นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค เป็นประธานร่วมกับ Dr. Daniel Kertesz ผู้แทนองค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย พร้อมด้วยผู้แทนจาก องค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน (IOM) กองเศรษฐกิจสุขภาพและหลักประกันสุขภาพ กระทรวงการต่างประเทศ องค์กรพัฒนาเอกชน (NGO partners) มูลนิธิรักษ์ไทย และมูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย ร่วมเปิดตัว “สายด่วนแรงงานข้ามชาติ” (Migrant Hotline) เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานเเละความต้องการของกลุ่มเเรงงานข้ามชาติในไทยให้เข้าถึงข้อมูลอย่างถูกต้อง เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2563
สายด่วยแรงงานข้ามชาติ 1422 มี 3 ภาษาเพื่อนบ้าน ให้ข้อมูลโควิด-19
นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวว่า จากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในประเทศไทย ทำให้เกิดความต้องการข้อมูลทางด้านสุขภาพในหลากหลายมิติ ซึ่ง “สายด่วนแรงงานข้ามชาติ” (Migrant Hotline) จะเป็นกลไกที่สำคัญสำหรับกลุ่มแรงงานที่พำนักในประเทศไทยให้สามารถเข้าถึงข้อมูลและป้องกันตนเองได้อย่างถูกต้องส่งผลให้เกิดการควบคุมโรคที่มีประสิทธิภาพ
โดยจากรายงานของกระทรวงสาธารณสุข เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2563 ที่ผ่านมา พบว่ามีแรงงานข้ามชาติ จำนวน 42 รายป่วยด้วยโรคโควิด-19 จึงสะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นในการกระจายข้อมูลข่าวสารที่เจาะจงต่อกลุ่มเเรงงานเหล่านี้ให้มากขึ้นกว่าเดิม
สำหรับ สายด่วนแรงงานข้ามชาติ (migrant hotline) จะใช้หมายเลข 1422 (สายด่วนกรมควบคุมโรค) จะเริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2563 เป็นต้นไปโดยผู้ใช้บริการสามารถโทรไปที่หมายเลขสายด่วนแล้วกดหมายเลขเพื่อเข้าสู่ระบบภาษาเพื่อบ้านที่ต้องการดังนี้
– ภาษากัมพูชา กดหมายเลข 81
– ภาษาลาว กดหมายเลข 82
– ภาษาเมียนมา กดหมายเลข 83
ซึ่งจะมีอาสาสมัครจากมูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทยเเละมูลนิธิรักษ์ไทยมาช่วยตอบคำถามผ่านสายด่วนนี้
ด้าน Dr. Daniel กล่าวว่า องค์การอนามัยโลกได้ร่วมดำเนินงานกับกระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาอย่างต่อเนื่อง ผ่านศักยภาพกลุ่มเจ้าหน้าที่หลักขององค์กรพัฒนาเอกชนไทย (Thai NGOs) ให้เป็นครู ก. เพื่อให้สามารถสอนแรงงานข้ามชาติจากประเทศเพื่อนบ้านทั้ง 3 ประเทศ คือ กัมพูชา ลาว และเมียนมา ซึ่งคิดว่าสายด่วนนี้จะสามารถลดปัญหาการไม่ได้รับข้อมูลข่าวสาร และหลักประกันต่าง ๆ แก่เหล่าแรงงานข้ามชาติได้ดีขึ้น