สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เผย วิกฤตไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบผู้ประกอบการ SMEs กว่า 1.33 ล้านราย โดยเฉพาะภาคบริการที่รับผลกระทบหนักสุด คิดเป็น 44% ของ SMEs ทั้งหมด แรงงานเสี่ยงตกงาน 4 ล้านคน ซึ่งหากสถานการณ์ยืดเยื้อถึงสิ้นปี SMEs อาจสูญรายได้กว่า 3.5 แสนล้านบาท
ดร.วิมลกานต์ โกสุมาศ รองผู้อำนวยการ รักษาการแทนผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า จากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการ SMEs ทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยผลกระทบทางตรงเกิดขึ้นกับกลไกสำคัญของธุรกิจได้แก่ภาคการท่องเที่ยว ซึ่งมี supply chain ต่อเนื่องไปถึงธุรกิจรายย่อยทั้งหมด ซึ่งได้แก่ ร้านอาหาร สปา ที่พักขนาดเล็ก และบริการขนส่ง รวมทั้งนักท่องเที่ยวที่บริโภคสินค้าในประเทศไทยที่ลดจำนวนลงอย่างมีนัยสำคัญจากมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคที่ออกมาอย่างต่อเนื่อง ส่วนผลกระทบทางอ้อมเกิดจาก ผู้บริโภคระมัดระวัง ลดการจับจ่ายใช้สอย และหันไปซื้อสินค้าผ่านออนไลน์แทน
SMEs ภาคบริการรับผลกระทบหนักที่สุด
ทั้งนี้ จากการสำรวจของ สสว พบว่า SMEs ในภาคบริการ ที่มีสัดส่วน 44% ของ จีดีพี SMEs ได้รับผลกระทบหนักที่สุด ไม่ว่าจะเป็นที่พัก การขนส่งคน และอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งธุรกิจเหล่านี้ได้รับผลกระทบจากมาตรการปิดสถานบริการ ร้านอาหาร และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ และประชาชนขาดความมั่นใจลดการใช้จ่ายในด้านบริการ รองลงมาเป็นภาคการค้าปลีก ซึ่งมีสัดส่วน 31.4% ของ จีดีพี SMEs และภาคการผลิต ซึ่งคิดเป็น 24.6% ของ จีดีพี SMEs
ภาคตะวันออก กลายเป็นภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบสูงสุด
นอกจากนี้ ยังพบว่าภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบของโควิด-19 สูงสุด คือ ภาคตะวันออก ซึ่งประกอบด้วย ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี สระแก้ว เนื่องจากมีธุรกิจท่องเที่ยว และการผลิตเพื่อส่งออกหนาแน่นที่สุด ส่วนภูมิภาคที่รับผลกระทบของโควิด-19 น้อยที่สุด คือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งมีสัดส่วนธุรกิจท่องเที่ยวน้อยกว่าภาคอื่น
SMEs รับผลกระทบทางลบประมาณ 1.33 ล้านราย แรงงานกว่า 4 ล้านคนเสี่ยงตกงาน
โดย จากการประเมินของ สสว. พบว่าจากวิกฤตโควิด-19 ในครั้งนี้ จะมี SMEs ที่ได้รับผลกระทบทางลบประมาณ 1.33 ล้านราย คิดเป็น 44% ของธุรกิจ SMEs ทั้งหมดในจำนวนนี้แยกเป็น ธุรกิจค้าปลีก 873,360 ราย, ร้านอาหาร เครื่องดื่ม 330,875 ราย, ที่พัก โรงแรม บริการการท่องเที่ยว 45,430 ราย, บริการขนส่ง 64,885 ราย, กีฬา นันทนาการ 18,355 ราย ซึ่งธุรกิจที่ได้รับผลกระทบทั้งหมดนี้ มีการจ้างงานประมาณ 4,088,002 คน คิดเป็น 25% ของแรงงานทั้งหมด
แรงงานที่ถูกปลด และกลับไปทำงานในภาคเกษตร ก็จะเจอกับปัญหาภัยแล้ง งานหาย เงินหาย ซึ่งส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในระบบเศรษฐกิจ ดังนั้น มาตรการช่วยเหลือจากทางรัฐบาล จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในขณะนี้ ซึ่งทาง สสว. ก็กำลังเร่งออกมาตรการต่างๆ เพื่อให้ความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง อาทิเช่น เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ การเสริมความรู้อบรมเพื่อเพิ่มทักษะ เสริมอาชีพ เป็นต้น
สำหรับความสูญเสียที่เกิดขึ้นหากวิกฤตโควิด-19 ฟื้นตัวเร็ว คือประมาณเดือนเมษายน คาดว่าภาค SMEs จะสูญเสียรายได้ประมาณ 1.2 แสนล้านบาท คิดเป็น 0.7% ของ จีดีพี SMEs แต่ถ้าสถานการณ์ยืดเยื้อออกไปถึงปลายปี คาดว่า SMEs จะสูญเสียรายได้ถึง 3.5 แสนล้านบาท คิดเป็น 2% ของ จีดีพี SMEs ดังนั้น คาดการสถานการณ์ที่ดีที่สุด จีดีพี SMEs ปีนี้จะอยู่ที่ 7.2 ล้านล้านบาท และกรณีร้ายแรงที่สุดจะอยู่ที่ 7 ล้านล้านบาท