เปิดแนวทางการจัดระเบียบพื้นที่และจัดระเบียบการค้าบนทางเท้า ซึ่งส่งผลกระทบต่อการประกอบอาชีพของผู้ค้าหาบเร่และแผงลอยในกรุงเทพมหานครของ กทม. และหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง หลังครม.มีมติเห็นชอบข้อเสนอ ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2563
เร่งเจรจากับเจ้าของตลาด เพื่อให้รองรับผู้ค้าหาบเร่แผงลอย 12,809 ราย
เริ่มจากมาตรการระยะเร่งด่วน (1-6 เดือน) เช่น
1.ให้ทุกสำนักงานเขตที่จะยกเลิกจุดผ่อนผัน นำเรื่องเข้าสู่การพิจารณายกเลิกของคณะกรรมการจัดระเบียบหาบเร่และแผงลอยระดับเขต โดยจัดหาสถานที่รองรับผู้ค้าให้สามารถประกอบอาชีพต่อไปในพื้นที่หรือตลาดของราชการและเอกชนที่อยู่ในพื้นที่ขายเดิม พร้อมทั้งช่วยเจรจากับเจ้าของตลาดดังนี้
– ยกเว้นเงินกินเปล่า
– ยกเว้นค่าเช่า 3-6 เดือนแรก
– คิดค่าเช่าค่าสาธารณูปโภคในอัตราที่ต่ำสุด
– ให้เช่าในระยะยาวพอสมควร เพื่อให้สามารถรองรับผู้ค้าหาบเร่แผงลอยได้ 12,809 ราย
2.สำนักพัฒนาชุมชนได้จัดทำโครงการส่งเสริมผลิตภัณฑ์ Bangkok Brand สู่ Online
3.จัดโครงการถนนคนเดิน (Walking Street) ในบางแห่งไปแล้ว เพื่อช่วยเหลือผู้ค้าที่ได้รับผลกระทบจากการจัดระเบียบ แต่ด้วยสถานการณ์โควิด-19 จึงจำเป็นต้องเลื่อนแผนการจัดในเขตอื่น ๆ ออกไป
เจรจาขอใช้พื้นที่ว่างของหน่วยงานต่าง ๆ พัฒนาเป็นพื้นที่การค้าสำหรับหาบแร่แผงลอย
มาตรการระยะกลาง (6-12 เดือน) เช่น
1.แต่งตั้งคณะกรรมการระดับนโยบายและคณะกรรมการระดับพื้นที่เพื่อพิจารณาจุดผ่อนผัน
2.พิจารณาจุดผ่อนผันในพื้นที่ว่างของหน่วยงานภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ ซึ่งขณะนี้ กทม.อยู่ระหว่างการเจรจาขอใช้พื้นที่ว่างของ
– การทางพิเศษแห่งประเทศไทย
– การรถไฟแห่งประเทศไทย
– การท่าเรือแห่งประเทศไทย
– กรมธนารักษ์
และพื้นที่อีกหลายแห่ง หากหน่วยงานดังกล่าวอนุญาตจะเร่งรัดดำเนินการพัฒนาเป็นพื้นที่การค้าสำหรับผู้ค้าที่ได้รับผลกระทบจากการจัดระเบียบ และผู้มีรายได้น้อยและผู้ด้อยโอกาส
เตรียมออกแบบแผงค้าหรืออุปกรณ์การค้าให้มีอัตลักษณ์โดดเด่นตามแต่ละพื้นที่
มาตรการระยะยาว (1-3 ปี) เช่น
1.พิจารณาปรับปรุงแก้ไขกฎหมายพร้อมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ พ.ร.บ.รักษาความสะอาดความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2560 พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ.2535 เป็นต้น
2.ดำเนินการปรับภูมิทัศน์ที่มีเอกลักษณ์ซึ่งเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเช่นถนนข้าวสารซึ่งดำเนินการเสร็จแล้วและจะขยายไปยังพื้นที่อื่นเช่น
– ถนนไกรสีห์
– ถนนตานี
– ถนนรามบุรี
– ท่าน้ำวังหลัง
พร้อมทั้งออกแบบแผงค้าหรืออุปกรณ์การค้าให้มีอัตลักษณ์โดดเด่นตามแต่ละพื้นที่
3.ออกประกาศหลักเกณฑ์เงื่อนไขการกำหนดพื้นที่ทำการค้าหรือขายสินค้าในพื้นที่สาธารณะ ลงวันที่ 28 มกราคม 2563 โดยกำหนดแนวทาง และวิธีการจัดทำประชาพิจารณ์ หรือสำรวจความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่อการค้าหาบเร่แผงลอย จำนวน 4 กลุ่ม ที่อยู่ในรัศมี 400 เมตรคือ
– ผู้ใช้ทางเท้า
– ผู้ที่อยู่อาศัยบริเวณนั้น
– ผู้มีสถานที่ทำงานบริเวณนั้น
– เจ้าของอาคารผู้ประกอบการบริเวณนั้น
โดยให้สถาบันการศึกษาหรือสำนักงานเขตพื้นที่เป็นผู้ดำเนินการ ทั้งนี้การดำเนินการตามข้อเสนอเชิงนโยบายดังกล่าวเป็นการเสริมสร้างเศรษฐกิจฐานราก และเป็นมาตรการรองรับเพื่อสร้างสมดุลแก่ผู้ค้าหาบเร่แผงลอยให้สามารถประกอบอาชีพต่อไปได้ ควบคู่ไปกับการที่ประชาชนสามารถใช้พื้นที่สาธารณะได้อย่างปลอดภัย และยังคงเสน่ห์อาหารริมทาง (สตรีทฟู้ด) ของกรุงเทพมหานครเอาไว้ได้อย่างดี