ผลสำรวจผู้บริโภค 80,000 คน ทั้งในยุโรป ลาตินอเมริกา สหรัฐอเมริกา และเอเชียของ Kantar พบว่าสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลให้ผู้บริโภคสนใจผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น พบมี “ลูก” เป็นแรงผลักดันสำคัญ
โควิด-19 ส่งผู้บริโภค 1 ใน 5 มีนิสัยที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
ซึ่งการสำรวจยังพบว่าโควิด-19 ได้ส่งผลให้กระแสความสนใจเกี่ยวกับการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมได้รับความสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยพบว่าการใช้จ่ายเงิน 1 ใน 5 ดอลลาร์ ของคนที่ซื้อสินค้า FMCG มาจากผู้บริโภคที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม และหากมองย้อนกลับไปตั้งแต่ปี 2019 จะพบว่าเทรนด์การบริโภคที่เน้นการลดขยะพลาสติก สนใจผลิตภัณฑ์ที่มาจากธรรมชาติ หรือผลิตภัณฑ์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย (Eco-Active) มีจำนวนเพิ่มขึ้นมาจาก 16% เป็น 20%
และผู้บริโภค 1 ใน 5 มีนิสัยที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ทั้งมีกว่าร้อยละ 87.5 มองการซื้อสินค้าที่มีการใช้บรรจุภัณฑ์ลดลงเป็นส่วนสำคัญมากขึ้น
ผู้บริโภคกว่าร้อยละ 50 เผยว่า “ลูก” คือปัจจัยสำคัญที่ทำให้เปลี่ยนพฤติกรรมมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
โดยความน่าสนใจอย่างหนึ่งที่สรุปออกมาจากการสำรวจพบว่า ผู้ที่มีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคทั่วโลก ให้หันมาใส่ใจกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้นคือ “ลูก” ซึ่งอยู่ที่กว่าร้อยละ 50 ตามด้วยเพื่อน 43% และคู่ชีวิต 41%
ตลาดของกลุ่มคน Eco-Active ทั่วโลก มีมูลค่าถึง 3.82 แสนล้านดอลลาร์
ด้านตลาดของกลุ่มคนสนใจผลิตภัณฑ์ที่มาจากธรรมชาติ หรือผลิตภัณฑ์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย (Eco-Active) ทั่วโลก พบมีมูลค่าถึง 3.82 แสนล้านดอลลาร์ (ประมาณ 11.93 ล้านล้านบาท) โดยผู้บริโภคกว่า 37% มองว่าผู้ผลิตมีความสำคัญมากที่สุดในการป้องกันปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม และมีผู้บริโภค 22% ที่มองว่าผู้ผลิตมีผลงานในการดูแลสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน เกิดเป็นอีกช่องทางให้ผู้ผลิตสินค้า หรือแบรนด์ต่าง ๆ หันมาให้ความสนใจผู้บริโภคกลุ่ม Eco-Active ที่กำลังมีจำนวน และมูลค่าตลาดมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ทั้งในเชิงธุรกิจ และสิ่งแวดล้อม
