Wednesday, September 27, 2023
More

    คาร์บอนไดออกไซด์จากการคมนาคมทั่วโลก ลดลง 36% ผลจากการล็อกดาวน์

    ท่ามกลางสถานการณ์การระบาดของโรค COVID-19 ที่ทำให้หลายประเทศทั่วโลกต้องออกมาตรการปิดเมือง หรือการล็อกดาวน์ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส ส่งผลให้การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ทั่วโลกลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

    คณะนักวิจัยนานาชาติ ในโครงการคาร์บอนโลก (Global Carbon Project) ซึ่งประกอบด้วยนักวิจัยจากออสเตรเลีย สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา และศูนย์วิจัยภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมระหว่างประเทศ ได้เผยแพร่ผลการวิจัยดังกล่าวในเว็บไซต์ www.nature.com โดยระบุว่า ในช่วงต้นเดือนเมษายน 2020 การปล่อย CO2 รายวันในทั่วโลกลดลง –17% (–11 ถึง –25%) เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยในปี 2019


    ผลของการล็อกดาวน์ คือการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

    ในการเผยแพร่ผลการวิจัยได้ระบุไว้ว่า ผลของการล็อกดาวน์ คือการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ โดยการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์รายวันทั่วโลก ลดลงเฉลี่ยอยู่ที่ 17% ในวันที่ 7 เมษายน 2020

    โดยการเปลี่ยนแปลงของการปล่อยมลพิษในวันดังกล่าว เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุด จากการประเมินระหว่างวันที่ 1 มกราคม – 30 เมษายน 2020 ขณะที่การประเมินในแต่ละประเทศ มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลดลงสูงสุดเฉลี่ย 26% ซึ่งการลดลงสูงสุดต่อวันของแต่ละประเทศไม่ได้เกิดขึ้นในวันเดียวกัน

    สัญจรด้วยพาหนะที่ลดลง เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้การปล่อยก๊าซคาร์บอนลดลง

     จากผลการศึกษาการบันทึกค่าคาร์บอนไดออกไซต์ใน 69 ประเทศ, 50 รัฐในสหรัฐอเมริกา และอีก 30 มณฑลของจีน ซึ่งมีประชากรรวมกันมากถึง 85% ของประชากรทั้งโลก และอัตราการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์มาก 97% ของทั้งโลก

    โดยสำรวจจาก 6 ภาคอุตสาหกรรม ได้แก่ 1.พลังงาน 44.3% (ของการปล่อย CO2 ฟอสซิลทั่วโลก) 2.อุตสาหกรรม 22.4% 3.การขนส่งทางพื้นผิว 20.6%, 4.อาคารสาธารณะและการพาณิชย์ 4.2% 5.ที่อยู่อาศัย 5.6% และ 6.การบิน 2.8%

    ซึ่งเมื่อพิจารณารายละเอียดพบว่า การสัญจรด้วยพาหนะที่ลดลงจากมาตรการล็อกดาวน์เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้การปล่อยก๊าซคาร์บอนลดลง จากกิจกรรมด้านคมนาคมภาคพื้นลดลงราว 50%

    การปล่อยก๊าซคาร์บอนจากการคมนาคม ลดลง 36%

    ขณะที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการคมนาคม ลดลงที่ 36% ซึ่งมีส่วนที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของภาพรวมการปล่อยมลพิษใหญ่ที่สุด ตามมาด้วย ในภาคพลังงานลดลง 19% และภาคอุตสาหกรรมลดลง 4.3%

    ซึ่งการปล่อยมลพิษจากการคมนาคมทางพื้นผิว ภาคพลังงาน และอุตสาหกรรมเป็นภาคส่วนที่มีการปล่อยมลพิษสูงสุด คิดเป็น 86% ของการปล่อยมลพิษทั่วโลก

    ส่วนภาคอุตสาหกรรมการบินทั่วโลก มีการปล่อยคาร์บอนลดลง 60% ในช่วงต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา

    คาดการปล่อยก๊าซคาร์บอนจะลดลง 4.2% หากทั่วโลกยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ในช่วงกลางเดือนหน้า

    นอกจากนี้ในรายงานยังมีการคาดการณ์ ระบุว่า หากทั่วโลกยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ในช่วงกลางเดือนมิถุนายนนี้ การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จะลดลงที่ 4.2% แต่หากมีการล็อกดาวน์จนถึงปลายปี การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของปี 2020 จะลดลงที่ 7.5%