Institute for Health Metrics and Evaluation (IHME) องค์กรวิจัยอิสระด้านสุขภาพที่วิทยาลัยการแพทย์ มหาวิทยาลัยวอชิงตัน เผยคาดการณ์สถานการณ์โควิด-19 รายประเทศ
การสวมหน้ากากอนามัย อาจช่วยชาวโลกจากโควิด-19 เกือบ 7.7 แสนคน
เริ่มจากคาดการณ์ยอดผู้เสียชีวิตสะสมจนถึง 1 มกราคม 2564 พบว่าอยู่ที่ 2.8 ล้านคน เพิ่มขึ้นราว 1.9 ล้านรายนับจากระหว่างนี้จนถึงสิ้นปี โดยยอดผู้เสียชีวิตในเดือนธันวาคมอาจสูงถึง 30,000 รายต่อวัน โดยเฉพาะในยุโรป เอเชียกลาง และสหรัฐฯ โดยได้มีการคาดการณ์ว่าสถานการณ์โควิด-19 ทั่วโลกเอาไว้ 3 กรณีดังนี้
– “กรณีที่เลวร้าย” ด้วยอัตราการสวมหน้ากากเท่ากับในปัจจุบัน และรัฐบาลต่าง ๆ ยังคงผ่อนปรนมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคม จะนำไปสู่ยอดผู้เสียชีวิตรวม 4 ล้านคนในสิ้นปีนี้
– “กรณีที่ดีที่สุด” มียอดผู้เสียชีวิตรวม 2 ล้านคนถ้ามีการสวมหน้ากากเกือบทุกคนและรัฐบาลต่างๆบังคับใช้มาตรการรักษาระยะห่างทางสังคม
– “กรณีที่มีแนวโน้มจะเกิดที่สุด” จากข้อสันนิษฐานว่าการสวมหน้ากากของประชาชนและมาตรการรับมืออื่น ๆ ยังคงเป็นเหมือนเดิม ซึ่งจะทำให้มียอดผู้เสียชีวิตโดยรวมราว 2.8 ล้านคน
โดยผลวิจัยชี้ชัดว่ามาตรการต่าง ๆ อย่างเช่นการสวมหน้ากาก การรักษาระยะห่างทางสังคม และจำกัดการพบปะสังสรรค์ อาจช่วยชีวิตคนได้เกือบ 770,000 คนทั่วโลก ทั้งกรณีแต่ละรูปแบบนี้มีการเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับยอดผู้เสียชีวิตโดยรวมในปัจจุบัน ซึ่งประมาณไว้ว่ามีทั้งหมดเกือบ 910,000 รายทั่วโลก และการเพิ่มขึ้นดังกล่าวนี้ ส่วนหนึ่งมาจากการเพิ่มขึ้นตามฤดูกาลของผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในซีกโลกเหนือ
เพราะจนถึงปัจจุบันโควิด-19 ยังคงมีรูปแบบเชิงฤดูกาลที่คล้ายคลึงกับโรคปอดบวม ซึ่งจะแพร่กระจายได้ดีกว่าในสภาพอากาศหนาวเย็น และถ้ายังคงเป็นเช่นนั้นต่อไป ประเทศในซีกโลกเหนืออาจต้องเตรียมรับมือกับยอดผู้เสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นในช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วง และในช่วงฤดูหนาว
คาดภูมิภาคอเมริกาจะมีอัตราผู้เสียชีวิตต่อจำนวนประชากรสูงที่สุด
จากกรณีประมาณการของ IHME ที่มีแนวโน้มเกิดขึ้นมากที่สุด พบว่าประเทศที่มีอัตราผู้เสียชีวิตต่อจำนวนประชากรสูงที่สุดได้แก่ หมู่เกาะเวอร์จินของสหรัฐ เนเธอร์แลนด์ และสเปน โดยหากพิจารณาตามการแบ่งภูมิภาคขององค์การอนามัยโลกแล้ว กรณีประมาณการนี้คาดว่าในวันที่ 1 มกราคม 2564 จะมียอดผู้เสียชีวิตรวมในภูมิภาคต่าง ๆ ดังนี้
– ภูมิภาคอเมริกา 959,685 ราย
– ภูมิภาคยุโรป 667,811 ราย
– ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 738,427 ราย
– ภูมิภาคแปซิฟิกตะวันตก 191,598 ราย
– ภูมิภาคเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก 168,711 ราย
– ภูมิภาคแอฟริกา 79,583 ราย
โดย IHME ยังได้แนะนำว่า เราต้องเรียนรู้จากผู้นำประเทศต่าง ๆ ที่สามารถควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 หรือที่มีการระบาดระลอกที่สอง และประเทศที่มีการรับมืออย่างทันท่วงทีจนทำให้ช่วยลดการเสียชีวิตไว้ได้
ทั้งย้ำเตือนว่าไม่ให้ใช้ยุทธศาสตร์ที่เรียกว่า “ภูมิคุ้มกันหมู่” (herd immunity) ซึ่งหมายถึงภูมิคุ้มกันหมู่ที่เกิดขึ้นหลังจากประชากรจำนวนมากมีภูมิคุ้มกันต่อโควิด-19 จากการติดเชื้อและหายจากโรคแล้ว และการประมาณการครั้งแรกของโลกเช่นนี้เป็นโอกาสในการเน้นย้ำปัญหาของยุทธศาสตร์ภูมิคุ้มกันหมู่ซึ่งละเลยทั้งหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ และศีลธรรม ด้วยการปล่อยให้หลายล้านชีวิตต้องถูกคร่าไปทั้งที่หลีกเลี่ยงได้ อันเป็นสิ่งที่เลวร้ายและน่าตำหนิ