พล.ต.ท. โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังพบผู้เสียชีวิตรายแรกในไทย และมาตรการเตรียมพร้อมมาตรการรับมือโควิด-19 ระยะ 3 ในส่วนของกรุงเทพมหานคร ว่า กรุงเทพมหานครได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน (Emergency Operations Center: EOC) กรณีโรคจากเชื้อไวรัสโควิด-19 ขึ้น เพื่อทำหน้าที่ติดตามสถานการณ์โรค เตรียมความพร้อมมาตรการเฝ้าระวังป้องกันควบคุมโรค เตรียมระบบการคัดกรองที่รวดเร็ว จัดระบบคัดแยกโรคและผู้ป่วยที่รวดเร็ว และมีการรายงานระบบข้อมูลตลอด 24 ชั่วโมง ทันทีที่พบผู้ป่วยอย่างเป็นระบบ เพื่อการป้องกันควบคุมโรคติดต่ออุบัติใหม่อย่างมีประสิทธิภาพ
พร้อมประสานความร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุขในการติดตามสถานการณ์ และเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อดังกล่าว ปฏิบัติตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขที่กำหนดให้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เป็นโรคติดต่ออันตรายลำดับที่ 14 ตาม พ.ร.บ. โรคติดต่อ พ.ศ.2558 โดยเน้นย้ำให้มีการเฝ้าระวัง และการแจ้งต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ กรณีพบผู้ป่วยหรือสงสัยว่าป่วย ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด
ในส่วนของการเตรียมความพร้อมบุคลากรทางการแพทย์ และสถานพยาบาลในสังกัด กทม. เพื่อรับมือสถานการณ์กรณีเกิดการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เข้าสู่ระยะที่ 3 หรือพบการระบาดเป็นวงกว้างในพื้นที่กรุงเทพฯ กรุงเทพมหานครได้จัดทำแผนเวชปฏิบัติสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ที่ทำการคัดกรองผู้ป่วย ทั้งในส่วนของโรงพยาบาลและศูนย์บริการสาธารณสุข และมีการเตรียมห้องแยกความดันลบ สำรองเวชภัณฑ์ต่างๆ และอุปกรณ์ป้องกันตนเองสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ทุกระดับ
รวมทั้งปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและควบคุมการติดเชื้อจากผู้ป่วยอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะบุคคลากรที่ต้องให้การดูแลผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อ จะต้องสวมชุดอุปกรณ์ป้องกันตนเองให้เหมาะสม ในส่วนของโรงพยาบาลจะมีระบบการป้องกันโรคติดเชื้อตามมาตรฐาน มีการทบทวนมาตรการและแนวทางป้องกันการติดเชื้อของบุคลากร การอบรมซ้อมแผนภายในโรงพยาบาลอย่างสม่ำเสมอ การทำความสะอาด Big Cleaning ทุกวันอังคารภายในบริเวณส่วนราชการในสังกัดฯ ทุกแห่ง
พร้อมกำหนดมาตรการรองรับภาวะฉุกเฉินกรณีโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 โดยกำหนดช่องทางเข้าออกโรงพยาบาลให้เหลือเฉพาะช่องทางที่จำเป็น ตรวจคัดกรองเบื้องต้นเพื่อความปลอดภัยก่อนเข้าสู่ภายในโรงพยาบาล เปิดคลินิกโรคระบบทางเดินหายใจนอกอาคารโรงพยาบาล รองรับผู้ป่วยเข้าข่ายติดเชื้อไวรัส พร้อมแจกบัตรคำแนะนำด้านสุขภาพ (Health Card)
ทั้งนี้สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 หลังจากกลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยง หากสงสัยในอาการของโรค สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ สายด่วนสุขภาพ สำนักการแพทย์ 1646 ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง กรณีมีการระบาดวงกว้างได้ร่วมมือกับ โรงพยาบาลในสังกัดกรมการแพทย์ สถาบันกลุ่มโรงพยาบาลแพทย์ศาสตร์แห่งประเทศไทย สมาคมโรงพยาบาลเอกชนและโรงพยาบาลของ 4 เหล่าทัพในการสำรองเตียงทั้งห้องความดันลบ และห้องแยกโรค รวมทั้งเวชภัณฑ์ ชุดป้องกันการติดเชื้อ และอื่นๆ ร่วมมือกันทั้งพื้นที่กรุงเทพฯ ในการรับผู้ป่วยไว้ และส่งต่อผู้ป่วยในกรณี จำเป็น ครอบคลุมทั่วพื้นที่กรุงเทพฯ ให้มั่นใจได้ว่าระบบการรักษา สามารถรับมือการระบาดในวงกว้างได้
นอกจากนี้รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับมาตรการเชิงรุกในการส่งเสริมความรู้ และให้คำแนะนำแก่ประชาชนเกี่ยวกับวิธีป้องกันตนเองจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 นั้น สำนักการแพทย์ และสำนักอนามัย ได้ลงพื้นที่ให้ความรู้แก่ประชาชนในชุมชนบริเวณรอบโรงพยาบาล ศูนย์บริการสาธารณสุข และพื้นที่ใกล้เคียงให้ปฏิบัติตามมาตรการ “กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ และสวมหน้ากากอนามัย” เพื่อควบคุมป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19
อีกทั้งได้กำหนดให้ทุกหน่วยงานราชการจัดกิจกรรม Big Cleaning ทำความสะอาดโดยเฉพาะจุดสำคัญที่ประชาชนสัมผัสร่วมกัน เช่น ราวจับบันไดเลื่อน ปุ่มกดลิฟท์ รถเข็นคนไข้ ห้องน้ำ เก้าอี้ และ พื้นที่อื่นๆ รวมทั้งมีการประชาสัมพันธ์ และสอนสุขศึกษาเรื่อง COVID-19 ทั้งในโรงเรียน ชุมชน และสถานประกอบการ เพื่อเป็นการเฝ้าระวังเชิงรุกอย่างต่อเนื่องด้วย