สำหรับคนที่มีบัตรเครดิต และยังบริหารเงินไม่ค่อยเป็นก็อาจจะประสบปัญหารูดบัตรเครดิตเพลินเกินไปจนทำให้เป็นหนี้ท่วมท้นได้ แต่ที่แย่ไปกว่านั้นก็คือ เราไม่เพียงแต่จะก่อหนี้ขึ้นมาเท่านั้น แต่เรายังต้องเสียดอกเบี้ยอีกด้วย ซึ่งหนึ่งในวิธีการปิดหนี้บัตรเครดิตที่จะไม่ทำให้ดอกเบี้ยของคุณเพิ่มพูนไปเรื่อยๆ ก็คือการกู้เงินปิดบัตรเครดิต แต่ต้องบอกก่อนว่าการกู้เงินปิดบัตรเครดิตนั้นอาจจะไม่ได้เหมาะกับทุกคน ซึ่งในบทความนี้เราก็อยากจะมาแนะนำว่าการกู้เงินปิดบัตรนั้นเหมาะกับใครบ้าง และถ้าหากอยากปิดหนี้บัตรเครดิตให้เร็วที่สุดจะต้องทำอย่างไรบ้าง ในบทความนี้เราจะมาแนะนำเทคนนิคดีๆ ให้ทุกคนได้อ่านกัน ไปติดตามกันเลย
กู้เงินปิดบัตรเครดิตดีไหม?
ดี…ถ้าหากคุณมีบัตรเครดิตหลายใบ และดอกเบี้ยของคุณไม่ได้เกิดจากการที่คุณค้างชำระหนี้เยอะๆ โดยอาจเกิดจากการที่คุณใช้จ่ายไม่ถึงขั้นต่ำ หรือบัตรนั้นๆ มีดอกเบี้ยที่สูงแล้ว การกู้เงินมาปิดบัตรของคุณก็เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ
ไม่ดี…ถ้าหากดอกเบี้ยนั้นเกิดจากการที่คุณชำระหนี้ไม่ตรงเวลา และค้างชำระหนี้ไว้หลายๆ เดือน ไม่มีระเบียบในการบริหารจัดการเงิน เพราะต่อให้คุณขอสินเชื่อเพื่อกู้เงินปิดบัตรเครดิต ก็เป็นไปได้ยากมากที่คุณจะได้รับการอนุมัติ แถมยังเป็นการสร้างนิสัยการใช้เงินแบบไม่เป็นระเบียบอีกด้วย
อยากปิดหนี้บัตรเครดิตเร็วต้องทำอย่างไร?
- ไม่สร้างหนี้ใหม่
ถ้าหากคุณไม่อยากกู้เงินปิดบัตรเครดิต อย่างแรกเลยที่คุณควรทำก็คือการหยุดสร้างหนี้ใหม่ ขึ้นมา เพราะหากคุณยิ่งรูดบัตรเพื่อใช้เงินเพิ่ม หนี้ของคุณก็จะเพิ่มไปอีกแบบไม่จบสิ้น - จ่ายมากกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำ
หากคุณต้องการปลดหนี้บัตรเครดิตอย่างรวดเร็ว คุณก็จำเป็นต้องจ่ายเงินมากกว่าขั้นต่ำ ลองหาวิธีการประหยัดค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันให้มากขึ้น เพื่อที่คุณจะได้นำเงินในส่วนนั้นมาชำระหนี้ให้หมดเร็วที่สุด - เจรจากับทางสถาบันการเงิน
หากคุณไม่อยากกู้เงินปิดบัตรเครดิต อีกวิธีหนึ่งที่สามารถทำได้ก็คือการเจรจากับทางสถาบันการเงินว่าสามารถช่วยเหลืออย่างไรได้บ้าง เช่น การลดดอกเบี้ย การยืดระยะเวลาชำระเงิน ฯลฯ
อย่างที่ได้กล่าวไปว่าการกู้เงินปิดบัตรเครดิตนั้นอาจจะไม่ได้เหมาะกับทุกคน เพราะหากคุณไม่มีระเบียบในการบริหารเงิน หรือชำระหนี้อยู่แล้ว การกู้เงินมาก็อาจเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ แถมยังมีโอกาสสูงอย่างมากที่จะโดนปฏิเสธ ดังนั้นแนะนำว่าให้หยุดการสร้างหนี้ใหม่ ชำระหนี้มากกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำ และลองเจรจากับทางสถาบันการเงินว่าจะสามารถช่วยหรือผ่อนปรนเรื่องใดให้คุณได้บ้าง
