สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ร่วมกับมูลนิธิพัฒนาไท (มพท.) และวุฒิอาสาธนาคารสมองภาคตะวันออก จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการเรื่อง “วุฒิอาสาธนาคารสมองภาคตะวันออก เสริมพลังสร้างเครือข่าย จากเมืองยั่งยืนสู่สังคมเสมอภาคและเท่าเทียม”
ผู้สูงวัยร่วมเป็นวุฒิอาสาฯ พัฒนาภาคตะวันออกสู่ความยั่งยืน
เพื่อส่งเสริมบทบาทวุฒิอาสาฯ ในการร่วมพัฒนาประเทศ สร้างและขยายเครือข่ายการทำงานร่วมกับ ภาคีเครือข่ายการพัฒนาภาคตะวันออกกับหน่วยงานต่าง ๆ ตลอดจนจัดทำแผนปฏิบัติการการพัฒนาพื้นที่ภาคตะวันออก ในประเด็นร่วม “จากเมืองน่าอยู่สู่การท่องเที่ยวชุมชนบนวิถีใหม่” และ “การเรียนรู้บนฐานชุมชน : ทางรอดของชุมชนตะวันออก”
โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมประมาณ 100 คน ณ สำนักงานสวนพฤกษศาสตร์ อ.แกลง จ.ระยอง พร้อมลงพื้นที่ศึกษาการท่องเที่ยวชุมชนวิถีใหม่คลองลาวน และบึงสำนักใหญ่สวนพฤกษศาสตร์ อ.แกลง จ.ระยอง เพื่อรับฟังข้อเท็จจริง ปัญหา และการทำงานร่วมกันของกลุ่มผู้ประกอบการท่องเที่ยวชุมชน รวมทั้งให้ข้อคิดเห็น และข้อเสนอแนะการเพิ่มศักยภาพการท่องเที่ยวชุมชน เพื่อสร้างรายได้ สร้างอาชีพ มีคุณภาพชีวิตที่ดี และความยั่งยืนของชุมชนต่อไป
“วุฒิอาสาธนาคารสมอง” แนวทางดันผู้สูงอายุพัฒนาประเทศ
ซึ่งการประชุมในครั้งนี้จะเป็นเวทีในการหารือและระดมความคิดเห็นการปรับเปลี่ยนและพัฒนากระบวนการขับเคลื่อนงานให้ภาคตะวันออกเป็นวิถีแห่งความสุข เกิดความสมดุล สามารถแก้ไขปัญหา ตั้งรับ และปรับตัวให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลง เพื่อสร้างฐานวิถีชีวิตใหม่ (New Normal) ที่เป็นภูมิคุ้มกันให้แก่ประเทศ
โดยมีการกล่าวเปิดการประชุมว่า สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้พระราชทานแนวทางการนำผู้สูงอายุมาเป็นพลังอาสาในการพัฒนาประเทศ ในฐานะ “วุฒิอาสาธนาคารสมอง” ตั้งแต่ปี 2543 และคณะรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ สศช. เป็นหน่วยทะเบียนกลาง ทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้ทรงภูมิปัญญาท้องถิ่น และประสานและเชื่อมโยงภาคีเครือข่ายการพัฒนาเพื่อนำวุฒิอาสาฯ ร่วมขับเคลื่อนงานเพื่อประโยชน์ส่วนรวม โดยมีมูลนิธิพัฒนาไทเป็นผู้สนับสนุน และอำนวยความสะดวกการทำงานให้แก่วุฒิอาสาฯ ซึ่งปัจจุบันมีวุฒิอาสาฯ เกือบ 5,300 คน
ฉะเชิงเทราพื้นที่นำร่อง “ปฏิบัติการแห่งการเรียนรู้ (SDGs Lab)”
ทั้งที่ปรึกษาฯ ยังกล่าวต่อไปว่า ตลอดระยะเวลา 20 ปีวุฒิอาสาฯได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนงานตามยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศและผลักดันให้เกิดการปฏิบัติอย่างจริงจังในทุกพื้นที่ของประเทศ
และการเป็นตัวกลางในการประสานงาน หนุนเสริมการแปลงนโยบายการพัฒนาประเทศ และเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDGs) สู่การปฏิบัติและเชื่อมโยงภาคีเครือข่ายอย่างมีส่วนร่วมและบูรณาการทั้งภาครัฐภาคเอกชนประชาสังคมและชุมชน
ซึ่งมีจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นพื้นที่นำร่อง “ปฏิบัติการแห่งการเรียนรู้ (SDGs Lab)” ซึ่งเป็นการพัฒนาสู่ความยั่งยืนที่ยึดหลักการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ผ่านกลไกวุฒิอาสาฯ และขยายผลการขับเคลื่อนจากระดับจังหวัดสู่ระดับภาค ที่สอดรับกับความต้องการของคนในชุมชน และพื้นที่อย่างแท้จริง