ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ EMERGENCY OPERATION CENTER : EOC (COVID – 19) รายงานผลการสรุปจำนวนผู้โดยสารที่เดินทางผ่านเข้า – ออก ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ประจำวันศุกร์ที่ 13 มีนาคม 2563 โดยมีรายละเอียดดังนี้ (ข้อมูล ณ วันที่ 12 มี.ค. 2563 เวลา 08.00 น. – วันที่ 13 มี.ค. 2563 เวลา 08.00)
1. สรุปจำนวนเที่ยวบินทั้งสิ้น 690 เที่ยวบิน
1.1 เที่ยวบินระหว่างประเทศ จำนวน 461 เที่ยวบิน
– ขาออกจำนวน 227 เที่ยวบิน
– ขาเข้าจำนวน 234 เที่ยวบิน
1.2 เที่ยวบินภายในประเทศ จำนวน 229 เที่ยวบิน
– ขาออกจำนวน 116 เที่ยวบิน
ขาเข้าจำนวน 113 เที่ยวบิน
2. สรุปจำนวนผู้โดยสารที่เดินทางผ่านเข้า – ออก ทสภ. มีจำนวนทั้งสิ้น 70,787 คน
2.1 ผู้โดยสารระหว่างประเทศจำนวน 47,825 คน
– ผู้โดยสารขาออกจำนวน 28,446 คน
– ผู้โดยสารขาเข้าจำนวน 19,379 คน
2.2 ผู้โดยสารภายในประเทศจำนวน 22,962 คน
– ผู้โดยสารขาออกจำนวน 10,211 คน
– ผู้โดยสารขาเข้าจำนวน 12,751 คน
ทั้งนี้ ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ทสภ. ได้ดำเนินการคัดกรองผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 19,379 คน มีผู้โดยสารที่เป็นไข้ มีอุณหภูมิเกิน 37.5 องศา จำนวน 1 ราย
อนึ่ง ในวันที่ 12 มี.ค. 2563 มีเที่ยวบินที่มาจากประเทศเกาหลี จำนวน 3 เที่ยวบิน (สายการบินไทย 1 เที่ยวบิน KOREAN AIRLINES 2 เที่ยวบิน) มีจำนวนผู้โดยสารทั้งสิ้น 226 คน โดยเป็นผู้โดยสารคนไทยจำนวน 45 คน ซึ่งในจำนวนนี้มีผู้โดยสารที่เป็นแรงงานไทยที่เดินทางมาจากประเทศเกาหลี ที่มีวีซ่าการเดินทางหมดอายุ (Overstay) จำนวน 27 คน
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัส COVID-19 ในปัจจุบัน ดังนั้นเพื่อเป็นการควบคุมสถานการณ์และป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส COVID-19 ตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม 2563 ผู้โดยสารทุกท่านที่เดินทางมาจากท้องที่นอกราชอาณาจักรที่เป็นเขตโรคติดต่ออันตรายกรณีกรณีโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus Disease 2019 (COVID-19)) ในราชกิจจานุเบกษา ได้แก่ สาธารณรัฐเกาหลี สาธารณรัฐประชาชนจีน เขตบริหารพิเศษฮ่องกง เขตบริหารพิเศษมาเก๊า สาธารณรัฐอิตาลี และสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน ต้องกรอกข้อมูลในแบบฟอร์ม ต.8 ผ่าน แอพพลิเคชั่น AOT Airports ที่สามารถเก็บข้อมูลเพื่อติดตามผู้โดยสารที่เดินทางเข้ามาในประเทศผ่านทางแอปพลิเคชัน รวมทั้งสื่อสารข้อมูลเกี่ยวกับโรคโควิด 19 หากเกิดพบว่ามีการติดโรคภายหลังผ่านเข้าประเทศมาแล้วจะได้ติดตามตัวผู้ป่วยและผู้ที่เดินทางมาร่วมกันได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว