TraXasia รายงานที่ครอบคลุมและขับเคลื่อนข้อมูลภาคการท่องเที่ยวที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว เผยรายงานแนวโน้มนักท่องเที่ยวประจำไตรมาสสุดท้ายในปี 2563
ภาคการท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชีย พร้อมกลับมาเติบโตอีกครั้ง
ภาคการท่องเที่ยวเป็นหนึ่งปัจจัยในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญสำหรับประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวเดินทางในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สูงขึ้นตลอดหลายปี และดูเหมือนว่าการท่องเที่ยวในภูมิภาคนี้ พร้อมที่จะกลับมาเติบโตอีกครั้ง เนื่องจากการท่องเที่ยวในระยะใกล้จะเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยในช่วงการฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดทั่วโลก
เผยข้อมูลด้านการท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชีย
ข้อมูลด้านการท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชียปี 2562 สัดส่วนของจีดีพี รายได้การท่องเที่ยว การใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว รวมถึงมีการเดินทางของนักท่องเที่ยวขาเข้า ดังนี้
5 ประเทศสัดส่วนต่อจีดีพี ดีที่สุด
1. มาเก๊า 72.0%
2. มัลดิีฟส์ 66.1%
3. กัมพูชา 32.7%
4. ฟิลิปปินส์ 24.6%
5. ไทย 21.9%
5 ประเทศรายได้จากการท่องเที่ยวมากที่สุด (พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)
1. จีน 1593.3
2. ญี่ปุ่น 375.4
3. อินเดีย 268.3
4. ไทย 114.9
5. ฟิลิปปินส์ 86.5%
5 ประเทศการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติสูงสุด (พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)
1. จีน 132.9
2. ไทย 73.3
3. ฮ่องกง 45.4
4. ญี่ปุ่น 44.7
5. มาเก๊า 37.4
5 อันดับประเทศที่มีนักท่องเที่ยวขาเข้ามาที่สุด
1. มัลดีฟส์ 96.8%
2. มาเก๊า 91.9%
3. ฮ่องกง 69.6%
4. ไทย 63.8%
5. ไต้หวันและสิงคโปร์ 58.3%
Gen-Z พร้อมเดินทางในต่างประเทศอีกครั้งพบ 51% ตั้งใจอยากที่จะชอปปิงมากที่สุด
ก่อนการระบาดในช่วงวันหยุดยาว Golden Week ต้นเดือนตุลาคม มีนักท่องเที่ยวชาวจีนออกมาเดินถึง 637 ล้านคน ซึ่งแฟลตฟอร์มการจองโรงแรม Ctrip เปิดเผยว่า ภาคการท่องเที่ยวฟื้นตัวถึง 70-80% ข้อมูลนี้ทำให้เห็นว่าจุดประสงค์หลักของนักท่องเที่ยวที่มีความต้องการเดินทางไปต่างประเทศหากมีการกลับมาเปิดพรมแดนอีกครั้ง
ส่วนนักท่องเที่ยวในกลุ่ม Gen-Z ถึง 41% เผยว่า พร้อมที่จะเดินทางท่องเที่ยวในต่างประเทศ โดย 51% มีความตั้งใจที่จะได้ชอปปิง ด้านองค์การการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ (UNWTO) ระบุว่า จีนเป็นหนึ่งในประเทศนักท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุด โดยคิดเป็นเกือบ 1/5 ของการท่องเที่ยวระหว่างประเทศทั่วโลก
เวียดนาม มาเลเซีย ไทย 3 ประเทศที่คาดว่ามีการฟื้นในไตรมาสสุดท้ายของปี 63 มากที่สุด
หลายประเทศอยู่ระหว่างพิจารณาทำการท่องเที่ยวแบบไม่กักกัน (Travel Bubble) ซึ่งผลสำรวจพบว่า ประเทศและจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวชั้นนำที่คาดว่าจะมีการฟื้นตัวในไตรมาสที่ 4 ของปี 63 มากที่สุดได้แก่
1. เวียดนาม: โฮจิมินห์ ฮานอย ดานัง
2. มาเลเซีย: กัวลาลัมเปอร์ ปีนัง โคตาคินาบาลู
3. ไทย: กรุงเทพฯ ภูเก็ต เชียงใหม่
ขณะเดียวกันนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีใต้ยังสนใจเดินทางในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีใต้ ถือเป็นตลาดนักท่องเที่ยวขนาดใหญ่อันดับสองรองจากจีน แต่นักท่องเที่ยวชาวเกาหลีชอบเดินทางด้วยตนเองมากกว่าเที่ยวในรูปแบบทัวร์ และเลือกที่เที่ยวตามสถานที่ธรรมชาติ ทำกิจกรรมพักผ่อนหย่อนใจ