Thursday, December 8, 2022
More

    คมนาคมเผยคืบหน้าการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม เร่งทุกหน่วยงานให้เสร็จตามกำหนด

    คมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้าการพัฒนาระบบจัดเก็บค่าโดยสารอัตโนมัติ (AFC)

    การประชุมนำโดยกระทรวงคมนาคมและหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง

    คณะกรรมการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม ได้ประชุมติดตามความคืบหน้าและแนวทางการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม โดยนายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธานการประชุม และนายพิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน รองปลัดกระทรวงคมนาคม โดยมีหน่วยงานต่าง ๆ เข้าร่วมดังนี้


    ผู้แทนกรมเจ้าท่า (จท.)

    กรมการขนส่งทางบก (ขบ.)

    กรมทางหลวง (ทล.)

    สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.)

    การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)

    บริษัท รถไฟฟ้า ร... จำกัด (รฟฟท.)

    การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.)

    การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.)

    องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.)

    บริษัทขนส่งจำกัด

    บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BEM)

    บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BTS)

    สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ

    สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะธนาคารแห่งประเทศไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม

    สนข.ชี้แจงการจัดทำระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบริหารจัดการตั๋วร่วมแล้ว

    ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้าว่า ล่าสุด สนข. ได้ไปร่วมชี้แจงรายละเอียดการจัดทำระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบริหารจัดการตั๋วร่วม พ.. …. ต่อสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้วซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับร่างระเบียบฯและจะส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาต่อไป

    ส่วนความคืบหน้าการพัฒนาระบบจัดเก็บค่าโดยสารอัตโนมัติ (AFC) ของระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนให้สามารถใช้บัตรโดยสารข้ามระบบ (Interoperable Ticketing System) นั้น รฟม. อยู่ระหว่างพิจารณาดำเนินการจัดทำคำสั่งเปลี่ยนแปลงงาน (Variation Order: VO) คาดว่าจะสามารถลงนามได้ในเดือนสิงหาคม 2563 และจะนำเสนอคณะกรรมการ รฟม. พิจารณาให้เร็วที่สุด

    โดยการพัฒนาระบบจัดเก็บค่าโดยสารอัตโนมัติ (AFC) ของระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนให้สามารถใช้บัตรโดยสารข้ามระบบจะใช้เวลาดำเนินการ 8 เดือน คาดว่าจะเริ่มปฏิบัติงานได้ภายในเดือนกันยายน 2563

    สำหรับ BTS ขณะนี้ได้ลงนามในสัญญาว่าจ้างพัฒนาระบบฯ แล้วเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2563 คาดว่าจะพัฒนาระบบฯ แล้วเสร็จภายในเดือนตุลาคม 2563 และทดสอบระบบได้ภายในเดือนพฤศจิกายน 2563 ซึ่งการทดสอบระบบระหว่างกันจะใช้เวลาประมาณ 1 – 2 เดือน

    ในส่วนของการกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมการใช้บัตรโดยสารข้ามระบบ ขณะนี้ สนข. อยู่ระหว่างดำเนินการรวบรวมข้อมูลเพื่อศึกษาวิเคราะห์อัตราค่าธรรมเนียมการใช้บัตรโดยสารข้ามระบบที่เหมาะสม คาดว่าจะนำเสนอคณะกรรมการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วมได้ภายในเดือนกันยายน 2563

    รฟฟท. ว่าจ้างพัฒนาระบบจัดเก็บค่าโดยสารอัตโนมัติ

    ด้านความคืบหน้าการดำเนินงานเกี่ยวกับระบบตั๋วร่วมนั้น ขณะนี้ รฟฟท. ได้ว่าจ้างพัฒนาระบบจัดเก็บค่าโดยสารอัตโนมัติ (AFC) รองรับโครงการตั๋วร่วมซึ่งผู้รับจ้างยังไม่สามารถส่งมอบแผนงานและส่งมอบงานจ้างพัฒนาระบบฯได้ตามสัญญาและยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ

    โดยผู้รับจ้างอ้างว่าประสบปัญหาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ซึ่งที่ประชุมได้มีมติให้ รฟฟท. เร่งรัดให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด และให้ดำเนินการต่าง ๆ โดยยึดสัญญาเป็นหลัก

    ขณะที่ จท. ได้ดำเนินการพัฒนาท่าเรือที่อยู่ในความรับผิดชอบ จำนวน 17 ท่า ซึ่งปัจจุบันมีท่าเรือที่ปรับปรุงแล้วเสร็จ จำนวน 8 ท่า พร้อมรองรับการดำเนินการพัฒนาระบบตั๋วร่วม ทั้งนี้ หากผู้ประกอบการรายใดมีความพร้อมดำเนินการ จท. พร้อมจะสนับสนุน

    อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการฯ ได้กำชับให้หน่วยงานต่าง ๆ เร่งรัดดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องให้เป็นไปตามแผนงานที่กำหนด โดยยึดถือข้อกฎหมายเป็นสำคัญ