราจร รวมเป็น 7 ช่องทางจราจร และในวันที่ 5 ก.พ. 2563 ได้ปิดพื้นที่ก่อสร้างในช่องที่ 3 และช่องที่ 4 เพื่อเร่งรัดงานก่อสร้าง คงเหลือช่องจราจรหลักขาเข้า 2 ช่องจราจร (ช่องที่ 1-2) ทางขนาน 3 ช่อง รวมเป็น 5 ช่องจราจร
อีกทั้งยังมีมาตรการเพิ่มความคล่องตัวของการจราจร โดยได้ประสานไปยังอธิบดีกรมการขนส่งทางบก ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบังคับการตำรวจภูธร จังหวัดสมุทรสาคร และสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย เพื่อขอความร่วมมือให้รถบรรทุกขนาดใหญ่วิ่งบนทางขนานเพื่อลดความแออัดของการจราจรในช่องทางหลัก และการกวดขันรถยนต์ที่จอดริมทางขนานเพื่อไม่ให้กีดขวางการจราจรซึ่งเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ 21 ม.ค. 2563