Wednesday, December 7, 2022
More

    ธุรกิจร้านอาหารปี 63 รับผลกระทบจาก COVID-19 คาดรายได้หดหาย 3.65 หมื่นล้านบาท

    ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยรายงานระบุว่า จากการแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 ซึ่งได้สร้างผลกระทบเป็นวงกว้างต่อหลายๆ อุตสาหกรรม โดยธุรกิจร้านอาหาร เป็นหนึ่งในธุรกิจที่ได้รับผลกระทบอย่างมากจากสถานการณ์ดังกล่าว เนื่องจากการชะลอตัวของชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามายังประเทศไทย ซึ่งส่งผลกระทบต่อค่าใช้จ่ายด้านการบริโภคอาหารที่มีสัดส่วนประมาณ 15% ของมูลค่าการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมดที่เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย (1.93 ล้านล้านบาทในปี 2562)

    นอกจากนี้ผลกระทบจากความกังวลต่อการแพร่ระบาด ประกอบกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจ ได้ส่งผลต่อกำลังซื้อและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในประเทศที่น่าจะมีการปรับพฤติกรรม โดยหลีกเลี่ยงการไปนั่งรับประทานอาหารในพื้นที่ที่มีความหนาแน่นสูง อาทิ ในห้างสรรพสินค้า และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ รวมถึงการลดค่าใช้จ่ายในการออกมาทานอาหารนอกบ้านอีกด้วย


    โดย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่าในปี 2563 ผู้ประกอบการธุรกิจร้านอาหารอาจต้องพบกับปัจจัยท้าทายที่เพิ่มขึ้น ทั้งการแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 ซึ่งไม่เพียงแต่ส่งกระทบต่อรายได้ค่าใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวที่หายไปแต่ยังมีผลต่อเนื่องไปถึงกำลังซื้อของผู้บริโภคในประเทศที่ได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อม

    ทั้งยังมองว่าในช่วงครึ่งแรกของปี 2563 สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19 น่าจะมีความรุนแรง และส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจค่อนข้างมาก ซึ่งหากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส และสภาวะการชะลอตัวของเศรษฐกิจมีทิศทางที่ดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีก็น่าจะช่วยให้แรงกดดันต่อธุรกิจร้านอาหารมีการผ่อนคลายลงบ้าง โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้ปรับประมาณการรายได้ของธุรกิจอาหารในปี 2563 ลงเหลือ 4.02 – 4.12 แสนล้านบาท จากคาดการณ์เดิม ณ ต้นปี 2563 ในมูลค่า 4.39 แสนล้านบาท หรือลดลง 2.65 – 3.65 หมื่นล้านบาท

    ทั้งนี้ ไวรัส Covid-19 และภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อยอดขายของร้านอาหารแต่ละประเภทในระดับที่แตกต่างกัน โดยสามารถแบ่งกลุ่มเบื้องต้นได้ดังนี้

    1. กลุ่มร้านอาหารที่น่าจะได้รับผลกระทบสูง เช่น ร้านอาหารที่มีการให้บริการเต็มรูปแบบ (Full Service Restaurant) ซึ่งเน้นการสร้างยอดขายจากการนั่งรับประทานในร้าน ทั้งในห้างสรรพสินค้า และแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าวมากที่สุด เพราะไม่เพียงแต่จะได้รับผลกระทบจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลง แต่ยังพบกับความท้าทายของผู้บริโภคภายในประเทศที่หลีกเลี่ยงการกินเลี้ยงสังสรรค์อีกด้วย

    2. กลุ่มร้านอาหารที่น่าจะได้รับผลกระทบปานกลาง เช่น ร้านอาหารที่มีการให้บริการอย่างจำกัด (Limited Service Restaurant) รวมถึงร้านอาหารที่มีการกระจายรายได้จากช่องทาง Food Delivery ถึงแม้ในช่วงครึ่งปีแรกจะได้รับผลกระทบจากยอดขายหน้าร้านเช่นเดียวกับกลุ่มแรก แต่จากการที่มีการกระจายช่องทางการขายผ่านการจัดส่งสินค้าไปยังที่พัก (Food Delivery) ทำให้เกิดการกระจายความเสี่ยงของรายได้และช่วยลดผลกระทบของยอดขายได้บางส่วน

    3. กลุ่มร้านอาหารที่น่าจะได้รับผลกระทบอย่างจำกัดเมื่อเทียบกับกลุ่มอื่น เช่น ร้านอาหารที่มีสัดส่วนรายได้จากช่องทาง Food Delivery สูง หรือ ร้านอาหารข้างทางที่สามารถซื้อกลับบ้าน (Take away) เนื่องจากร้านอาหารในกลุ่มนี้มีช่องทางการขายสินค้าที่หลากหลายทำให้อาจสามารถจำกัดผลกระทบที่เกิดขึ้นได้ดีกว่าร้านอาหารในกลุ่มอื่น นอกจากนี้ความกังวลต่อสภาวะเศรษฐกิจก็อาจส่งผลให้ผู้บริโภคในประเทศบางส่วนเปลี่ยนพฤติกรรมหันมาทานอาหารในร้านอาหารกลุ่มนี้ที่มีราคาย่อมเยากว่า

    อย่างไรก็ดีเพื่อสร้างโอกาส และลดผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้แนะแนวทางที่ผู้ประกอบการอาจปรับตัว ดังนี้

    1. เพิ่มช่องทางการขายโดยขายอาหารประเภทที่สามารถซื้อกลับบ้านได้ (Take away) หรือมีบริการจัดส่ง (Food Delivery) หรือหากร้านอาหารตั้งอยู่ในเขตที่ใกล้กับแหล่งทำงานหรือที่พักอาศัยอาจเลือกมีบริการจัดส่งให้กับลูกค้าที่สั่งอาหารเป็นกลุ่มโดยอาจปรับระบบการทำงานของพนักงานบางส่วนและเสนอเมนูอาหารที่ราคาย่อมเยาและคุ้มค่าสอดคล้องกับสถานการณ์ด้านกำลังซื้อที่อ่อนแอลง

    2. จัดตารางทำความสะอาดร้าน และอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อแสดงให้ผู้บริโภคเห็นถึงการยกระดับความสะอาดในร้าน

    3. บริหารจัดการต้นทุนโดยอาจเลือกลดการสต็อคสินค้าบางประเภทเพื่อรักษากระแสเงินสดไว้