สถานการณ์ล่าสุด ณ วันที่ 9 เมษายน 2563 จากรายงานของ coronavirus.thebaselab.com เวลา 11:00 น. พบรายงานผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 อยู่ที่ 1,518,719 ราย อัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ 88,502 ราย รักษาหายแล้ว 330,589 ราย โดยสามประเทศแรกที่อยู่ในภาวะวิกฤตจากพิษโควิด-19 มากที่สุดในโลกตอนนี้จะเป็น 1.สหรัฐอเมริกา 2.สเปน 3.อิตาลี ทำให้เป็นที่น่าสนใจว่าประเทศต่างเหล่านี้ รวมถึงประเทศไทย และประเทศจีนซึ่งเป็นจุดตั้งต้นของการแพร่ระบาดนั้นมีมาตราการเยียวยาประชาชนในประเทศตัวเองอย่างไร ท่ามกลางวิกฤตใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งของโลกนี้
– ข้อมูลตัวเลขต่างๆ ที่นำเสนออยู่ในบทความนี้ นำมาจากรายงานของ coronavirus.thebaselab.com วันที่ 9 เมษายน 2563 เวลา 11:00 น.
ประเทศไทย
– ผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมรวม 2,369 ราย อยู่ในขั้นตอนการรักษา 1,451 ราย เสียชีวิต 30 ราย รักษาหายแล้ว 888 ราย มีอัตราการตายอยู่ที่ 1.27%
ในส่วนของบ้านเรานั้นหลังมีมาตรการเยียวยากลุ่มอาชีพอิสระเป็นระยะเวลา 6 เดือน ทั้งยังมีการเพิ่มอัตราบรรจุบุคลารทางการแพทย์อีกกว่า 45,684 ตำแหน่ง ฯลฯ ล่าสุดก็ได้มีการออกมาตรการขนาดใหญ่ซึ่งจะเป็นการกู้เงินกว่า 1.9 ล้านล้านบาท โดยจะมีการนำไปใช้ตั้งแต่การแจกเงินให้ผู้ได้รับผลกระทบ, ปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ, จัดตั้งกองทุนเสริมสภาพคล่องเพื่อดูแลเสถียรภาพตลาดตราสารหนี้ภาคเอกชน และจะมีรายละเอียดในการจัดสรรงบประมาณตรงนี้ไปใช้สำหรับโครงการต่างๆ อย่างชัดเจนต่อไป
ประเทศสหรัฐอเมริกา
– ผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมรวม 434,927 ราย อยู่ในขั้นตอนการรักษา 397,248 ราย เสียชีวิต 14,788 ราย รักษาหายแล้ว 22,2891 ราย มีอัตราการตายอยู่ที่ 3.4%
โดยมาตรการช่วยเหลือจากอเมริการหลังกลายมาเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ของโลกนั้น ล่าสุดประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ก็ได้ลงนามบังคับใช้กฎหมายงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ หรือเท่ากับ 10.26% จากผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ (GDP) ซึ่งแบ่งเป็นงบช่วยเหลือทั้งภาคธุรกิจ, อุตสาหกรรม, และการสนับสนุนระบบสาธารณสุข และโรงพยาบาลทั่วประเทศ
ประเทศสเปน
– ผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมรวม 148,220 ราย อยู่ในขั้นตอนการรักษา 85,407 ราย เสียชีวิต 14,792 ราย รักษาหายแล้ว 22,2891 ราย มีอัตราการตายอยู่ที่ 9.98%
หลังแซงอิตาลีขึ้นมาเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมมากที่สุดเป็นที่เรียบร้อยทางรัฐบาลสเปนก็ได้ประกาศอัดฉีดเม็ดเงินมูลค่ารวม 32 พันล้านยูโร หรือคิดเป็น 2.6% จากผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ (GDP) เพื่อนำไปจ่ายเงินค่าจ้างให้กับพนักงานที่อยู่ในภาคธุรกิจระดับ SMEs แบบเต็มจำนวน และจ่ายเป็นสัดส่วน 75% ให้กับพนักงานที่อยู่ในภาคธุรกิจที่ใหญ่กว่าระดับ SMEs พร้อมทั้งจะออกมาตรการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตครั้งนี้ในภาคครัวเรือนให้เร็วที่สุดต่อไป
ประเทศอิตาลี
– ผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมรวม 139,422 ราย อยู่ในขั้นตอนการรักษา 95,262 ราย เสียชีวิต 17,669 ราย รักษาหายแล้ว 22,2891 ราย มีอัตราการตายอยู่ที่ 12.67%
แม้สถานการณ์ของประเทศเทศอิตาลีจะดูดีขึ้นมาบ้างเล็กน้อย แต่ก็ยังคงมีอัตราการตายมากจากวิกฤตครั้งนี้อยู่ดี จนเป็นเหตุให้ทางรัฐบาลต้องประกาศใช้มตราการเยียวยาที่มีมูลค่าถึง 25 พันล้านยูโร หรือคิดเป็น 1.4% จากผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ (GDP) เพื่อนำไปจ่ายค่าจ้างให้กับแรงงานในภาคธุรกิจต่างๆ ทั่วประเทศ ทั้งยังมีการเพิ่มงบประมาณการลงทุนในระบบสาธารณสุขอีก 3.5 พันล้านยูโร
ประเทศจีน
– ผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมรวม 81,802 ราย อยู่ในขั้นตอนการรักษา 1,190 ราย เสียชีวิต 3,333 ราย รักษาหายแล้ว 77,279 ราย มีอัตราการตายอยู่ที่ 4.07%
แม้จะเป็นประเทศซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของวิกฤตการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ครั้งนี้ แต่ก็ต้องบอกว่าสามารถกลับมาฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ ทั้งในส่วนของการออกมาตรการเยียวยานั้นทางรัฐบาลและธนาคารกลางจีน (PBOC) ก็ได้มีมาตรการทั้งระดับมหภาคและมาตรการเฉพาะกลุ่มออกมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการลดดอกเบี้ยการกู้ยืมของภาคธุรกิจต่างๆ ในประเทศ, ลดการเก็บเงินทุนสำรองเพื่อเป็นค่ารักษาพยาบาลของพนักงานเอกชนลง 50% เป็นต้น